"ครม."เคาะมาตรการเยียวยาโควิด-19 ระลอก 3 จ่าย"คนละครึ่ง”เฟส 3 ให้ 3,000 บาท “เราชนะ-ม 33 เรารักกัน”รับ 2 พัน พร้อมแจก E-Voucher อีกคนละ 7 พัน เมื่อวันที่ 5 พ.ค.64 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ผ่านระบบ Video Conference ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล โดยวาระที่น่าสนใจคือมาตรการเยียวยาโควิด การพิจารณางบประมาณ จัดสรรงบประมาณจากเงินกู้ เพื่อใช้เยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในระลอกที่ 3 ทั้งเราชนะ คนละครึ่ง เฟส 3 และม 33 เรารักกัน โดยแหล่งข่าวจากที่ประชุม ครม. แจ้งว่า ที่ประชุม ครม.เห็นชอบมาตรการช่วยเหลือประชาชนในระยะเร่งด่วน โครงการ “เราชนะ” จำนวนกลุ่มเป้าหมาย 32.9 ล้านคน เพิ่มอีกสัปดาห์ละ 1,000 บาท ระยะเวลา 2 สัปดาห์ วงเงิน 67,000 ล้านบาท โดยให้การใช้จ่ายสิ้นสุดในวันที่ 30 มิ.ย.นี้ นอกจากนี้ โครงการ “ม33 เรารักกัน” จำนวนกลุ่มเป้าหมาย 9.27 ล้านคน เพิ่มวงเงินช่วยเหลือผู้ประกันตนมาตรา 33 อีกสัปดาห์ละ 1,000 บาท ระยะเวลา 2 สัปดาห์ วงเงินรวม 18,500 ล้านบาท ให้ใช้จ่ายสิ้นสุดในวันที่ 30 มิ.ย.นี้ แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า สำหรับมาตรการในระยะต่อไป เมื่อสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายลง กรอบวงเงินเบื้องต้น 1.4 แสนล้านบาท โดยใช้เงินจาก พ.ร.ก.เงินกู้ฯ ที่เหลืออยู่ ได้แก่ 1.มาตรการลดภาระค่าครองชีพให้แก่ประชาชน ในกลุ่มที่ต้องการความช่วยเหลือจากภาครัฐอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้กับผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 3 จำนวน 13.65 ล้านคน โดยให้เงินค่าครองชีพแก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเพิ่มเติมเดือนละ 200 บาท ระยะเวลา 6 เดือน (กรกฎาคม-ธันวาคม) และเพิ่มกำลังซื้อให้กับผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นกรณีพิเศษจำนวนเป้าหมาย 2.4 ล้านคน เพิ่มเติมเดือนละ 200 บาท เป็นระยะเวลา 6 เดือน (กรกฎาคม-ธันวาคม) และ2.มาตรการเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดโควิด-19 โดยให้ความสำคัญกับการกระตุ้นกำลังซื้อของประชาชนกลุ่มรายได้ปานกลาง และรายได้สูง ได้แก่ มาตรการ “คนละครึ่ง” ระยะที่ 3 ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมาย 31 ล้านคน ให้สิทธิใช้จ่ายที่รัฐจะสมทบได้วันละไม่เกิน 150 บาท วงเงินคนละ 3,000 บาทต่อคน นอกจากนี้ ยังมี “โครงการยิ่งใช้ยิ่งดี” โดยรัฐสนับสนุน E-Voucher ให้ประชาชน ที่ใช้จ่ายซื้อสินค้า ค่าอาหารเครื่องดื่ม และค่าบริการ กับผู้ประกอบการที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มไม่เกิน 5,000 บาทต่อคนต่อวัน สูงสุดไม่เกิน 7,000 บาทต่อคน โดยประชาชนใช้จ่ายจะได้รับการสนับสนุน E-Voucher จากภาครัฐในช่วงเดือนกรกฎาคม-กันยายนนี้ และสามารถใช้จ่ายในเดือนสิงหาคม-ธันวาคม 2564 คาดว่าประชาชนจะเข้าโครงการประมาณ 31 ล้านคน