เมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 7 พ.ค.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ บ.เกษตรก้าวหน้า ม.22 ต.ท่าพระ อ.เมือง จ.ขอนแก่น ชาวขอนแก่น จำนวนมาก รวมทั้งจากจังหวัดใกล้เคียงได้พากันออกมาหาแมงกอก แมลงศัตรูพืชที่สำคัญของต้นอ้อย อาหารอีสานชั้นเลิศ เมนูระดับภัตรคารที่ 1 ปี มีเพียง 1 ครั้งเท่านั้นในช่วงนี้ โดยที่เหล่าบรรดานักล่า ต่างพากันน้ำไฟฉาย ไฟหัวกบ และไฟส่องสว่างประเภทต่างๆ พร้อมกับแกลอนนขนาดเล็กที่มีฝาปิดหรือกระแป๋ง มาออกล่าแมงกอก ที่บินออกมาเล่นไฟในยามค่ำคืน โดยเฉพาะในไร่อ้อยและพื้นที่ที่เกษตรกรเตรียมดินไว้สำหรับปลูกอ้อย ซึ่งเป็นที่อาศัยของเหล่าบรรดาแมงกอกจำนวนมาก โดยทันทีที่แมงกอกเห็นไฟส่องสว่างจากเหล่าบรรดานักล่า ก็ต่างพากันบินมาเล่นไฟ ทั้งการบินมาเกาะที่ตัวนักล่า หือเกาะตามดินหรือตามรากเหง้าจองต้นอ้อย ซึ่งเมื่อเหล่านักล่าเห็นแสงสะท้อนของตัวแมงกอกกับแสงไฟ ก็ต่างพากันเข้าไปเก็บตัวแมงกอกใส่พาชนะที่เตรียมมากันอย่างสนุกสนาน
นายโกศล มิ่งโอโล สมาชิกสภา อบต.ท่าพระ กล่าวว่า ในช่วงนี้เป็นช่วงที่ชาวบ้านในเขต ต.ท่าพระ อ.เมือง รวมไปถึง อ.บ้านแฮด จ.ขอนแก่น และ จากพื้นที่ จ.มหาสารคาม ต่างพากันมาล่าแมงกอก ซึ่งแมงกอก นี้นั้นคือแมลงศัตรูพืชที่สำคัญของต้นอ้อย ในระยะฝักตัวหรือที่เป็นตัวหนอนก็จะเรียกว่าด้วงอ้อย แต่ในช่วงเดือน เม.ย.- พ.ค.นั้นจะโตเต็มวัย ชาวบ้านจึงเรียกกันว่าแมงกอก ซึ่งทั้งด้วงอ้อยและแมงกอก คนอีสานนั้นชื่นชอบนำมารับประทานอย่างมาก แต่ถ้าเรียกได้ว่าสุดยอดของอาหารในระดับภัตราคารบ้านทุ่งแล้ว แมงกอก หรือเจ้าด้วงอ้อยตัวโตเต็มวัย ในช่วงเดือน เม.ย.- พ.ค.นี้จะอร่อยที่สุด ชาวบ้านจึงนิยมใช้ช่วงค่ำออกมาล่าแมงกอกกันแบบวิถีอีสานที่ 1 ปี มีเพียง 1 ครั้งเท่านั้น
“ เมื่อแสงไฟสาดไปเจอตัวแมงกอก หรือแมงกอกเมื่อเห็นแสงไฟก็จะบินมาเล่นไฟ เหล่านักล่าก็จะวิ่งเข้าไปแล้วใช้มือตะปบ หรือเอาฝ่ามือครอบเอาไว้ ก่อนที่จะหยิบใส่ลงไปในภาชนะที่เตรียมมา ซึ่งต้องมีฝาปิด เพราะแมงกอกนั้นจะมีขาที่แข็งและมีหนวดและมีปากที่แข็งบางทีจับไม่ถูกวิธีก็อาจจะโดนขาและปากของแมงกอกนั้นทำอันตรายได้ ซึ่งจากการสอบถามเหล่าบรรดานักล่าทราบว่าบางวันมาล่าที่ บ.เกษตรก้าวหน้า ล่าแมงกอกได้มากที่สุดถึงวันละ 3 กก. ต่อคนเลยทีเดียว”
นายโกศล บอกเพิ่มเติมว่า จะเห็นได้ว่านักล่าแมงกอกทุกคนนั้นจะปฎิบัติตามนโยบายของรัฐจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างมาก ทีการสวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่มาล่าแมงกอก เพราะคนท่าพระเรานั้นการ์ดไม่ตกแม้แต่เสี้ยววินาทีเดียวจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ขณะที่แมงกอกเมื่อหาได้ในแต่ละวันจะมีพ่อค้ามารับซื้อถึงที่ ซึ่งราคาส่งที่นักล่าประจำถิ่นขายนั้นอยู่ที่ กก.ละ 400 บาท แต่พอพ่อค้า-แม่ค้า นำไปจำหน่ายที่ตลาดราคาจะพุ่งสูงไปที่ กก.ละ 800-1,200 บาท ซึ่งราคาจำหน่ายที่แพงนั้นเป็นเพราะเป็นอาหารพื้นบ้านประจำถิ่น ที่ผู้ที่ชื่นชอบรอรับประทาน 1 ปี มีเพียง 1 ครั้งในช่วงเวลานี้เท่านั้นและเมื่อนักล่าล่าแมงกอกมาได้ก็มียอดของการสั่งซื้อและรอคิวซื้อจนหมดทุกวัน โดยเมนูที่ผู้ที่ชื่นชอบนำไปทำเพื่อรับประทานนั้นจะต้องเป็นเมนูแมงกอกคั่วเกลือ และแมงกอกทอดกระเทียมพริกไทย เพราะแมงกอกเป็นสัตว์ที่ให้โปรตีนสูง อย่างไรก็ตามเคล็ดลับความอร่อยคือจะต้องเด็ดปีกออกก่อนทอดทุกครั้งเพราะปีกจะอมน้ำมัน ส่วนขาและหนวดของตัวแมงกอกจะเด็ดออกก่อนก็ได้แต่ส่วนใหญ่จะไม่เด็ดออกเพราะจะเพิ่มความกรุ๊บกรอบในการรับประทานได้อย่างมาก