ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ กล่าวว่า จากปัญหาการขาดแคลนวัคซีนต้านโควิด-19 ซึ่งถือเป็นปัญหาใหญ่ของคนไทยในขณะนี้ ผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีนต้านโควิดก็ยังเป็นอีกประเด็นที่ทำให้คนไทยไม่สามารถเข้าถึงวัคซีนดังกล่าวเพราะไม่มั่นใจจึงไม่กล้าเสี่ยง ซึ่งจากการรวบรวมข้อมูลของโรงพยาบาลทั่วประเทศผ่านมาทางศูนย์โรคหลอดเลือดสมอง โรงพยาบาลจุฬา ซึ่งรวบรวมข้อมูลของผู้ที่ได้รับผลข้างเคียงจากวัคซีนซิโนแวค ตั้งแต่วันที่ 3 เม.ย. 2564 ถึงปัจจุบัน ตลอดจนผลข้างเคียงที่เกิดกับบุคลากรทางการแพทย์ที่ฉีดวัคซีนซิโนแวค เมื่อพิจารณาร่วมกับผู้เชี่ยวชาญทางสมองของโรงพยาบาลต่างๆแล้วก็สามารถระบุได้ว่าอาการข้างเคียงเกิดจากการหดตัวของเส้นเลือดในสมอง แต่บางรายก็เกิดการหดตัวของหลอดเลือดหัวใจร่วมด้วย และแสดงอาการออกมาในรูปของอาการชาที่ปากและแขน บางรายอาการมากขึ้นก็มีอาการชาที่หน้า แขน ขา ลำตัว และมีอาการอ่อนแรงร่วมด้วย
ทั้งนี้สิ่งที่รัฐบาลควรทำตอนนี้คือ นอกจากจะลดขั้นตอนการนำเข้าวัคซีนเพื่อให้ทุกภาคส่วนสามารถนำวัคซีนต้านโควิดเข้ามาใช้ให้ได้มากที่สุดแล้ว รัฐบาลต้องปูพรมฉีดวัคซีนให้ประชากรไทยให้ได้มากที่สุด ถึง 90% ของจำนวนประชากรยิ่งดี โดยควรฉีดให้แล้วเส็จภายในเดือน ก.ค. และต้องปูพรมตรวจเพื่อคัดกรองผู้ติดเชื้อรายใหม่ในทุกๆ 7 วัน เพื่อป้องกันเชื้อฝักตัวและกลายพันธุ์เป็นโควิดสายพันธุ์ใหม่ซึ่งอาจเป็นสายพันธุ์ของไทยเอง หรือหากพบโควิดสายพันธุ์ใหม่ก็จะได้หาทางสกัดได้ทันท่วงที
ขณะที่ นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า ขณะนี้ สปสช.ได้จัดทำหลักเกณฑ์ในการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการฉีดวัคซียต้านโควิด-19 เสร็จเรียบร้อยและได้ลงนามในหลักการณ์ไปแล้ว เหลือเพียงการลงนามประกาศของคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติทั้ง 13 เขต ซึ่งหลังจากประกาศใช้ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการฉีดวัคซีนต้านโควิดก็สามารถส่งเรื่องให้คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติระดับเขตพิจารณาเพื่อขอรับค่าชดเชยได้ทันที หรืออาจจะยื่นไปที่สาธารณสุขจังหวัด(สสจ.) หรือโรงพยาบาลที่ได้รับฉีดวัคซีน จากนั้นหน่วยงานดังกล่าวก็จะส่งเรื่องให้คณะกรรมการฯ ระดับเขตพิจารณา ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาไม่เกิน 5 วันก็สามารถเบิกค่าชดเชยได้ โดยการขอค่าชดเชยดังกล่าวจะมีผลย้อนหลังครอบคลุมถึงผู้ที่ได้รับวัคซีนไปตั้งแต่วันที่ 26 ก.พ. 2564 ทั้งในส่วนของประชาชนทั่วไปและบุคลากรทางการแพทย์ ซึ่งอัตราการจ่ายเงินชดเชยจะคล้ายกับ มาตรา 41 ของ พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
อย่างไรก็ดี เชื่อว่าผู้ที่จะเกิดอาการข้างเคียงจากการฉีดวัคซีนต้านโควิดคงจะมีไม่มาก แต่ก็อาจจะเกิดขึ้นได้ ซึ่งหากมีหลักประกันให้แก่ผู้ที่เข้ารับวัคซีนว่าถ้าฉีดแล้วเกิดอาการไม่พึงประสงค์จะมีเงินชดเชยไว้รองรับ โดยไม่จำเป็นที่จะต้องพิสูจน์ว่าผลข้างเคียงดังกล่าวเป็นความผิดของใครก็จะช่วยให้ผู้ที่จะเข้ารับการฉีดวัคซีนมีความมั่นใจมากยิ่งขึ้น โดยการจ่ายเงินชดเชยจะมี 3 กรณีด้วยกัน คือ 1. กรณีที่เกิดการเจ็บป่วยต่อเนื่องหลังจากรับวัคซีน จะได้รับค่าชดเชยไม่เกิน 100,000 บาท 2.กรณีที่พิการทุพพลภาพอันเนื่องมาจากผลกระทบจากการฉีดวัคซีน จะได้รับค่าชดเชยไม่เกิน 240,000 บาท และ 3.หากเสียชีวิต จะได้รับค่าชดเชยไม่เกิน 400,000 บาท