หลังจากที่ ติ๊ก บิ๊กบราเธอร์ ออกมาแฉถึงพฤติกรรมอดีตสามี หนุ่ม ศรราม กับปมพัฒนาการของลูกสาว น้องวีจิ ที่เธอว่าช้ากว่าที่ควรจะเป็น พร้อมท้าใจกล้าพอไหมคืนลูกสู่อกแม่เขาผ่านอินสตาแกรม ทั้งยังได้ไลฟ์สดตั้งคำถามถึงพี่เลี้ยงของลูกสาวว่ามีประสบการณ์การเลี้ยงเด็กจริงหรือไม่
ล่าสุด หนุ่ม ศรราม ก็ได้เปิดใจถึงเรื่องนี้ว่า ที่ผ่านมา แม้ว่าตนจะทำงานแต่ก็ได้คอยสังเกตเรื่องพัฒนาการของลูกสาวมาโดยตลอด ในเรื่องของการพูดที่ยังไม่เป็นคำ โดยได้มีการเข้าไปพบแพทย์ ซึ่งทางติ๊กเองก็ได้ไปด้วยกัน และก็ได้รับคำแนะนำจากคุณหมอมาแล้วว่าให้ฝึกทักษะอย่างไรให้ วีจิ พูดได้เป็นคำมากขึ้น
“เราก็กลับมาทำตามในสิ่งที่คุณหมอแนะนำ ซึ่งคุณหมอนพวรรณ ก็จะนัดอีกทีวันที่ 22 พฤษภาคม ครับ คุณหมอ ก็ได้ให้ทำแนะนำเพิ่มเติมด้วยครับ ว่า วีจิ มีพัฒนาการทั้งเรื่องของร่างกาย เรื่องภาษากายนะครับ ไม่ว่าจะเป็น กิฟมีไฟว์ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการแสดงออกทางภาษากายดีนะครับดีมากๆ เพียงแต่อาจจะต้องเพิ่มพัฒนาการในเรื่องของการพูดครับ”
“ก็อยากจะบอกว่าวีจิเนี่ย เขามีที่ปรึกษาเป็นคุณหมอทั้งหมดนะครับ”
และหากใครที่เป็นห่วงเรื่องพี่เลี้ยงของน้องวีจิว่ามีความรู้ความสามารถในการเลี้ยงเด็กมากขอหรือไม่ ศรราม ก็ว่า
“ไม่ว่าจะเป็นพี่เลี้ยงวีจิ หรือเป็นพี่เลี้ยงคุณแม่ของผมนะครับ ผมจะบอกว่าเขาผ่านงานมาไม่ต่ำกว่า 15 ปีนะครับ จากเนอสเซอรี่ของเพื่อนผมที่เรียนเซนต์คาเบรียล กับผมมาตั้งแต่ ป.1 นะครับ เราเป็นเพื่อนกันกว่าเกือบๆ จะ 40 ปีแล้วครับ เขาผ่านงานตรงนั้นมา ทำงานแล้วก็มีที่ว่ามีหลักในการทำงานที่ถูกต้องอยู่แล้ว”
ซึ่งหากคนที่เข้ามาคอมเมนต์ด้วยความห่วงใย ตนก็ขอกราบขอบพระคุณมากๆ แต่หากว่าอันไหนที่อ่านดูแล้วไม่ได้เกิดประโยชน์ ก็จะลบและบล็อกคอมเมนต์นั้น เพราะถือว่าไม่ใช่สิ่งที่มีความสำคัญ และจะทำให้ตนกับลูกไปในทางที่ดีนะครับ
“ก็ต้องขอขอบพระคุณนะครับ ทุกๆ กำลังใจที่ส่งเข้ามาให้ ถ้าเกิดว่าเป็นประโยชน์ กราบพระคุณมาก แต่ถ้าเป็นการทำลายกัน หรือว่าทำให้เราเสียสุขภาพจิต ในขณะที่เราเลี้ยงลูก ผมก็ต้องขออนุญาตลบข้อความนั้น แล้วก็ขอบล็อกคอนแทกนั้นไปนะครับ”
ทั้งนี้ กับอีกหนึ่งประเด็นที่ขอทวงคืนลูกสู่อ้อมอกแม่นั้น ศรรามก็ได้เปิดใจว่า ก่อนหน้านี้ ติ๊กเจอลูกได้เดือนละ 2 ครั้ง แต่เมื่อได้กลับมาคุยกันใหม่ และตนก็ได้พิจารณาถึงความเหมาะสมแล้ว ก็อยากให้อีกฝ่ายได้มีโอกาสเจอลูกได้มากขึ้น ก็ขยับระยะเวลาให้ ติ๊ก ได้พบลูกเดือนละ 4 ครั้ง
“ก็เท่ากับสัปดาห์ละหนึ่งครั้งนะครับ ก็โดยมีการนัดหมายถือว่าให้เจอทุกวันเสาร์ แต่ถ้าเกิดว่าวันเสาร์นั้นติดธุระ หรือใครมีอะไรต้องไปทำ ก็จะต้องขออนุญาตเลื่อนไปเจอวันอื่น แต่อย่างน้อยสัปดาห์ละหนึ่งครั้งได้เจอ เรื่องตรงนี้ผมเอง คุณติ๊กเอง ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย รับทราบกันหมดทุกอย่างแล้วครับ ”
“ซึ่งก็มีการไปเจอกันเดือนมีนาคม นะครับวันที่พา วีจิ ไปหาหมอด้วยกัน เมื่อไปหาหมอเสร็จแล้วคุณ ติ๊ก ก็ขอพาลูกไปเซ็นทรัล ผมก็อนุญาต พอผมอนุญาตเสร็จ คุณติ๊กก็โทรไปยืมสตางค์เพื่อน จนเพื่อนคนนั้นเนี่ยก็โทรมาทวงกับผม แล้วผมก็ต้องให้เขานะครับ”
“จากนั้นต่อมาครับ ก็เป็นสัปดาห์ถัดมา ผมก็ให้ที่ปรึกษากฎหมายแจ้งคุณติ๊ก ไปตั้งแต่วันพุธครับผม วันพุธถัดมาก็คือวันที่ 23 หรือ 24 ว่า สัปดาห์ต่อไปเนี่ยเสาร์ อาทิตย์ จันทร์ เราจะไม่อยู่ เราจะไปเขาใหญ่ก็ขอเลื่อนคุณติ๊ก มาเจอลูกวันอังคาร ซึ่งคุณติ๊กก็เกิดความไม่พอใจอย่างมาก ก็ส่งข้อความมาหาในวันเสาร์ที่ 27 มีนาคม นะครับบอกว่า เขาไม่เอาลูกแล้ว เขายกลูกให้ผมดูแล แล้วเขาก็ขอบล็อกทุกคน”
และหากตอนนี้ ติ๊ก จะมาขอเลี้ยงลูก ศรรามก็ว่า “ทุกอย่างเราทำตามหน้าที่นะครับ หน้าที่คือว่าในบันทึกในใบหย่า บันทึกหลังใบหย่า ได้บันทึกไว้หมดแล้วว่า ผมมีสิทธิที่จะดูแล วีจิ แต่เพียงผู้เดียวนะครับ”
“แล้วก็หน้าที่ผมคือ อนุญาตให้คุณติ๊ก มาเจอลูกเท่านั้นเอง แต่เพียงแต่ว่าคุณติ๊ก ได้บอกความประสงค์ของตัวเองมาแล้วว่า เขาไม่ต้องการลูก เขายกลูกให้ผม มาตั้งแต่วันที่ 27 มีนาคม แล้วนะครับ เพราะฉะนั้นผมก็จะทำตามในสิ่งที่เป็นความประสงค์ของคุณติ๊ก แล้วก็อยากจะบอกว่า เอกสารหรือว่าอะไรต่างๆ หรือว่ารายละเอียดต่างๆ ผมก็ได้เก็บให้หมดทุกอย่างเรียบร้อยหมดแล้วครับ”