ยังไร้เงาเจ้าอาวาสแสบหอบเงินผ้าป่าสมทบสร้างเมรุเกือบแสนหนี จนต้องชะลอก่อสร้างเมรุเพราะไม่มีเงินจ้างช่างและซื้ออุปกรณ์ ชาวบ้านเผยหากสร้างเสร็จช้าก็มีผลกระทบเพราะหากมีคนเสียชีวิตก็ต้องนำศพไปเผาหมู่บ้านอื่นซึ่งอยู่ห่างไกลและไม่สะดวก (4 พ.ค.) ความคืบหน้ากรณีที่ พระเครือวรรณ ฐาวะโร อายุ 64 ปี เจ้าอาวาส สำนักสงฆ์หนองปรือ-โคกตะคร้อ ต.ชุมแสง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ได้หอบเงินจำนวน 70,000 บาท ที่ญาติโยมและผู้มีจิตศรัทธาร่วมกันทำบุญทอดผ้าป่า เพื่อสมทบก่อสร้างเมรุเผาศพหนี ตั้งแต่วันที่ 29 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยอ้างว่า จะไปหาหมอและแวะหาช่างมาก่อสร้างเมรุแต่ก็เงียบหายไป จนถึงขณะนี้ เป็นเวลาเกือบ 1 สัปดาห์แล้ว จนทางคณะกรรมการวัด และชาวบ้านได้พากันเข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.นางรอง ให้ตำรวจช่วยติดตามตัวเพื่อนำเงินกลับมาคืนให้กับทางวัดแล้วจะไม่เอาเรื่อง ล่าสุด วันนี้ยังตามตัวเจ้าอาวาสไม่เจอ และเจ้าอาวาสก็ไม่ได้ติดต่อทางวัดเลย ก็รอให้ ตร.ช่วยติดตามอีกทาง ส่วนเมรุเผาศพก็ต้องชะลอการก่อสร้างไปก่อนชั่วคราว เพราะไม่มีเงินจ้างช่างและซื้ออุปกรณ์ ซึ่งกรณีดังกล่าวชาวบ้าน บอกว่า ก็มีผลกระทบเพราะหากมีคนเสียชีวิตก็ต้องนำศพไปเผาหมู่บ้านอื่นซึ่งอยู่ห่างไกลประมาณ 2-3 กิโลเมตร หากมีวัดหรือเมรุในพื้นที่ก็จะสะดวกในการประกอบพิธี ซึ่งทางคณะกรรมการวัด ผู้นำหมู่บ้าน และญาติโยมก็จะได้หารือเรื่องการหาเงินที่จะมาก่อสร้าง แต่หากผู้มีจิตศรัทธาคนใดต้องการจะร่วมทำบุญสมทบปัจจัยในการก่อสร้าง ก็ติดต่อทางคณะกรรมการฯ ได้ ด้านพระวิชัย สิระสาโร พระลูกวัด เล่าว่า ก่อนหน้านี้พระเครือวรรณ และอาตมาจำวัดอยู่ด้วยกันที่วัดป่าโนนสุวรรณ ก่อนที่ญาติโยมจะไปนิมนต์ให้มาอยู่ที่สำนักสงฆ์แห่งนี้ อาตมาก็มาพร้อมพระเครือวรรณ ก็อยู่มาได้เกือบ 2 พรรษาแล้ว ตอนที่มาอยู่ชาวบ้านก็ศรัทธาและให้ความเคารพพระเครือวรรณ ก็จะให้เกียรติท่านว่าเป็นเจ้าอาวาส แม้จะยังไม่มีการแต่งตั้งเป็นทางการ ที่ผ่านมา พระเครือวรรณ ก็บริหารจัดการดูแลวัดเป็นอย่างดี ซึ่งตนก็ไม่ได้เข้าไปยุ่ง จนเกิดปัญหาพระเครือวรรณ หนีไปพร้อมเงินที่ญาติโยมทำบุญผ้าป่าสร้างเมรุ อาตมาก็สงสารชาวบ้านแต่ก็ไม่รู้จะช่วยยังไง ได้แต่ภาวนาขอให้พระเครือวรรณ นำเงินกลับมาคืนเพื่อจะได้ก่อสร้างเมรุให้เสร็จ ตามความตั้งใจของญาติโยม จะได้ไม่ต้องไปเผาศพหมู่บ้านอื่น ส่วนตัวก็เชื่อว่าเวรกรรมมีจริงใครทำกรรมใดก็ย่อมได้รับผลกรรมนั้น