นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผวจ.สมุทรสาคร โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า...วันนี้เราได้ตรวจพบเชื้อโควิด 19 ในกลุ่มแรงงานต่างชาติของโรงงานแห่งหนึ่งในสมุทรสาคร จึงได้ปิดโรงงาน 14 วัน กักตัวพนักงานที่มีความเสี่ยงสูงในหอพัก และเร่งดำเนินการตรวจเชิงรุกทันที นอกจากนี้ เพื่อความปลอดภัยของทุกท่าน ทางสมุทรสาครเราจะเฝ้าระวังเชิงรุกกันให้เข้มข้นขึ้น โดยประกันสังคมจะเตรียมการตรวจโควิดทางน้ำลาย 15,000 ราย โดยเฉพาะบริเวณใกล้เคียงกับสถานที่ซึ่งพบการติดเชื้อ นายอำเภอทั้ง 3 อำเภอ จะช่วยชี้เป้าหมายพื้นที่แออัดของสมุทรสาคร และสุ่มตรวจกันเพิ่มเติมในพื้นที่เหล่านี้อีกสัปดาห์ละ 500 คน (นอกเหนือจากกลุ่มเสี่ยงหรือกลุ่มสัมผัสผู้ป่วยซึ่งต้องตรวจอยู่แล้วนะครับ) ช่วงนี้ยังได้รับข้อมูลทั้งจากประชาชนและภาคเอกชนว่ามีแรงงานต่างชาติหลบหนีเข้าเมืองจำนวนมาก โดยจากการเข้าจับกุมแรงงานต่างชาติในจังหวัดหนึ่ง ระบุว่าสมุทรสาครและกรุงเทพมหานครเป็นหนึ่งในจุดหมายสำคัญของกลุ่มนี้ ซึ่งนั่นก็อาจทำให้เราเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดอีกครั้ง สำหรับประเด็นนี้ เจ้าหน้าที่ได้เร่งตรวจค้นตามเบาะแสที่แจ้งมาทันที และหลังจากนี้เราจะตรวจค้นเชิงรุกกันอีกอย่างต่อเนื่องเริ่มจากพรุ่งนี้จะมีการประชุมกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการนำเข้าแรงงานต่างชาติทั้งหมด เพื่อหารือแนวทางทำงานร่วมกันให้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูงสุดแต่สิ่งหนึ่งที่ผมไม่สบายใจเลย ท่ามกลางวิกฤตเช่นนี้ คนไทยด้วยกันเองกลับ “เปิดประตูบ้าน” ลักลอบทำเรื่องผิดกฎหมายเพราะหวังผลประโยชน์ตอบแทนเป็นตัวเงิน โดยไม่คิดเลยว่ามันจะกระทบกลายเป็นปัญหาใหญ่ ทำลายสวัสดิภาพและสร้างปัญหาปากท้องของ “คนบ้านเดียวกัน” ทั้งที่รู้ว่าทุกคนกำลังย่ำแย่เต็มทีวิกฤตครั้งใหญ่ที่ผ่านมา แม้ชาวสมุทรสาครหลายท่านยังไม่ฟื้นตัวดีนัก แต่ยังมีน้ำใจสนับสนุนการดูแลผู้ติดเชื้อจากพื้นที่ใกล้เคียง ขอบคุณชาวสมุทรสาครอย่างมากสำหรับความร่วมมือในทุกด้าน รวมทั้งคอยเป็นหูเป็นตาให้กันช่วยดูแลบ้านเราผมยินดีรับฟังคำแนะนำและข้อมูลของทุกท่าน เพื่อเราจะได้ช่วยกันป้องกันสมุทรสาครให้ปลอดภัย และกลับมาฟื้นตัวได้โดยเร็วที่สุดครับ