ศาลไม่ให้ประกันตัว “ขนุน สิรภพ” แกนนำม็อบ 3 นิ้ว มศว คดี ม.112 วันที่ 6 พ.ค. 2564 ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ถ.เจริญกรุง 63 พนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้ 3 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายสิรภพ พุ่มพึ่งพุทธ หรือขนุน อายุ 20 ปี แกนนำกลุ่ม มศว. คนรุ่นเปลี่ยน และ นายชูเกียรติ แสงวงค์ หรือจัสติน อายุ 30 ปี ทั้งสองเป็นแนวร่วมผู้ชุมนุมกลุ่มราษฎร เป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐาน หมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์, ร่วมกันจัดกิจกรรม รวมกลุ่มใช้สิทธิเพื่อการชุมนุมโดยไม่แจ้งการชุมนุมต่อผู้รับแจ้งก่อนเริ่มการชุมนุมไม่น้อยกว่า 24 ชั่วโมง และไม่จัดให้มีมาตรการป้องกันโรคตามที่ทางราชการกำหนด ตาม ป.อาญา ม.112, พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ และ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ คำฟ้องระบุพฤติการณ์ กรณีจำเลยทั้งสองชุมนุมเมื่อวันที่ 18 พ.ย. 2563 ที่บริเวณแยกราชประสงค์ โดยจำเลยที่ 1-2 ใช้เครื่องขยายเสียงกล่าวปราศรัย มีเนื้อหาหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ โดยมีเจตนาทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นที่เคารพบูชาของประชาชนชาวไทย และอยู่ในฐานะที่ผู้ใดจะละเมิดมิได้ ทำให้ประชาชนเสื่อมศรัทธา ไม่เคารพพระมหากษัตริย์ เหตุเกิดที่แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กทม.ชั้นสอบสวนจำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ โดยนายชูเกียรติ จำเลยที่ 2 ถูกฝากขังระหว่างสอบสวน ไม่ได้ประกันตัวในคดีความผิดตาม ม.112 คดีอื่น และถูกคุมขังอยู่ในทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ เนื่องจากติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ภายหลังยื่นฟ้องแล้ว ศาลนัดสอบคำให้การและนัดตรวจพยานหลักฐาน ในวันที่ 5 ก.ค. 2564 เวลา 9.00 น. ต่อมานายสิรภพ จำเลยที่ 1 ได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า จำเลยที่ 1 ถูกฟ้องในความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร ความผิดต่อองค์พระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นสถาบันหลักของประเทศ ก่อให้เกิดความเสียหายต่อประเทศชาติ และคดีมีอัตราโทษจำคุกสูง กรณีจึงมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่า หากปล่อยชั่วคราว จำเลยที่ 1 อาจก่อเหตุลักษณะเดียวกันกับที่โจทก์ฟ้องคดีนี้ซ้ำอีก จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวในระหว่างพิจารณา ยกคำร้อง