หลังจากใช้เวลาในการเฟ้นหาดีไซเนอร์หน้าใหม่จาก โครงการ “Thai Touch Season 3” พัฒนานักออกแบบไทยปีที่ 3 ซึ่งจัดโดย กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม และ ศูนย์การค้าสยามพารากอน ในวันนี้ดีไซเนอร์ผู้ชนะเลิศของโครงการ ทั้ง 3 คน พร้อมแล้วที่จะเผยโฉมผลงานคอลเลคชั่นที่พวกเขาออกแบบในงานแถลงข่าว “ผู้ชนะเลิศโครงการพัฒนานักออกแบบไทย ปีที่ 3 (Thai Touch Season 3)” โดยมีผู้บริหารกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม อาทิ พรเทพ การศัพท์ และ วิจักขณ์ รัตนสุวรรณ ร่วมด้วย ชนิสา แก้วเรือน ผู้บริหารศูนย์การค้าสยามพารากอน และเหล่าดีไซเนอร์ชั้นนำ อาทิ ภาณุ อิงคะวัต, พลพัฒน์ อัศวะประภา, ภูภวิศ กฤตพลนารา, ณัฏฐ์ มั่งคั่ง และ ธนาวุฒิ ธนสารวิมล มาร่วมงานด้วย ณ คริสตัล คอร์ท ชั้น M ศูนย์การค้าสยามพารากอน
ชนิสา แก้วเรือน ผู้บริหารศูนย์การค้าสยามพารากอน เผยว่า ผู้ชนะเลิศทั้ง 3 คนในปีนี้จะได้รับโอกาสในการแสดงผลงานแฟชั่นโชว์บนเวที อเมซอน แฟชั่น วีค โตเกียว (Amazon Fashion Week TOKYO) ณ กรุงโตเกียวประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 16-21 ตุลาคม 2560 จึงนับเป็นครั้งแรกของเหล่านักออกแบบหน้าใหม่ ที่จะได้เปิดประสบการณ์บนเวทีระดับสากล ซึ่งการที่ศูนย์การค้าสยามพารากอน ได้รับเกียรติให้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรม Thai Touch Season 3 นี้ จึงมีความตั้งใจที่จะช่วยสนับสนุน ส่งเสริม นักออกแบบรุ่นใหม่ที่มีศักยภาพ รวมทั้งมุ่งมั่นที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาขีดความสามารถของอุตสาหกรรมแฟชั่นไทยให้เป็นที่ประจักษ์แก่สายตาชาวโลกต่อไป
จิรวัฒน์ ธำรงกิตติกุล ดีไซเนอร์รุ่นใหม่ที่สร้างสรรค์ผลงานคอลเลคชั่น Spring/Summer 2018 ได้อย่างโดดเด่นจนชนะใจกรรมการ โดยใช้เทคนิคการปักครอสสติตช์ (Cross-stitch) มาผสานกับวัสดุใหม่ๆ อย่างลงตัว กล่าวว่า “การประกวดในโครงการ Thai Touch Season 3 ถือเป็นเวทีที่ท้าทายความสามารถมาก เพราะต้องทำงานแข่งกับเวลา และยังได้มีโอกาสไปโชว์ผลงานในเวทีระดับสากล จึงต้องบริหารเวลาให้ดี นอกจากนี้การได้ไปโชว์บนเวที อเมซอน แฟชั่น วีค โตเกียว ยังทำให้เขาสามารถต่อยอดการทำงานได้อีก ไม่ใช่แค่โชว์แล้วจบ แต่ยังเปิดโอกาสให้ได้พบบายเออร์ หรือได้พบกับลูกค้าจริงๆ ซึ่งเป็นการก้าวไปอีกระดับหนึ่งของการทำงานแฟชั่น”
ด้าน ธีธัช ควรตระกูล กับผลงานคอลเลคชั่น “RITE” ที่สะท้อนถึงรากเหง้าความเป็นไทย โดยจะเน้นการผสมผสานวัสดุที่แปลกใหม่ เข้าไปในผ้าทอไทย ทั้งใยสังเคราะห์ ผ้าลินิน ใยกระดาษ เส้นหนังเทียม หนังหมู หนังแกะ หนังกลับ ฯลฯ ทำให้เกิดผ้าทอที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทั้งนี้ดีไซเนอร์หน้าใหม่เผยว่า “เวทีนี้นับเป็นเวทีแรกของการประกวด ช่วงแรกเขาจึงไม่ได้คำนึงถึงการขาย หรือการทำธุรกิจ คิดแต่เพียงทำโชว์ออกมาให้ดีที่สุด แต่หลังจากได้ร่วมกิจกรรมเวิร์คช็อป และได้รับคำแนะนำจากดีไซเนอร์มืออาชีพ ทำให้ได้เรียนรู้และเข้าใจเรื่องของการทำธุรกิจมากขึ้น จะทำอย่างไรให้แบรนด์เติบโตอย่างแข็งแรง ซึ่งการได้เข้าร่วมโครงการ Thai Touch Season 3 ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีมากและได้รับประสบการณ์ที่หาไม่ได้จากที่ไหนมาก่อน”
ปิดท้ายกับ ฐกร วรรณวงษ์ ที่มาพร้อมคอลเลคชั่น "Wong 2108" โดยสอดแทรกลูกเล่นด้วย Gimmick ที่ซ่อนไว้สำหรับการ Styling ด้วยชิ้นเสื้อผ้าที่มีช่องกระเป๋าพลาสติกใส พร้อมการนำวัสดุต่างๆ อาทิ ผ้า plastic, ผ้า patent, ผ้า PVC , ผ้า nylon, ผ้า cotton denim หรือผ้ากันน้ำ เป็นต้น มาผสานกับผ้าใยธรรมชาติอย่างคอตตอน ซึ่งดีไซเนอร์หนุ่มกล่าวว่า “รู้สึกภูมิใจที่แบรนด์สตรีทแวร์ของไทย จะได้มีโอกาสไปเดินบนเวทีอเมซอน แฟชั่นวีค โตเกียว เพราะตั้งใจทำผลงานมาเพื่อเวทีนี้โดยเฉพาะ และได้นำเสนอความเป็นตัวของตัวเองมากที่สุด สำหรับโครงการ Thai Touch Season 3 ทำให้ได้เรียนรู้อะไรหลายอย่างที่นอกเหนือจากการออกแบบ ได้ต่อยอดการทำแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็น เรื่องการตลาดหรือการทำประชาสัมพันธ์ และทำให้แฟชั่นเป็นสินค้าที่ต้องขายได้จริง”
ติดตามรายละเอียดและความเคลื่อนไหวของกิจกรรม Thai Touch Season 3 พร้อมผลงานของ 3 ดีไซเนอร์ผู้ชนะเลิศได้ที่ www.thaitouchproject.com
สำหรับผู้ชนะเลิศที่จะนำผลงานไปร่วมแสดงแฟชั่นโชว์ระดับโลกภายใต้ชื่อ อเมซอน แฟชั่น วีค โตเกียว (Amazon Fashion Week TOKYO) ประเทศญี่ปุ่น ได้แก่ จิรวัฒน์ ธำรงกิตติกุล จากแบรนด์ JIRAWAT (จิรวัฒน์) , ธีธัช ควรตระกูล จากแบรนด์ TITAT (ธีธัช) และ ฐกร วรรณวงษ์ จากแบรนด์TAKARA WONG (ทาการะ วอง)
จิรวัฒน์ ธำรงกิตติกุล ดีไซเนอร์รุ่นใหม่ที่สร้างสรรค์ผลงานคอลเลคชั่น Spring/Summer 2018 ได้อย่างโดดเด่นจนชนะใจกรรมการ โดยใช้เทคนิคการปักครอสสติตช์ (Cross-stitch) มาผสานกับวัสดุใหม่ๆ อย่างลงตัว กล่าวว่า “การประกวดในโครงการ Thai Touch Season 3 ถือเป็นเวทีที่ท้าทายความสามารถมาก เพราะต้องทำงานแข่งกับเวลา และยังได้มีโอกาสไปโชว์ผลงานในเวทีระดับสากล จึงต้องบริหารเวลาให้ดี นอกจากนี้การได้ไปโชว์บนเวที อเมซอน แฟชั่น วีค โตเกียว ยังทำให้เขาสามารถต่อยอดการทำงานได้อีก ไม่ใช่แค่โชว์แล้วจบ แต่ยังเปิดโอกาสให้ได้พบบายเออร์ หรือได้พบกับลูกค้าจริงๆ ซึ่งเป็นการก้าวไปอีกระดับหนึ่งของการทำงานแฟชั่น”
ด้าน ธีธัช ควรตระกูล กับผลงานคอลเลคชั่น “RITE” ที่สะท้อนถึงรากเหง้าความเป็นไทย โดยจะเน้นการผสมผสานวัสดุที่แปลกใหม่ เข้าไปในผ้าทอไทย ทั้งใยสังเคราะห์ ผ้าลินิน ใยกระดาษ เส้นหนังเทียม หนังหมู หนังแกะ หนังกลับ ฯลฯ ทำให้เกิดผ้าทอที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทั้งนี้ดีไซเนอร์หน้าใหม่เผยว่า “เวทีนี้นับเป็นเวทีแรกของการประกวด ช่วงแรกเขาจึงไม่ได้คำนึงถึงการขาย หรือการทำธุรกิจ คิดแต่เพียงทำโชว์ออกมาให้ดีที่สุด แต่หลังจากได้ร่วมกิจกรรมเวิร์คช็อป และได้รับคำแนะนำจากดีไซเนอร์มืออาชีพ ทำให้ได้เรียนรู้และเข้าใจเรื่องของการทำธุรกิจมากขึ้น จะทำอย่างไรให้แบรนด์เติบโตอย่างแข็งแรง ซึ่งการได้เข้าร่วมโครงการ Thai Touch Season 3 ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีมากและได้รับประสบการณ์ที่หาไม่ได้จากที่ไหนมาก่อน”
ปิดท้ายกับ ฐกร วรรณวงษ์ ที่มาพร้อมคอลเลคชั่น "Wong 2108" โดยสอดแทรกลูกเล่นด้วย Gimmick ที่ซ่อนไว้สำหรับการ Styling ด้วยชิ้นเสื้อผ้าที่มีช่องกระเป๋าพลาสติกใส พร้อมการนำวัสดุต่างๆ อาทิ ผ้า plastic, ผ้า patent, ผ้า PVC , ผ้า nylon, ผ้า cotton denim หรือผ้ากันน้ำ เป็นต้น มาผสานกับผ้าใยธรรมชาติอย่างคอตตอน ซึ่งดีไซเนอร์หนุ่มกล่าวว่า “รู้สึกภูมิใจที่แบรนด์สตรีทแวร์ของไทย จะได้มีโอกาสไปเดินบนเวทีอเมซอน แฟชั่นวีค โตเกียว เพราะตั้งใจทำผลงานมาเพื่อเวทีนี้โดยเฉพาะ และได้นำเสนอความเป็นตัวของตัวเองมากที่สุด สำหรับโครงการ Thai Touch Season 3 ทำให้ได้เรียนรู้อะไรหลายอย่างที่นอกเหนือจากการออกแบบ ได้ต่อยอดการทำแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็น เรื่องการตลาดหรือการทำประชาสัมพันธ์ และทำให้แฟชั่นเป็นสินค้าที่ต้องขายได้จริง”
ติดตามรายละเอียดและความเคลื่อนไหวของกิจกรรม Thai Touch Season 3 พร้อมผลงานของ 3 ดีไซเนอร์ผู้ชนะเลิศได้ที่ www.thaitouchproject.com