วันนี้ (6 พ.ค. 64) ที่ ศูนย์บัญชาการสถานการณ์การระบาดโรค Covid-19 จังหวัดเชียงใหม่ นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ มอบหมายให้ นายกนก ศรีวิชัยนันท์ ปลัดจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วย ดร.ทรงยศ คำชัย หัวหน้ากลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกันแถลงสถานการณ์การระบาดของโรค Covid-19 จังหวัดเชียงใหม่
นายกนก ศรีวิชัยนันท์ ปลัดจังหวัดเชียงใหม่ ได้กล่าวถึงสถานการณ์การระบาดโรค Covid-19 จังหวัดเชียงใหม่ ว่า ในวันนี้ตัวเลขผู้ติดเชื้อจะสูงขึ้นแต่ถือเป็นตัวเลขในระดับต่ำ การรักษาตัวของผู้ป่วยในโรงพยาบาลสนามทั้ง 3 แห่งหลัก ก็พบจำนวนผู้ป่วยลดลงตามลำดับ คาดว่าจะทำการปิดโรงพยาบาลสนาม ทั้งที่มหาวิทยาลัยแม่โจ้ และโรงพยาบาลสนามมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ได้ เนื่องจากผู้ป่วยที่พ้นระยะรักษาหายแล้วกลับบ้านเพิ่มขึ้น
ด้าน ดร.ทรงยศ คำชัย หัวหน้ากลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เผยถึง สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค Covid-19 ว่า ในวันนี้ (6 พ.ค. 64) พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น จำนวน 33 ราย ซึ่งจำนวนที่เพิ่มขึ้นนี้ยังไม่มีการพบในคลัสเตอร์ใหม่ เพียงแต่เกิดจากการเหลื่อมเวลาในการส่งข้อมูลผู้ติดเชื้อในการออกรหัสผู้ติดเชื้อรายใหม่ รวมยอดผู้ติดเชื้อสะสม 3,822 ราย รักษาหายแล้ว 2,829 ราย และยังคงมีผู้รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลทุกประเภท จำนวน 984 ราย วันนี้ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม เสียชีวิตสะสม 9 ราย
สำหรับผู้ป่วยที่พักรักษาตัว แยกเป็นผู้ป่วยไม่มีอาการหรืออาการเล็กน้อย (สีเขียว) 732 ราย อาการปานกลาง (สีเหลือง) 131 ราย อาการค่อนข้างหนัก (สีส้ม) 70 ราย และอาการหนัก (สีแดง) 17 ราย
การตรวจหาเชื้อในกลุ่มเสี่ยงผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ในส่วนของโรงพยาบาลประจำอำเภอ พบร้อยละ 9.53 โรงพยาบาลเอกชน ร้อยละ 8.95 โรงพยาบาลสนามเชียงใหม่ ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา (จุดตรวจคัดกรอง) ร้อยละ 6.64 แสดงให้เห็นว่าการติดเชื้อได้แพร่กระจายออกไปในต่างอำเภอหลายอำเภอ ซึ่งสอดคล้องกับการเกิดคลัสเตอร์ในหลายอำเภอ เช่น อำเภออมก๋อย ฮอด หางดง และอำเภอเชียงดาว พบว่ามีความเสี่ยงจากการสัมผัสในครอบครัวเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งสัมผัสในชุมชนก็เพิ่มขึ้น ส่วนในที่ทำงานยอดสะสมลดลงเล็กน้อย อาจเนื่องมาจากมาตรการ Work From Home
สำหรับการตรวจคัดกรองเชิงรุก พื้นที่เสี่ยงที่บริษัทรถโดยสารประจำทางแห่งหนึ่ง พบผู้ติดเชื้อ 1 ราย เป็นพนักงานขับรถทัวร์ ก่อนตรวจคัดกรองมีการขับรถไปยังกรุงเทพ และกลับมายังจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งขณะนี้ค้นหาผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 23 ราย ตรวจหาเชื้อแล้ว ส่วนผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ 11 ราย เป็นผู้โดยสาร ได้มีการโทรแจ้งให้สังเกตอาการตัวเองที่บ้านเป็นเวลา 14 วัน ในการติดตามผู้เดินทางจากจังหวัดควบคุมสูงสุดและเข้มงวด เดินทางเข้ามาในจังหวัดเชียงใหม่มี 1,427 ราย ติดตามได้ร้อยละ 39.10 ทั้งนี้ทางทีมโควิดของชุมชนกำลังเร่งติดตามให้ครบ
สำหรับคัสเตอร์ที่ โลตัสรวมโชค วันนี้ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ได้ลงพื้นที่เชิงรุก ตรวจคัดกรอง 301 ราย โดยจะทราบผลในวันพรุ่งนี้ ขณะนี้พบผู้ติดเชื้อมีเพียงที่ร้านทองเยาวราช และที่ศูนย์อาหาร ซึ่งทางเทศบาลตำบลฟ้าฮ่ามได้ทำการฉีดพ่นฆ่าเชื้อ และปิดโซนดังกล่าวไปแล้ว ในช่วงที่พบผู้ป่วย เมื่อวันที่ 25-26 เมษายน 2564 ส่วนโซนอื่น ๆ ยังไม่มีความจำเป็นต้องปิด จนกว่าจะพบผู้ติดเชื้อเพิ่ม ส่วนร้านทองได้นำพนักงานจากสาขาอื่นมาให้บริการแล้ว ดังนั้นจึงขอให้ผู้ที่ไปใช้บริการในช่วงวันที่ 22 เมษายน – 4 พฤษภาคม ให้สังเกตอาการ หากมีอาการให้ไปขอรับการตรวจได้
นายกนก ศรีวิชัยนันท์ ปลัดจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ตามที่จังหวัดเชียงใหม่ได้ดำเนินการแจกชุดธารน้ำใจกู้ชีวิต ฝ่าวิกฤต COVID-19 ซึ่งเหล่ากาชาดจังหวัดเชียงใหม่ นำโดยนางสุดาภรณ์ สงวนสัตย์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับสถานีกาชาดที่ 3 และกิ่งกาชาดอำเภอ ดำเนินการส่งมอบชุดธารน้ำใจฯไปแล้ว รวม 310 ชุด ในพื้นที่ 8 อำเภอ เพื่อนำไปให้กับผู้ที่มีความเสี่ยงสูงและแยกกักตัวสังเกตอาการ ซึ่งมีฐานะยากจน รวมถึงผู้ถูกเลิกจ้างงานเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ทั้งนี้ขอประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องชาวจังหวัดเชียงใหม่ที่ประสบความเดือดร้อน ได้ประสานกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และอสม. ในพื้นที่ลงทะเบียนแอพพลิเคชั่น พ้นภัย เพื่อจะได้ให้การช่วยเหลือต่อไป
และจากการที่จังหวัดเชียงใหม่ได้มีประกาศ เรื่องการกำหนดพื้นที่ควบคุมการเข้า-ออก ในพื้นที่ 2 อำเภอ คือ พื้นที่บ้านไร่ หมู่ที่ 5 ตำบลหารแก้ว อำเภอหางดง โดยได้ขอความร่วมมือของประชาชนในพื้นที่งดออกจากบ้าน พร้อมทั้งห้ามประชาชนพื้นที่อื่นเดินทางเข้า-ออกบริเวณดังกล่าว และได้มีการจัดเจ้าหน้าที่อยู่เวรยาม ตั้งจุดสกัด จุดคัดกรอง ตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งสั่งให้ผู้สัมผัสกลุ่มเสี่ยงสูงดำเนินการกักตัวจำนวน 14 วัน โดยเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม ที่ผ่านมาได้มีการตรวจคัดกรองเชิงรุก 164 ราย พบว่าทุกรายไม่พบเชื้อ ทั้งนี้ขอให้มั่นใจว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จะดีขึ้นและเข้าสู่สภาวะปกติภายในสัปดาห์หน้า
ในส่วนของหมู่บ้านแม่อ้อใน (หย่อมบ้านห้วยน้ำฮาก) หมู่ที่ 8 ตำบลแม่นะ อำเภอเชียงดาว ขณะนี้อยู่ในการควบคุมอย่างเข้มข้น ได้มีการตั้งจุดตรวจ จุดสกัด เน้นเฉพาะหย่อมบ้านห้วยน้ำฮาก ซึ่งเป็นจุดที่มีการพบผู้ติดเชื้อ รวมทั้งมีการตั้งจุดตรวจควบคุมการเข้า-ออกในพื้นที่ พร้อมตรวจคัดกรองเชิงรุก 125 ราย ไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม แต่อย่างใด โดยสรุปสถานการณ์ของทั้งสองหมู่บ้านมีแนวโน้มที่ดีขึ้น และคาดว่าภาพรวมสถานการณ์ของจังหวัดเชียงใหม่จะดีขึ้นในเร็วๆนี้