หลังโลกโซเซียลได้แชร์เรื่องราวดีๆ ที่เกิดขึ้นในวัดแห่งหนึ่งของจังหวัดนนทบุรี เมื่อมีผู้นำเรื่องราวของพระสมุห์บุญเกิด ฐานุตโร เจ้าอาวาสวัดบางม่วง ต.บางแม่นาง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ประกาศให้ความช่วยเหลือสงเคราะห์ครอบครัวผู้ป่วยที่เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยไม่คิดค่าใช่จ่ายใดๆ ทั้งสิ้นแม่แต่บาทเดียว ทำให้โลกโซเซียลต่างยกย่องชื่นชมในความมีเมตตาของวัดดังกล่าวเป็นอย่างมาก ภายหลังครอบครัวหนุ่มโฟร์แมนวัย 30 ปี ติดโควิด-19 เสียชีวิต หาวัดทำพิธีเผาไม่ได้เลย สุดท้ายมาที่วัดแห่งนี้ ได้รับความเมตตาจากทางวัดทำพิธีทางศาสนาเผาร่างบุตรชายเป็นที่เรียบร้อยเมื่อวันศุกร์ ที่ 30 เม.ย.64 ที่ผ่านมา สร้างความซาบซึ้งใจแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิตที่ติดเชื้อโควิด-19 รายนี้เป็นอย่างมาก
เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 2 เม.ย.64 ที่วัดบางม่วง ต.บางแม่นาง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากพระสมุห์ บุญเกิด ฐานุตโร เจ้าอาวาสวัดว่า วันนั้นศพของผู้ติดเชื้อโควิดจะถูกห่อมาประมาณ 3 ชั้น ซึ่งเราไม่ได้จับต้องหรือแกะออก ทางเจ้าหน้าที่จะไม่เข้าไปจับต้องหรือวุ่นวายกับศพ และจะสวมชุดป้องกันเป็นอย่างดี ถ้ามีผู้เสียชีวิตติดโควิดให้ประสานทางอาตมาโดยตรง เบอร์ 099-193-7987 ให้ติดต่อมาก่อนเพราะทางเราจะได้เตรียมของให้เรียบร้อย เเละจะเผาให้เลยในคืนนั้น ถ้ามีกิจอื่นหรือจะทำบุญเพิ่มค่อยว่ากันทีหลัง เพราะต้องทำตามกฏระเบียบ และอาตมาทำพิธีให้ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น และอยากฝากถึงทุกคนให้รักษาสุขภาพให้ดี ถ้าอยู่ในกลุ่มเสี่ยงให้รีบเข้าไปตรวจ อย่าปล่อยทิ้งไว้อาจจะเสียชีวิตได้ ตอนนี้เป็นห่วงแค่พระที่ทำพิธีเผา เพราะเราไม่มีชุด PPE เพียงพอในการป้องกัน แต่ก็ทำทุกอย่างรัดกุมที่สุด ป้องกันอย่างดี
พระสมุห์ บุญเกิด กล่าวต่อว่า วันศุกร์ที่ผ่านมาพ่อแม่ของผู้เสียชีวิต และ ครอบครัวได้นั่งรถมูลนิธิขับเข้ามาหาอาตมาที่วัด โดยนำศพลูกชายของเขาอายุ 30 ปี อาชีพโฟร์แมน ซึ่งเพิ่งเสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 ซึ่งถูกบรรจุอยู่ในถุงซิ๊ปคลุมศพ 3 ชั้น อย่างดี เข้ามาหาอาตมา ช่วงเวลา 10.00 น.และมาขอความช่วยเหลือ อาตมาจึงมองเห็นว่า วัดควรจะเป็นที่พึ่งของญาติโยม ของคนที่เดือดร้อน วัดไม่ใช่ของพระหรือของใครคนหนึ่ง เมื่อมีญาติโยมเดือดเนื้อร้อนใจมาขอที่พึ่ง อะไรที่สงเคราะห์ได้ ช่วยเหลือได้อาตมาก็ไม่ลังเลที่จะอนุญาตจึงให้ทางเจ้าหน้าที่มูลนิธินำศพเข้าเตาเผาเพื่อทำพิธีฌาปนกิจ ตามระเบียบขั้นตอนทางศาสนา โดยให้เจ้าหน้าที่ที่ดูแลเตาเผาของวัด สวมใส่ชุด PPE ในระหว่างเคลื่อนย้ายร่างเข้าเตาเผา และไม่อนุญาตให้ครอบครัวผู้เสียชีวิต ขึ้นไปบนเมรุในระหว่างที่ประกอบพิธี โดยอาตมาทำหน้าที่สวดบังสุกุลและสวดส่งวิญญานที่หน้าเมรุ จนเสร็จพิธีหลังจากนั้นสังเกตุดูทางครอบครัวผู้เสียชีวิตก็คลายความทุกข์กังวลใจจนหมดไป และเข้ามากราบขอบคุณที่อาตมาให้ความช่วยเหลือ โดยที่ทางวัดทำให้ฟรีไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น เพราะอาตมาตั้งใจแล้วว่า หลังจากนี้ไปหากผู้ป่วยติดเชื้อรายใดเสียชีวิตลงแล้วหาวัดทำพิธีเผาศพไม่ได้ วัดแห่งนี้ที่อาตมาเป็นเจ้าอาวาสดูแลอยู่ จะสงเคราะห์ทำพิธีฌาปนกิจให้โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ เพื่อเป็นการสร้างบุญกุศลให้กับผู้เสียชีวิตหมดความห่วงใย ไม่จากไปอย่างโดดเดี่ยว
"วัดแห่งนี้ไม่ใช่จะเผาเฉพาะผู้ติดเชื้อโควิด-19 เท่านั้น หากแต่ทางวัดยังเผาศพคนยากคนจน ผู้ยากไร้ มาแล้วกว่าหนึ่งพันศพ โดยไม่คิดค่าใช่จ่ายแม้แต่บาทเดียว บางคนครอบครัวยากจนมีเงินติดตัวแค่ร้อยกว่าบาท วัดไม่ใช่ของอาตมา แต่เป็นของชาวบ้านทุกคน วัดจะไม่ปล่อยให้ผู้เสียชีวิตต้องโดดเดี่ยวอย่างแน่นอน" หลวงพ่อกล่าว
เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 2 เม.ย.64 ที่วัดบางม่วง ต.บางแม่นาง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากพระสมุห์ บุญเกิด ฐานุตโร เจ้าอาวาสวัดว่า วันนั้นศพของผู้ติดเชื้อโควิดจะถูกห่อมาประมาณ 3 ชั้น ซึ่งเราไม่ได้จับต้องหรือแกะออก ทางเจ้าหน้าที่จะไม่เข้าไปจับต้องหรือวุ่นวายกับศพ และจะสวมชุดป้องกันเป็นอย่างดี ถ้ามีผู้เสียชีวิตติดโควิดให้ประสานทางอาตมาโดยตรง เบอร์ 099-193-7987 ให้ติดต่อมาก่อนเพราะทางเราจะได้เตรียมของให้เรียบร้อย เเละจะเผาให้เลยในคืนนั้น ถ้ามีกิจอื่นหรือจะทำบุญเพิ่มค่อยว่ากันทีหลัง เพราะต้องทำตามกฏระเบียบ และอาตมาทำพิธีให้ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น และอยากฝากถึงทุกคนให้รักษาสุขภาพให้ดี ถ้าอยู่ในกลุ่มเสี่ยงให้รีบเข้าไปตรวจ อย่าปล่อยทิ้งไว้อาจจะเสียชีวิตได้ ตอนนี้เป็นห่วงแค่พระที่ทำพิธีเผา เพราะเราไม่มีชุด PPE เพียงพอในการป้องกัน แต่ก็ทำทุกอย่างรัดกุมที่สุด ป้องกันอย่างดี
พระสมุห์ บุญเกิด กล่าวต่อว่า วันศุกร์ที่ผ่านมาพ่อแม่ของผู้เสียชีวิต และ ครอบครัวได้นั่งรถมูลนิธิขับเข้ามาหาอาตมาที่วัด โดยนำศพลูกชายของเขาอายุ 30 ปี อาชีพโฟร์แมน ซึ่งเพิ่งเสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 ซึ่งถูกบรรจุอยู่ในถุงซิ๊ปคลุมศพ 3 ชั้น อย่างดี เข้ามาหาอาตมา ช่วงเวลา 10.00 น.และมาขอความช่วยเหลือ อาตมาจึงมองเห็นว่า วัดควรจะเป็นที่พึ่งของญาติโยม ของคนที่เดือดร้อน วัดไม่ใช่ของพระหรือของใครคนหนึ่ง เมื่อมีญาติโยมเดือดเนื้อร้อนใจมาขอที่พึ่ง อะไรที่สงเคราะห์ได้ ช่วยเหลือได้อาตมาก็ไม่ลังเลที่จะอนุญาตจึงให้ทางเจ้าหน้าที่มูลนิธินำศพเข้าเตาเผาเพื่อทำพิธีฌาปนกิจ ตามระเบียบขั้นตอนทางศาสนา โดยให้เจ้าหน้าที่ที่ดูแลเตาเผาของวัด สวมใส่ชุด PPE ในระหว่างเคลื่อนย้ายร่างเข้าเตาเผา และไม่อนุญาตให้ครอบครัวผู้เสียชีวิต ขึ้นไปบนเมรุในระหว่างที่ประกอบพิธี โดยอาตมาทำหน้าที่สวดบังสุกุลและสวดส่งวิญญานที่หน้าเมรุ จนเสร็จพิธีหลังจากนั้นสังเกตุดูทางครอบครัวผู้เสียชีวิตก็คลายความทุกข์กังวลใจจนหมดไป และเข้ามากราบขอบคุณที่อาตมาให้ความช่วยเหลือ โดยที่ทางวัดทำให้ฟรีไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น เพราะอาตมาตั้งใจแล้วว่า หลังจากนี้ไปหากผู้ป่วยติดเชื้อรายใดเสียชีวิตลงแล้วหาวัดทำพิธีเผาศพไม่ได้ วัดแห่งนี้ที่อาตมาเป็นเจ้าอาวาสดูแลอยู่ จะสงเคราะห์ทำพิธีฌาปนกิจให้โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ เพื่อเป็นการสร้างบุญกุศลให้กับผู้เสียชีวิตหมดความห่วงใย ไม่จากไปอย่างโดดเดี่ยว
"วัดแห่งนี้ไม่ใช่จะเผาเฉพาะผู้ติดเชื้อโควิด-19 เท่านั้น หากแต่ทางวัดยังเผาศพคนยากคนจน ผู้ยากไร้ มาแล้วกว่าหนึ่งพันศพ โดยไม่คิดค่าใช่จ่ายแม้แต่บาทเดียว บางคนครอบครัวยากจนมีเงินติดตัวแค่ร้อยกว่าบาท วัดไม่ใช่ของอาตมา แต่เป็นของชาวบ้านทุกคน วัดจะไม่ปล่อยให้ผู้เสียชีวิตต้องโดดเดี่ยวอย่างแน่นอน" หลวงพ่อกล่าว