วันนี้ (3 พ.ค.64) ที่ร้านคิดถึง เบเกอรี่ สาขาสุรินทร์ ถนนสนิทนิคมรัฐ อ.เมือง จ.สุรินทร์ หลังจากทางร้านได้มีการผลิตเค้ก เป็นรูปพระพุทธรูปปางต่างๆ และรูปพระเครื่อง เค้กวัตถุมงคล เค้กลงยันต์ เพื่อความเป็นศิริมงคล เค้กมนต์ตรามหาเสน่ห์ นอกจากนั้นยังผลิตเค้ก 3 มิติ ปั้นฟองดอง เค้กใส่รูป เค้กดึงเงิน เค้กดึงลอตเตอรี่ทั้งวาดครีม และฟองดองทุกแบบ ซึ่งทางร้านระบุว่า ประดิษฐ์จากน้ำตาลฟองดอง เก็บรักษาได้หลายปี หลากหลายสี เจ้าของร้านได้นำออกโฟสต์ทางโซเชียล เฟสบุคของทางร้าน Kidtueng Bakery Surin เมื่อวันที่ 30 เม.ย.64 ที่ผ่านมา ซึ่งมีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็น มากมายทั้งเห็นด้วย และไม่เห็นด้วย บางคน เข้ามาต่อว่า ถึงการนำเอาพระพุทธรูปมาหากิน เป็นการกระทำอย่างไม่เหมาะสมกระทบจิตใจชาวพุทธ ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง ที่ชาวพุทธนับถือ และก็มีผู้ที่ชื่นชมถึงแนวคิดในการออกแบบของคนรุ่นใหม่ มองในแง่มุมของการออกแบบ นอกจากนั้น ยังมีสื่อมวลชน นำไปเสนอ ข่าวทำให้ เกิดการรับรู้อย่างแพร่หลาย และเป็นที่พูดถึงกันเป็นจำนวนมากในขณะนี้ ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายปราณสุวีร์ อาวอร่ามรัศมิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดสุรินทร์เข้าตรวจสอบและตรวจเยี่ยมการทำขนมเค้กของร้านคิดถึง เบเกอรี่ สาขาสุรินทร์ โดยมี นางสาวพัชรพร คูกิจติเกษม หรือน้องแพลนท์ เป็นเจ้าของ และเป็นบุตรสาว ของนายสมโรจน์ คูกิจติเกษม เจ้าของอาณาจักรพิพิธภัณฑ์ช้างจังหวัดสุรินทร์ ซึ่งนางสาวพัชรพร ได้อธิบายว่า เป็นการทำขนมเค้กตั้งแต่เดือนมีนาคม 2564 ที่ผ่านมาและหยุดทำแล้ว ต้องการผลิตออกมาให้เป็นศิริมงคลเพราะเค้กเก็บไว้ได้หลายปี อยากให้เก็บสะสมไว้ อยากให้วัยรุ่นเข้าถึงพระพุทธศาสนา แก่นแท้ของพระพุทธศาสนา เคยเห็นในต่างประเทศ ที่มีเค้กทางศาสนาใช้ในวันมงมล ตนเองก็อยากให้คนไทยได้ใช้สติปัญญาในการรับรู้ตามหลักพระพุทธศาสนา ไม่เคยคิดที่จะเอาพระพุทธศาสนา มาทำมาหากินเป็นเพียงแนวคิดเชิงสร้างสรรค์และความดีงามและสวยงามเท่านั้นเพราะครอบครัว 'คูกิจติเกษม ทุกคนล้วนเคารพและนับถือในพระพุทธศาสนาเต็ม 100%และได้หยุดผลิตเค้กในรูปแบบนี้ ไปแล้วก็ไปผลิตในรูปแบบอื่นๆที่สวยงามสร้างสรรค์แทนซึ่งก็ได้รับการตอบรับจากประชาชนเป็นอย่างดี ด้านนายปราณสุวีร์ อาวอร่ามรัศมิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า อยากให้งดเว้นหลีกเลี่ยง หยุดการผลิตเค้กในรูปแบบนี้เพราะจะไปกระทบกับจิตใจกับคนในสังคมส่วนหนึ่งหรือส่วนใหญ่ เมื่อเราอยู่ในสังคมส่วนรวมก็นึกถึงจิตใจคนทุกฝ่าย เพื่อความสบายใจของส่วนรวม ไม่ใช่เฉพาะเจ้าของร้าน ให้มองว่าพระพุทธศาสนา เป็นศาสนาที่เราเคารพนับถือเป็นจำนวนมากมีพระพุทธเจ้า พระพุทธรูปเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ประจำบ้านประจำเมืองสังคมของเราเมื่อทราบว่ากระทบจิตใจคนจำนวนมาก เราก็จะมาพิจารณาว่าควรจะดำเนินการอย่างไรเราอยู่ในสังคมส่วนรวมเราก็ดูกติกาตรงนี้ด้วยก็ต้องยุติและเปลี่ยนวิธีการนำเสนอในรูปแบบใหม่ ขอให้มองในภาพรวมของสังคม อาจจะปรับเลี่ยนนำเอาคำสอนสั้นๆหรือสุภาษิตสั้นๆมาลงในเค้กก็จะเป็นการสอนเตือนสติได้ดี