โควิดไทยดับพุ่ง31รายติดเชื้อเพิ่มอีก 2,041 ราย “ ศบค.”เปิด 10 เขต กทม.ติดเชื้อสูงสุด “ห้วยขวาง-ดิน แดง-บางเขน” นำโด่ง ย้ำสั่งห้ามนั่งกินอาหารในร้าน ระบุเป็นแหล่งแพร่เชื้อสูง พร้อมรุกค้นหาผู้ป่วย 39 ชุมชนในพื้นที่คลองเตย เร่งนำตัวเข้าสู่ระบบการรักษา หลังพบคลัสเตอร์ติดเชื้อกว่า300ราย ขณะที่ “กลาโหม” จ่อใช้พื้นที่ “การท่าเรือ” ตั้งรพ.สนาม รับคลัสเตอร์คลองเตย
เมื่อวันที่ 3 พ.ค.64 พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) รายงานสถานการณ์ผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทย ซึ่งล่าสุดพบผู้ติดเชื้อรายใหม่อีก 2,041 ราย โดยเป็นการติดเชื้อในประเทศ 2,040 ราย ทั้งหมด (แยกเป็นจากระบบเฝ้าระวังและบริการสุขภาพ 1,943 ราย จากการตรวจคัดกรองเชิงรุกในชุมชน 97 ราย) และเดินทางมาจากต่างประเทศอีก 1 ราย รวมยอดผู้ป่วยสะสม 71,025 ราย วันนี้มีผู้เสียชีวิตสูงสุด 31 ราย ทำให้ยอดเสียชีวิตขยับไปที่ 276 ราย รักษาหายเพิ่มอีก 1,726 ราย รวมยอดรักษาหาย 40,984 ราย ยังรักษาอยู่จำนวน 29,765 ราย เป็นการรักษาในโรงพยาบาล 21,473 ราย โรงพยาบาลสนาม 8,292 ราย ทั้งนี้มีผู้ป่วยอาการหนัก 981 ราย และต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ 278 ราย
พญ.อภิสมัย กล่าวว่า ตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกเดือนเม.ย.จนถึงปัจจุบันพบยอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสม 42,162 ราย ในจำนวนนี้อยู่ในกรุงเทพฯ จำนวน 13,283 ราย โดยล่าสุดกรุงเทพฯ รายงานว่า มี 1 0 เขต ที่พบผู้ป่วยติดเชื้อมากที่สุด ได้แก่ 1.เขตห้วยขวาง 392 ราย 2.เขตดินแดง 284 ราย 3.เขตบางเขน 284 ราย 4.เขตวัฒนา 272 ราย 5.เขตจตุจักร 259 ราย 6.เขตลาดพร้าว 230 ราย 7.เขตวังทองหลาง 225 ราย 8.เขตบางกะปิ 215 ราย 9.เขตสวนหลวง 211 ราย และ 10.เขตภาษีเจริญ 186 ราย
พญ.อภิสมัยกล่าวว่า ที่ประชุมได้ชี้แจงถึงสาเหตุการปิดไม่ให้รับประทานอาหารในร้านเนื่องจากเป็นแหล่งแพร่ระบาดอีกแหล่งหนึ่ง และจำนวนผู้ติดเชื้อ ในพื้นที่กรุงเทพฯ ค่อนข้างสูง จึงจำเป็นต้องออกมาตรการเข้มข้นสูง สุด คือ การไม่อนุญาตให้รับประทานอาหารในร้าน แต่หากสถานการณ์ดีขึ้นจะประกาศมาตรการผ่อนคลายตามมา
พญ.อภิสมัย ยังกล่าวถึงสถานการณ์พื้นที่ชุมชนคลองเตยหลังพบผู้ติดเชื้อจำนวน 304 รายว่า ได้มีการหารือในที่ประชุม และมีการรายงานผู้ติดเชื้อในการค้นหาเชิงรุก โดยจะมุ่งเป้าไปที่ 39 ชุมชน เพื่อนำตัวมารักษาต่อไป
ขณะที่ กระทรวงกลาโหม เตรียมประสานการท่าเรือแห่งประเทศไทย พิจารณาความเหมาะสม และความเป็นไปได้ ในการใช้อาคารโกดังสเตเดียมเพื่อจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม หลังพบผู้ติดเชื้อโควิด เขตคลองเตย ในการระบาดระลอกเดือนเม.ย.จำนวน 304 ราย แบ่งเป็นผู้อาศัยในแหล่งชุมชนแออัด 193 ราย ส่วน 111 รายอาศัยอยู่ในแหล่งอื่นๆ เช่น คอนโด หอพัก เป็นต้น
ส่วน สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า กระทรวงสาธารณสุขของมาเลเซีย แถลงพบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 สายพันธุ์อินเดีย หรือชื่อทางการ “บี.1.617 (B.1.617)” รายแรกของประเทศ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ตามวันเวลาท้องถิ่น
โดยแถลงการณ์ของกระทรวงสาธารณสุขของมาเลเซีย เปิดเผยว่า ผู้ป่วยติดเชื้อรายดังกล่าว เป็นชาวอินเดีย ถูกตรวจพบที่บริเวณจุดคัดกรองของท่าอากาศยานนานาชาติกัวลาลัมเปอร์ กรุงกัวลาลัมเปอร์ เมืองหลวงของประเทศ ซึ่งภายหลังจากตรวจพบ ทางกระสาธารณสุขของมาเลเซีย ยังได้ประกาศแจ้งเตือนไปยังประชาชนให้อยู่ในความสงบ โดยระบุว่า เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการป้องกันการแพร่ระบาดอย่างเต็มที่ พร้อมกับรับประกันเรื่องความปลอดภัยของประชาชนจากเชื้อโควิดสายพันธุ์นี้
รายงานข่าวแจ้งว่า การตรวจพบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์อินเดียรายแรกครั้งนี้ มีขึ้นภายหลังจากทางการมาเลเซีย มีคำสั่งห้ามเที่ยวบินจากอินเดียเข้าประเทศ เมื่อช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดสายพันธุ์นี้ ซึ่งเป็นไปตามการแจ้งเตือนขององค์การอนามัยโลก หรือดับเบิลยูเอชโอ (ฮู) ถึงการให้ทางการประเทศต่างๆ เฝ้าระวังไวรัสโควิดสายพันธุ์อินเดีย ที่แพร่ระบาดได้เร็ว โรคมีความรุนแรง รวมถึงทำให้วัคซีนด้อยประสิทธิภาพด้านการป้องกันลง
ด้าน สถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิดฯ ยังคงลุกลามอย่างต่อเนื่องทั่วโลก ส่งผลให้มีผู้ป่วยติดเชื้อสะสมจำนวน 153,500,734 ราย ส่วนผู้ป่วยที่เสียชีวิตมีจำนวน 3,216,418 ราย และผู้ป่วยที่รักษามีจำนวนสะสม 130,835,986 ราย โดยสหรัฐฯ พบผู้ป่วยติดเชื้อสะสมมากที่สุดในโลกจำนวน 33,180,441 ราย เช่นเดียวกับจำนวนผู้ป่วยที่เสียชีวิตมากเป็นอันดับ 1 ของโลกเช่นกันที่ 591,062 ราย ส่วนผู้ป่วยที่รักษาหายมีจำนวนสะสม 25,823,800 ราย