จากกรณีนางตวงรัตน์ กัลยาสิริวัฒน์ อายุ 66 ปี เจ้าของร้านตัดผมชื่อ "ท๊อปบาร์เบอร์" ถูกคนร้ายงัดร้านเข้ามาขโมย ปัตเตอร์เลี่ยนตัดผม 7 เครื่อง กรรไกรตัดผม 6 อัน แปรงปัดผม 2 อัน ใบมีดโกน 1 กล่อง  หวี 9 อัน  กระเป๋าเป้สีส้ม 1 ใบ และเงินสด 1,500 บาท ราคารวมประมาณ 16,000 บาท  เกิดเหตุบริเวณร้านตัดผมชายท็อปบาร์เบอร์ เลขที่ 58/33 ม.3 ถ.บอนสตรีท ต.คลองเกลือ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี แจ้งความไว้กับพ.ต.ท.ประมวล นวลงาม สว.(สอบสวน)สภ.ปากเกร็ด     ภาพจากกล้องวงจรปิดจับภาพเวลา 01.27น. วันที่ 30 เม.ย 64 จับภาพคนร้ายเป็นชายรูปร่างสูงสวมกางเกงขายาวสีครีม ใส่เสื้อคลุมเเขนยาวสีดำ สวมหมวกกันน๊อคครึ่งใบสีเเดงใส่แมส สวมรองเท้าแตะสีดำ ถือถุงผ้า 1 ใบ เเละสะพายกระเป๋าสีเเดง กำลังเดินตรงเข้าไปที่ร้านและใช้อุปกรณ์ตัดประตูเหล็กเข้าไปในร้าน ต่อมาเวลา 01.47น. คนร้ายได้เดินออกมาจากร้านเเละมีกระเป๋าสีส้มเพิ่มมา 1 ใบ ใส่ของมาเเน่นกระเป๋า และรีบเดินออกไปอย่างรวดเร็ว    ต่อมาทางพ.ต.อ.พงศ์จักร ปรีชาการุณพงศ์ ผกก.สภ.ปากเกร็ดได้สั่งการพ.ต.ท.ศุภกฤช  เดือนแจ้งรัมย์ รอง ผกก.สส.สภ.ปากเกร็ด พ.ต.ท.วรพจน์ ฉิมลอยลาภ สว.สส., ร.ต.อ.สุชาติ แสงเดือน รอง สว.สส. พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ปากเกร็ดเร่งติดตามตัวคนร้ายจนกระทั่งสืบทราบว่าคนร้ายคือนายสายันต์หรือเต้  น้อยยุภา อายุ 40 ปี บ้านเลขที่ 36 ม.3 ต.บึงงาม อ.ทุ่งเขาหลวงวงจ.ร้อยเอ็ด จึงได้วางแผนเข้าจับกุมตัวได้ที่ร้านตัดผมแห่งหนึ่ง ย่านจรัญสนิทวงศ์ โดยคนร้ายได้ไปสมัครเป็นช่างตัดผมได้เพียงแค่ 3 วัน  โดยจับกุมตัวได้พร้อมของกลางปัตตาเลี่ยน  จำนวน 6 ตัว ฟันรองปัตตาเลี่ยน จำนวน 10 อัน กรรไกร จำนวน 7 เล่ม ไดร์เป่าผม  จำนวน 1 เครื่อง  หวีจำนวน 10 อัน แปลงจำนวน 3 อัน ใบมีดโกน จำนวน 2 กล่อง เครื่องเล่นเพลงไอพอดสีฟ้า จำนวน 1 เครื่อง กระเป๋าถือสีส้ม จำนวน 1 ใบ กระเป๋าสะพายสีชมพู จำนวน 1 ใบ หมวกกันน็อคสีน้ำตคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม     จากการสอบสวนทราบว่าผู้ต้องหาเคยทำงานอยู่ที่ร้านดังกล่าวและออกไปประมาณ 5 เดือน สาเหตุเนื่องจากน้อยใจเจ้าของร้านที่ติดกล้องวงจรปิดภายในร้าน เพราะตนเองพักอาศัยกินนอนอยู่ในร้านตัดผม หลังจากลาออกจากร้าน ได้กลับไปอยู่บ้านที่จังหวัดร้อยเอ็ด แล้วเดินทางกลับมาอีกครั้งจนมาก่อเหตุดังกล่าว เบื้องต้นคนร้ายสารภาพว่าได้นำเงินไปใช้จ่ายทั่วไป