วันที่ 6 พฤษภาคม พลโท เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 เป็นประธานมอบกล่องของขวัญให้แก่พี่น้องชาวมุสลิมห้วงเดือนรอมฎอน ในโครงการ "ละศีลอดกษัตริย์ซัลมาน บิน อาซีซ" กษัตริย์แห่งประเทศซาอุดิอาระเบีย ที่ได้จากโครงการมอบกล่องของขวัญ ในช่วงเดือนรอมฎอน ปีฮัจเราะห์ศักราช 1442 ให้กับพี่น้องมุสลิมทั่วโลก โดยเฉพาะในห้วงวิกฤตที่ต้องประสบปัญหาการแพร่เชื้อโควิด-19 ทำให้ประชาชนยิ่งได้รับผลกระทบอย่างหนักที่ต้องหยุดงานและเสี่ยงกับภาวะติดเชื้อได้ง่าย สำหรับในประเทศไทยนั้น ได้ส่งมอบกล่องของขวัญผ่านผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อาลี สาเมาะ รองผู้อำนวยการสถาบันฮาลาล มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ผู้แทนสถานทูตซาอุดิอาระเบีย และประธานมูลนิธิสานสัมพันธ์เพื่อมนุษยชาติ โดยมีหลายหน่วยงานร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ สำหรับกิจกรรมดังกล่าวได้ดำเนินการมอบไปยังหลาย อำเภอใน จ.ปัตตานี ซึ่งได้มีการตั้งจุดคัดกรอง วัดอุณหภูมิและฉีดแอลกอฮอล์ผู้ที่มาร่วมทุกคน เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อโควิดและเป็นมาตรการป้องกันอย่างเข้มงวด ส่วนประชาชนที่ได้รับของขวัญส่วนใหญ่เป็นผู้ยากไร้ ยากจน และเด็กกำพร้า ที่ได้รับการคัดเลือกจากตัวแทนพื้นที่ บรรยากาศเป็นไปด้วยความชื่นมื่น ประชาชนต่างดีใจที่ได้รับของขวัญจากกษัตริย์ ประเทศซาอุดิอาระเบีย โดยแม่ทัพภาคที่ 4 มามอบให้ และจะมีการทยอยมอบกล่องของขวัญอีกในหลายอำเภอของ จ.ปัตตานี
ทั้งนี้ พระองค์ ได้ฝากข้อความ ผ่านทางรัฐมาตรีกิจการศาสนาและ ดร.ยูโซฟ อัลฮำมูดี ที่ปรึกษากิจการพิเศษด้านศาสนาประจำสถานทูตซาอุดีอาระเบียประจำประเทศไทย ถึงความเป็นห่วงเป็นใยประชาชนให้ผ่านพ้นการแพร่ระบาดของโควิท19 และต่อยอดต่อไปในอนาคต ทั้งนี้ หวังว่าความสัมพันธ์ทั้ง 2 ประเทศ ระหว่างประเทศซาอุดิอาระเบีย และประเทศไทย จะดียิ่งขึ้นต่อไป
ด้าน พลโทเกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวว่า เป็นมหากรุณาธิคุณของกษัตริย์แห่งซาอุดิอาระเบีย ที่ได้มอบกล่องของขวัญ ที่เล็งต่อผู้ปฏิบัติศาสนาเดือนรอมฎอน ทราบว่าทางกษัตริย์ซาอุดีอารเบียปฏิบัติเช่นนี้มาหลายปี เป็นสิ่งที่บ่งบอกว่าความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของไทยและซาอุดิอาระเบียเป็นไปด้วยดี ซึ่งประชาชนทุกคนปลาบปลื้มที่พระองค์ท่านมอบสิ่งของมาให้ในห้วงที่ประกอบศาสนกิจในเดือนอันประเสริฐและสิ่งที่ทุกคนกำหนดได้คือ ความคิดที่ดี และความปรารถนาดีต่อเพื่อนมนุษย์ ไม่ต้องการความรุนแรงให้เกิดขึ้นในสังคม และพร้อมพัฒนาบ้านเกิดเมืองนอนสู่สังคมสันติสุข ทั้งนี้แม่ทัพภาคที่ 4 ได้ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน ในการปฏิบัติศาสนกิจ ให้เป็นไปตามมาตรการที่จุฬาราชมนตรีได้กำหนดไว้ในการปฏิบัติ และเข้าใจในการปฏิบัติตนท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ควบคู่กันไป