เมื่อเวลา 14.40 น. วันที่ 7 พ.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวในรายการ PM PODCAST นายกรัฐมนตรีเล่าเรื่องผ่านเพจเฟซบุ๊กไทยคู่ฟ้า ถึงการจัดหาวัคซีนโควิด-19 ว่า เมื่อเราพิจารณาสถานการณ์ในภาพรวมที่เกิดขึ้นทั่วโลกเตือนให้เราเห็นว่าการระบาดของโควิด-19 ไม่น่าจะหายไปจากโลกนี้ได้โดยเร็ว เราต้องเตรียมรับมือกับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตตั้งแต่ตอนนี้ สิ่งที่เราต้องทำเรื่องแรกคือเราต้องเพิ่มจำนวนวัคซีนในมือของเราให้มากกว่านี้ วันนี้ตนสั่งการไปแล้วว่าประเทศไทยควรหาวัคซีนเพิ่มเติมให้เรามีถึง 150 ล้านโดสให้ได้หรือมากกว่านั้น แม้ว่าบางส่วนอาจจะส่งมอบให้เราในปีหน้าก็ตาม ทั้งนี้เพื่อเป็นการเตรียมการรับความเสี่ยงเรื่องวัคซีน นายกฯ กล่าวว่า ปัจจุบันเราได้ตั้งเป้าเดิมไว้จัดซื้อวัคซีน 100 ล้านโดส เพื่อให้เพียงพอสำหรับฉีดให้ประชาชน 50 ล้านคน โดยหวังว่าจะสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ภายในประเทศได้ แต่คิดว่าเท่านั้นยังไม่พอ เพราะทุกวันนี้จากสถานการณ์ทั่วโลกยังไม่มีความชัดเจนว่าการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่จากไวรัสตัวนี้จะเกิดขึ้นได้จริงหรือไม่ และจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ตนมีความกังวลในเรื่องนี้ ระยะต่อไปคงต้องมีแผนสำรองตลอดเวลาแต่วันนี้เราได้รับคำยืนยันจากทั่วโลกว่า ฉีดดีกว่าไม่ฉีด และฉีดเข็มเดียวก็ดีกว่าไม่ฉีด ดังนั้นเราควรต้องมีวัคซีนให้เพียงพอสำหรับคนไทยทุกคน ซึ่งประเทศเรามีประชากรผู้ใหญ่อยู่ประมาณ 60 ล้านคน เท่ากับว่าเราจะต้องมีวัคซีนอย่างน้อย 120 ล้านโดส และต้องกำนึงถึงแรงงานอื่นๆด้วยที่อยู่ในภาคธุรกิจ ทั้งนี้เราจะต้องมีวัคซีนเผื่อไว้เพียงพอสำหรับความเสี่ยงและความไม่แน่นอนอื่นๆด้วยอาจจะต้องถึง 150-200 ล้านโดสในระยะต่อไปแต่ทั้งนี้ต้องคำนึงถึงอายุการใช้งานของวัคซีนและสถานการณ์ในปีหน้าด้วย นายกฯ กล่าวว่า คำถามที่ถามว่าเมื่อฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว ประสิทธิภาพของวัคซีนจะคงอยู่ได้นานเท่าไหร่ และเราจำเป็นที่จะต้องฉีดเข็มที่สามอีกหรือไม่ เรื่องนี้ต้องติดตามและเตรียมการไว้ล่วงหน้าโดยติดตามจากข้อมูลหลายประเทศที่กำลังพิจารณาอยู่ขณะนี้ รวมถึงเรื่องกลายพันธุ์ของไวรัสที่สร้างความวิตกกังวลอยู่ตลอดเวลา เราก็จะพยายามทำให้ดีที่สุด ทั้งนี้เราก็ต้องเตรียมความพร้อมในเรื่องของการส่งมอบวัคซีนที่ส่งมอบไม่ครบตามจำนวน และการส่งมอบล่าช้า ซึ่งหลายประเทศทั่วโลกคาดการณ์ว่าในช่วงเวลานี้อาจจะได้รับการส่งมอบวัคซีนในจำนวนที่น้อยกว่าครึ่งหนึ่งที่สั่งไป แต่เรายังโชคดีที่ยังมีการผลิตวัคซีนแอสตราเซเนกาในประเทศไทย เราควรจะต้องเตรียมการเผื่อไว้สำหรับความเสี่ยงและความไม่แน่นอนต่างๆตนคิดว่ามีให้เกินไว้ดีกว่าขาด มีแผนหลัก แผนรอง แผนเผชิญเหตุตามสถานการณ์ที่คาดการณ์ไว้ล่วงหน้า พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เรื่องที่สองตนได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานทำงานเชิงรุกให้มากยิ่งขึ้นเพื่อให้การเจรจาสั่งซื้อวัคซีนของเรามีความคืบหน้าที่เร็วกว่านี้ ให้มีการเจรจากับผู้ผลิตหลายรายเพื่อเพิ่มโอกาสในการได้วัคซีนเพิ่มขึ้น เราได้มีการเจรจากับผู้ผลิตวัคซีนถึง 7 ราย และจะมีการเจรจาเพิ่มเติมอีกรวมถึงวัคซีนใหม่ๆ จากผู้ผลิตรายใหม่ด้วยโดยต้องเป็นไปตามขั้นตอนของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเช่นสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ที่จะต้องพิจารณาให้รวดเร็ว ในขณะที่ทั้งโลกพยายามแย่งซื้อวัคซีนให้กับประเทศของตัวเอง มันก็ไม่ง่ายนักเพราะต้องขึ้นอยู่กับสิทธิบัตรของผู้ผลิต ขีดความสามารถ และรัฐบาลของเขาที่จะอนุมัติให้ส่งออก ทำให้การจัดหาและจัดซื้อวัคซีนเป็นเรื่องที่ยากลำบากพอสมควร แต่เราก็ต้องพยายามหาทางทำให้ดีขึ้นกว่าเดิม พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่แล้วได้รับการยืนยันว่าเราจะได้วัคซีนเพิ่ม 3,500,000 โดส และจะมีการส่งมอบให้กับประเทศไทยในเดือนนี้ ถือเป็นจำนวนที่เพิ่มเติมขึ้นจากยอดเดิมที่เราได้ดำเนินการไว้เพื่อใช้ในเดือนพ.ค. ต้องขอขอบคุณกระทรวงสาธารณสุข ทุกกระทรวงและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ช่วยดำเนินการอย่างรวดเร็วซึ่งเรื่องนี้ก็ผ่านช่องทางของกระทรวงการต่างประเทศโดยรัฐบาลด้วย นายกฯ กล่าวว่า การตัดสินใจในภาพใหญ่เรื่องที่สามคือ เรื่องการปรับแนวทางการฉีดวัคซีนซึ่งจะมีการเร่งเครื่องการฉีดวัคซีนเข็มแรกหลังจากการหารืออย่างเข้มข้นจากผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์และสาธารณสุข เราต้องปรับมาให้ความสำคัญในการฉีดวัคซีนเข็มแรกให้ประชาชนจำนวนมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เนื่องจากทางการแพทย์มีความเห็นไปในทางเดียวกันว่า หลังจากที่ได้รับการฉีดวัคซีนแม้แต่เพียงเข็มแรกก็จะสามารถช่วยลดโอกาสในการรับเชื้อ ลดความรุนแรงของอาการ และลดโอกาสในการเสียชีวิตได้อย่างมาก ถึงแม้จะมีผลข้างเคียงอยู่บ้างก็จะดำเนินการแก้ไขต่อไป “เมื่อพวกเรารู้อย่างนี้แล้วเราควรจะต้องร่วมมือกัน ช่วยกัน เร่งเครื่อง เดินหน้าให้เร็ว ปูพรมฉีดวัคซีนเข็มแรกให้ได้จำนวนมากที่สุดกับประชาชน โดยประมาณเดือนก.ค.นี้ ผมคาดการณ์ว่าประชากรผู้ใหญ่จำนวนครึ่งหนึ่งของทั้งประเทศจะได้รับการฉีดวัคซีนเข็มแรกแล้ว และได้รับการปกป้องจากอันตรายของโควิด-19 ในระดับที่มากพอสมควร จากที่ผ่านมาจนถึงวันนี้และวันต่อๆไปเราจะเร่งรัดในเรื่องของวัคซีน ซึ่งได้จัดหามาทั้งในส่วนพิเศษและของเดิม ให้เพิ่มมากขึ้นในทุกพื้นที่และทุกกลุ่มกิจกรรมตามลำดับในเรื่องของความเสี่ยง” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว โดยช่วงท้ายนายกฯ กล่าวว่า ตอนที่เริ่มมีการระบาดของ โควิด-19 ครั้งแรกด้วยการร่วมแรงร่วมใจของคนไทยทุกคน ความพร้อมใจ ในการลงมือทำทุกอย่างอย่างเข้มแข็งทันที ทั้งการทำงานและการร่วมมือกันทั้งประเทศช่วยทำให้เราสามารถหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดสถานการณ์ที่คนไทยต้องเสียชีวิตเป็นหมื่นเป็นแสนรายเหมือนที่ประเทศชั้นนำของโลกหลายประเทศต้องเจอ ในวันนี้สถานการณ์ปัจจุบันรัฐบาลจึงจำเป็นจะต้อง ดำเนินการต่างๆอย่างรวดเร็วเด็ดขาด ขอขอบคุณประชาชนคนไทยที่รักทุกคน