นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวกรณีที่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย กล่าวหาพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมว่า ไม่เปิดโอกาสให้เอกชนจัดหาวัคซีนทางเลือกว่า ตนผิดหวังกับ นพ.ชลน่านมากถึงมากที่สุด ที่กลายพันธุ์มาเป็นนักการเมืองที่บิดเบือนข้อมูลซึ่งหน้า รัฐบาลยืนยันมาโดยตลอดว่าไม่เคยปิดกั้นเอกชนจัดหาวัคซีนทางเลือก พร้อมสนับสนุนอำนวยความสะดวกเต็มที่ ซึ่งจากการที่ได้มีการหารือร่วมกันระหว่างภาครัฐและเอกชนในเรื่องดังกล่าวนั้น เอกชนได้ชี้แจงถึงการจัดหาวัคซีนว่า มีการติดต่อกับผู้ผลิตในต่างประเทศไปแล้ว แต่การส่งมอบอาจจะมีความล่าช้า โดยผู้ผลิตแต่ละที่แจ้งว่า จะสามารถส่งมอบได้ในไตรมาสที่ 4 หรือปลายปี นายธนกร กล่าวอีกว่า สภาหอการค้าแห่งประเทศไทยเห็นว่า กรณีที่จะสามารถส่งมอบวัคซีนได้ปลายปี 2564 อาจจะทำให้ทับซ้อนกับในส่วนของวัคซีนที่รัฐบาลจัดหามาได้ ดังนั้นจึงให้รัฐบาลเป็นหน่วยงานหลักในการจัดหาวัคซีนตามแผนที่กำหนดไว้คือ ภายในสิ้นปีนี้จะมีวัคซีนเข้ามา 100 ล้านโดส ในส่วนโรงพยาบาลเอกชนที่จะจัดหาวัคซีนทางเลือกนั้น รัฐบาลให้การสนับสนุน ไม่ได้มีปัญหาใดๆ ทั้งสิ้นและไม่มีผลประโยชน์แอบแฝงแน่นอน นพ.ชลน่านเป็นหมอ ควรมีจิตสำนึก ไม่ควรสร้างความสับสนให้กับประชาชน ถ้าไม่คิดช่วยอะไรก็ขอให้อยู่เฉยๆ จะถือว่าเป็นบุญต่อคนไทยแล้ว นายธนกร กล่าวด้วยว่า ส่วนกรณีที่นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกรัฐมนตรี ระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ และนายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ขวางเอกชนนำเข้าวัควัคซีนนั้น ธาตุแท้ของนายจาตุรนต์ก็ไม่ได้แตกต่างกับนักการเมืองฝ่ายค้านที่ค้านทุกเรื่อง ไม่สนใจอะไรนอกจากหวังผลทางการเมือง ทั้งที่มีการชี้แจงข้อเท็จจริงไปแล้วว่าไม่ได้มีการปิดกั้นเอกชน แต่ก็ยังหูทวนลม ออกมาบิดเบือนข้อมูลซ้ำซาก คงถึงเวลาที่นายจาตุรนต์ต้องพักแล้ว เพราะข้อมูลต่างๆ ที่ออกมานั้นคลาดเคลื่อนมาก ความน่าเชื่อถือหายไปหมด จึงไม่น่าแปลกใจที่พื้นที่ฉะเชิงเทราจะถูกยึดไปหมดแล้ว