นายพอลล์ กาญจนพาสน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท บางกอกแลนด์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี กล่าวถึงสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ ซึ่งมีการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วขยายวงกว้าง ทำให้มีผู้ติดเชื้อที่ต้องเข้ารับการรักษาเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้โรงพยาบาลไม่สามารถรองรับผู้ป่วยได้เพียงพอ ทางศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี ตระหนักถึงความสำคัญที่ต้องให้ความช่วยเหลือภาครัฐบาลและประชาชนผู้ติดเชื้อที่ต้องเข้ารับการดูแลรักษาอย่างเร่งด่วน
ดังนั้นจึงได้เสนออาคารชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี พื้นที่กว่า 100,000 ตารางเมตร เป็นอาคารที่มีพื้นที่ในร่มโถงขนาดใหญ่ โดยไม่มีเสากั้นกลาง ให้ทางกระทรวงสาธารณสุขพิจารณาเป็นสถานที่จัดตั้งโรงพยาบาลสนาม เพื่อดูแลผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยไม่คิดค่าเช่าพื้นที่ ระยะเวลา 2 เดือน มีผลตั้งแต่เดือนพฤษภาคม – เดือนมิถุนายน 2564 ถือเป็นอีกหนึ่งโรงพยาบาลสนามของจังหวัดนนทบุรี และเป็นโรงพยาบาลสนามที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ด้วยขนาดพื้นที่กว้างขวางคาดว่าจะรองรับผู้ป่วยได้มากถึง 5,200 เตียง โดยเบื้องต้นจากการหารือส่วนงานราชการ กระทรวงสาธารณสุข จะแบ่งพื้นที่ชาเลนเจอร์อาคาร 1 อาคาร 2 อาคารละ 2,000 เตียง สำหรับผู้ป่วยกลุ่มสีเหลือง ส่วนอาคาร 3 อีก 1,200 เตียง เตรียมพร้อมสำหรับผู้ป่วยที่มีอาการ โดยติดตั้งเต็นท์ความดันลบและเครื่องช่วยหายใจ
ทั้งนี้หลังมติ ครม. เห็นชอบจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม อิมแพ็ค เมืองทองธานี ทางศูนย์ฯ จึงได้ดำเนินการทำความสะอาด ปรับปรุงพื้นที่อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 พร้อมส่งมอบต่อเจ้าหน้าที่สาธารณสุขตรวจสอบและดำเนินการกำกับตามมาตรฐานพื้นที่ป้องกันควบคุมโรคแล้ว โดยกระทรวงสาธารณสุขมอบหมายกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ รับผิดชอบหลักในการจัดการพื้นที่ ทั้งระบบระบายอากาศ ระบายน้ำ ระบบบำบัดน้ำเสีย ระบบกล้องวงจรปิด ให้ได้มาตรฐาน พร้อมร่วมกับภาคเอกชนอื่นๆ ติดตั้งสัญญาณอินเทอร์เน็ต เป็นการอำนวยความสะดวกครบวงจร
อย่างไรก็ตาม การแสดงเจตจำนงส่งมอบสถานที่อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ให้ทางกระทรวงสาธารณสุข ดำเนินการเป็นโรงพยาบาลสนามครั้งนี้ หวังอย่างยิ่งจะสร้างประโยชน์ต่อสังคม ประเทศชาติ ร่วมสนับสนุนความปลอดภัยด้านสาธารณสุขของประชาชนเป็นสำคัญ สุดท้ายนี้ ขอร่วมส่งกำลังใจให้บุคลากรทางการแพทย์ หน่วยงานผู้ดูแลควบคุมโรค และคนไทยทุกคน ผ่านพ้นสถานการณ์นี้ไปได้ด้วยกันในเร็ววัน
ดังนั้นจึงได้เสนออาคารชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี พื้นที่กว่า 100,000 ตารางเมตร เป็นอาคารที่มีพื้นที่ในร่มโถงขนาดใหญ่ โดยไม่มีเสากั้นกลาง ให้ทางกระทรวงสาธารณสุขพิจารณาเป็นสถานที่จัดตั้งโรงพยาบาลสนาม เพื่อดูแลผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยไม่คิดค่าเช่าพื้นที่ ระยะเวลา 2 เดือน มีผลตั้งแต่เดือนพฤษภาคม – เดือนมิถุนายน 2564 ถือเป็นอีกหนึ่งโรงพยาบาลสนามของจังหวัดนนทบุรี และเป็นโรงพยาบาลสนามที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ด้วยขนาดพื้นที่กว้างขวางคาดว่าจะรองรับผู้ป่วยได้มากถึง 5,200 เตียง โดยเบื้องต้นจากการหารือส่วนงานราชการ กระทรวงสาธารณสุข จะแบ่งพื้นที่ชาเลนเจอร์อาคาร 1 อาคาร 2 อาคารละ 2,000 เตียง สำหรับผู้ป่วยกลุ่มสีเหลือง ส่วนอาคาร 3 อีก 1,200 เตียง เตรียมพร้อมสำหรับผู้ป่วยที่มีอาการ โดยติดตั้งเต็นท์ความดันลบและเครื่องช่วยหายใจ
ทั้งนี้หลังมติ ครม. เห็นชอบจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม อิมแพ็ค เมืองทองธานี ทางศูนย์ฯ จึงได้ดำเนินการทำความสะอาด ปรับปรุงพื้นที่อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 พร้อมส่งมอบต่อเจ้าหน้าที่สาธารณสุขตรวจสอบและดำเนินการกำกับตามมาตรฐานพื้นที่ป้องกันควบคุมโรคแล้ว โดยกระทรวงสาธารณสุขมอบหมายกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ รับผิดชอบหลักในการจัดการพื้นที่ ทั้งระบบระบายอากาศ ระบายน้ำ ระบบบำบัดน้ำเสีย ระบบกล้องวงจรปิด ให้ได้มาตรฐาน พร้อมร่วมกับภาคเอกชนอื่นๆ ติดตั้งสัญญาณอินเทอร์เน็ต เป็นการอำนวยความสะดวกครบวงจร
อย่างไรก็ตาม การแสดงเจตจำนงส่งมอบสถานที่อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ให้ทางกระทรวงสาธารณสุข ดำเนินการเป็นโรงพยาบาลสนามครั้งนี้ หวังอย่างยิ่งจะสร้างประโยชน์ต่อสังคม ประเทศชาติ ร่วมสนับสนุนความปลอดภัยด้านสาธารณสุขของประชาชนเป็นสำคัญ สุดท้ายนี้ ขอร่วมส่งกำลังใจให้บุคลากรทางการแพทย์ หน่วยงานผู้ดูแลควบคุมโรค และคนไทยทุกคน ผ่านพ้นสถานการณ์นี้ไปได้ด้วยกันในเร็ววัน