ย้ำคนไทยทุกคน ทุกสิทธิ์ ตรวจฟรีไม่เสียค่าใช้จ่าย ติดเชื้อได้รับสิทธิรักษาฟรี รพ.ใดฝ่าฝืนมีโทษตามมาตรา 66 จำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ วันที่ 5 พ.ค.2564 ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวถึงกรณี รพ.เอกชนเรียกเก็บค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 โดยมีผู้ป่วยถูกเรียกเก็บค่ารักษาสูงสุดเกือบ 1 ล้านบาท ว่ารัฐบาลมีนโยบายลดภาระค่ารักษาพยาบาล โดยกำหนดให้โควิด-19 เป็นภาวะฉุกเฉิน ทุกคนที่อยู่ในประเทศไทยต้องได้รับการรักษา โดยมีประกาศครอบคลุมการดูแลค่าใช้จ่ายในการดูแลผู้ป่วย ค่ายารักษา ค่ารถนำส่งผู้ป่วย ให้สถานพยาบาล เรียกเก็บค่าใช้จ่ายจาก สปสช. ห้ามเรียกเก็บจากประชาชน เนื่องจากเป็นกรณีต้องได้รับการรักษาทันท่วงที หากไม่ดำเนินการจะมีโทษตามมาตรา 66 จำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ นพ.ธเรศ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาพบสถานพยาบาลที่ฝ่าฝืนเรียกเก็บค่ารักษาพยาบาลกับผู้ป่วย จำนวน 44 เรื่อง ใน 74 คน เนื่องจากบางครอบครัวก็เข้าไปรักษาหลายคน ทั้งนี้ สถานพยาบาลได้คืนเงินผู้ป่วยครบทุกคนแล้ว และยังมีเรื่องคงค้างในเดือน เม.ย.64 ซึ่งอยู่ระหว่างการสอบสวนอีกจำนวนหนึ่ง ทั้งนี้หากประชาชนมีข้อสงสัย สอบถามเพิ่มเติม ติดต่อได้ที่สายด่วน สปสช.1330 และ สายด่วน สบส.1426 ด้านนพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการ สปสช. กล่าวว่า สปสช. มีหน้าที่จัดสรรงบประมาณให้โรงพยาบาลทั้งรัฐและเอกชน ขอยืนยันว่า คนไทยทุกคนมีสิทธิได้รับการตรวจคัดกรองฟรีในสถานพยาบาลของรัฐและเอกชน ทั้งในผู้ที่สงสัยว่าจะติดเชื้อ ผู้ที่มีความเสี่ยง เข้าไปในสถานที่เสี่ยง หรือสัมผัสผู้ติดเชื้อ ไปจนถึงการตรวจตามดุลยพินิจของแพทย์ และหากติดเชื้อก็จะต้องรักษาฟรีในโรงพยาบาลทุกสังกัดอย่างไรก็ตาม สปสช. มีการปรับระบบจ่ายเงินให้กับสถานพยาบาลเอกชนให้เร็วขึ้น โดยตัดรอบบิลทุก 2 สัปดาห์ และรอบล่าสุดจะจ่ายในวันที่ 7 พฤษภาคม อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา ผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงบางราย มีค่าใช้จ่ายสูงถึง 1 ล้านบาท ขณะที่บางรายอาการไม่รุนแรง ก็เฉลี่ยรายละ 1 แสนบาท