เมื่อวันที่ 7 เม.ย.นายเทพไท เสนพงศ์ อดีตส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง มติคณะรัฐมนตรีในการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 รอบ3 ซึ่งมีทั้งหมด 7 มาตรการ คือ 1) โครงการเราชนะ จำนวนกลุ่มเป้าหมาย 32.9 ล้านคน 2) โครงการ ม. 33 เรารักกัน จำนวนกลุ่มเป้าหมาย 9.27 ล้านคน 3.โครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวนกลุ่มเป้าหมาย 13.65 ล้านคน 4.โครงการคนละครึ่งเฟส 3 จำนวนกลุ่มเป้าหมาย 31 ล้านคน 5.โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ จำนวนกลุ่มเป้าหมาย 4 ล้านคน 6.โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ต้องการความช่วยเหลือพิเศษ จำนวนกลุ่มเป้าหมาย 2.5 ล้านคน 7.โครงการลดค่าน้ำประปาค่าไฟฟ้า 10% เป็นเวลา 2 เดือน ซึ่งงบประมาณการเยียวยาในครั้งนี้ ถือว่าเป็นเม็ดเงินที่น้อยกว่า การระบาดของไวรัสโควิด-19 รอบแรก แต่มั่นใจว่า รัฐบาลสามารถเยียวยาได้รวดเร็วและทำได้สำเร็จใน 3 มาตรการ ที่ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมาย 55 ล้านคน คือ โครงการเราชนะ,โครงการ ม.33 เรารักกัน และโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เพราะรัฐบาลได้เคยดำเนินการแจกเงินเยียวยาในรอบแรกได้สำเร็จ มีการเบิกจ่ายสูงถึง 93.58% ในขณะที่โครงการด้านสาธารณสุข จ่ายไปแค่ 25% และโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจชุมชน ได้จ่ายเพียง 7.82%เท่านั้น ส่วนโครงการลดค่าน้ำประปา และค่าไฟฟ้า 10% จำนวน 2 เดือนนั้น เป็นการเยียวยาที่น้อยเกินไป ทั้งที่ 2 หน่วยงานนี้เป็นรัฐวิสาหกิจในสังกัดของรัฐบาล น่าจะ เยียวยาลดค่าน้ำประปา ค่าไฟฟ้า 50% จำนวน 6 เดือนซึ่งจะมีความเหมาะสมกับการเยียวยาประชาชน เพราะการลดแค่ 10% ยังน้อยกว่ามหกรรมลดราคาสินค้าในห้างสรรพสินค้าเสียด้วยซ้ำไป แม้ว่าจะทำให้รัฐวิสาหกิจของรัฐบาลขาดรายได้ไปบ้าง ก็ขอให้คิดว่าเป็นการคืนกำไร หรือช่วยเหลือประชาชนในยามยาก "สิ่งที่อยากจะฝากให้รัฐบาล เข้าไปดูแลการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 อย่างทั่วถึง คือ การเยียวยาผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่มีกลุ่มเป้าหมายจำนวน 13.65 ล้านคน แต่ยังมีคนฐานะยากจนจริงๆในพื้นที่ชนบท ตกหล่นจากการสำรวจขึ้นทะเบียนคนจน จึงไม่ได้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐหรือบัตรคนจนของรัฐบาล จนถึงบัดนี้รัฐบาลก็ยังไม่มีการปรับปรุงข้อมูลผู้มีสิทธิ์ถือสวัสดิการแห่งรัฐ คนที่มีฐานะมีอันจะกิน ยังถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐต่อไป ในขณะที่คนจนจริงๆกลับไม่ได้รับสิทธิ์ดังกล่าว จึงอยากจะให้รัฐบาลได้ปรับปรุงข้อมูลใหม่ เพื่อตัดสิทธิ์คนรวย และช่วยผู้มีฐานะยากจนที่แท้จริง ให้ได้รับสิทธิ์ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐของรัฐบาลด้วย"นายเทพไท กล่าว