เมื่อวันที่ 4 พ.ค. นายปนิธิ เสมอวงษ์ รองอธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ด้านปฏิบัติการ เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ (3 พ.ค.64) กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ร่วมกับกองทัพอากาศและกองทัพบก ติดตามสถานการณ์ความต้องการน้ำและพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาฝนไม่ตกทั่วถึงในบางพื้นที่รวมถึงสภาพอากาศเพื่อวางแผนปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือ ซึ่งมี 7 หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง สามารถขึ้นบินปฏิบัติการช่วยเหลือพื้นที่เป้าหมายได้ โดยทำให้มีฝนตกบริเวณพื้นที่การเกษตรบางส่วนของ จ.พะเยา กาญจนบุรี สุพรรณบุรี ชัยนาท อุทัยธานี สุรินทร์ บุรีรัมย์ นครราชสีมา ฉะเชิงเทรา สามารถเพิ่มปริมาณน้ำให้กับ พื้นที่ลุ่มรับน้ำเขื่อนกิ่วคอหมา เขื่อนศรีนครินทร์ เขื่อนวชิราลงกรณ อ่างเก็บน้ำแม่ปืม อ่างเก็บน้ำแม่ต๋ำ อ่างเก็บน้ำห้วยหนองโรง อ่างเก็บน้ำสุวรรณภา อ่างเก็บน้ำคลองสียัด รวมทั้งช่วยยับยั้งและบรรเทาความรุนแรงของพายุลูกเห็บบริเวณ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่
ด้านแผนปฏิบัติการฝนหลวงประจำวันนี้ (4 พ.ค.64) พบว่า จากสภาพอากาศตามข้อมูลของกรมอุตุนิยมวิทยา ขณะนี้มีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดผ่านเข้ามา ซึ่งมีกำลังอ่อนลง ทำให้บริเวณพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง มีความชื้นในอากาศลดน้อยลง ประกอบกับมีมวลอากาศเย็นแผ่ลงมาปกคลุมภาคเหนือในวันถัดไป รวมถึงกระแสลมคลื่นตะวันตกพัดเข้ามา โดยจะส่งผลทำให้พื้นที่ภาคเหนือเกิดฝนตกหนักได้ ดังนั้น แผนปฏิบัติการฝนหลวงประจำวันที่ 4 พฤษภาคม 2564 หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จ.บุรีรัมย์ ตรวจวัดสภาพอากาศแล้วสามารถขึ้นบินปฏิบัติการช่วยเหลือพื้นที่เป้าหมายได้ จึงวางแผนขึ้นบินปฏิบัติการในเวลา 10.30 น. โดยเครื่องบิน CARAVAN จำนวน 1 ลำ ภารกิจที่ 1 ขั้นตอนที่ 1 (ก่อกวน) ช่วยเหลือบริเวณพื้นที่การเกษตร จ.สุรินทร์ และ จ.บุรีรัมย์ และมีพื้นที่เป้าหมายรอง ช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรบริเวณ จ.ร้อยเอ็ด และ จ.มหาสารคาม ด้วย
อย่างไรก็ตาม อีก 12 หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จะติดตามสภาพอากาศตลอดทั้งวัน โดยหากมีการเปลี่ยนแปลงเข้าเงื่อนไขการปฏิบัติการฝนหลวง จะขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือพื้นที่เป้าหมายต่อไป และพี่น้องเกษตรกรและประชาชนสามารถขอรับบริการฝนหลวงและติดตามข้อมูลข่าวสารของกรมฝนหลวงและการบินเกษตรได้ที่ช่องทาง Facebook กรมฝนหลวงและการบินเกษตร Twitter Instagram Line Official Account : @drraa_pr และหมายเลขโทรศัพท์ 02-109-5100