วันนี้ 2 พ.ค.64 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดยะลา รายงาน สถานการณ์ โควิด-19 จ.ยะลา วันนี้พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 16 ราย ป่วยสะสม แล้ว 71 ราย หายแล้ว 6 ราย สะสม เสียชีวิต 1 ราย รักษาตัวในโรงพยาบาล 69 ราย แบ่งเป็น โรงพยาบาลยะลา 29 ราย รักษาหาย 3 ราย โรงพยาบาลเบตง 8 ราย (ส่งต่อนอกจังหวัด ไป โรงพยาบาล มอ.หาดใหญ่ 1 ราย) รักษาหาย 3 ราย โรงพยาบาลกรงปินัง 1 ราย โรงพยาบาลสนาม 31 ราย อยู่ระหว่างรอผลการตรวจ (Lab) 1,697 ราย โดย อ.เมืองยะลา พบผู้ติดเชื้อ 19 ราย อ.กรงปินัง 24 ราย อ.เบตง 13 ราย(เสียชีวิต 1 ราย) อ.บันนังสตา 1 ราย และ อ.รามัน 14 ราย
สำหรับพื้นที่เสี่ยงดังกล่าวประกอบด้วย อ.รามัน ต.บาลอ หมู่ที่ 1 บ้านบาลอ ต.ยะต๊ะ หมู่ที่ 4 บ้านอูแป , อ.กรงปินัง ต.กรงปินัง หมู่ที่ 2 บ้านตะโละซูแม หมู่ที่ 4 บ้านกีเยาะ ต.สะเอะ หมู่ที่ 5 บ้านแปแจง รวม 5 หมู่บ้าน ซึ่งหมู่บ้านดังกล่าวได้งดกิจกรรมการรวมกลุ่มทุกประเภทแล้ว โดยเฉพาะการประกอบศาสนกิจที่มัสยิดของชาวมุสลิม
นายชัยสิทธิ์ พานิชพงศ์ ผวจ.ยะลา/ผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน จ.ยะลา ได้ออกคำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 จ.ยะลา ที่ 32/2564 โดยในคำสั่งได้กำหนดพื้นที่เสี่ยงห้ามมิให้ผู้ใดเข้าออก หากฝ่าฝืนระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 30 เม.ย.เป็นต้นไปจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายตามคำสั่งของคณะกรรมการ
ด้าน นายแพทย์สงกรานต์ ไหมชุม นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดยะลา กล่าวว่า สำหรับ สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ของจังหวัดยะลา การตรวจโควิด-19 (แบบ Swab หรือ PCR)ไม่จำกัดเฉพาะคนที่มาจากข้างนอกหรือต่างจังหวัด มันเกิดจากคนที่ใกล้ชิดเราเอง เพราะว่าเชื้อตัวนี้เผยแพร่ได้เร็ว จากการสอบสวนโรคและเข้าไปทำเชิงรุก ที่เจอรายใหม่ๆที่ไม่ใช่เชิงรุกยังไม่มากประมาณแค่ 1 - 2 ราย ซึ่งกำลังสอบสวนโรคอยู่ เพื่อจะวางแผนในการควบคุม และวันนี้ก็ได้ไปจัดการ เพราะว่ารายใหม่จะเกิดที่ อ.รามัน อ.เมืองยะลา ซึ่งหลังจากนี้ 2 - 3 วัน มันก็จะเกิดจากการที่ความคลีนซิ่งไฟน์ดิงส์ มันจะมีบางส่วนอย่างของ อ.เมืองยะลา ก็ยังอยู่ในส่วนของกลุ่มวงที่1- 2 รามันก็ยังเป็นวงที่ 1 มีการเอาเข้ามามีการขยันลึกและเริ่มสงสัยในกลุ่มที่ 2 แล้ว ซึ่งเป็นแหล่งที่มาว่าต้องทำวันนี้เพื่อจะดูว่าอยู่กลุ่มที่ 2 หรือไม่ ส่วนของกรงปีนังจะอยู่เข้าในส่วนของกลุ่มที่ 3 เพราะมีการสัมผัสในครอบครัวและเริ่มขยายออกไปในส่วนการทำงานที่อื่น อย่างเช่นมาทำงานที่อำเภอเมือง ส่วนของ อ.กรงปีนัง ก็เป็นในส่วนกลุ่มที่ 3 แล้ว สำหรับ อ.เบตง ไม่ได้เจอเคสใหม่มา 2 - 3 วันแล้ว ซึ่งจะค่อยๆเริ่มดีขึ้น ส่วนที่เหลือก็ต้องเฝ้าระวังไม่ให้ไปยังอำเภออื่นอีก
สำหรับพื้นที่เสี่ยงดังกล่าวประกอบด้วย อ.รามัน ต.บาลอ หมู่ที่ 1 บ้านบาลอ ต.ยะต๊ะ หมู่ที่ 4 บ้านอูแป , อ.กรงปินัง ต.กรงปินัง หมู่ที่ 2 บ้านตะโละซูแม หมู่ที่ 4 บ้านกีเยาะ ต.สะเอะ หมู่ที่ 5 บ้านแปแจง รวม 5 หมู่บ้าน ซึ่งหมู่บ้านดังกล่าวได้งดกิจกรรมการรวมกลุ่มทุกประเภทแล้ว โดยเฉพาะการประกอบศาสนกิจที่มัสยิดของชาวมุสลิม
นายชัยสิทธิ์ พานิชพงศ์ ผวจ.ยะลา/ผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน จ.ยะลา ได้ออกคำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 จ.ยะลา ที่ 32/2564 โดยในคำสั่งได้กำหนดพื้นที่เสี่ยงห้ามมิให้ผู้ใดเข้าออก หากฝ่าฝืนระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 30 เม.ย.เป็นต้นไปจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายตามคำสั่งของคณะกรรมการ
ด้าน นายแพทย์สงกรานต์ ไหมชุม นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดยะลา กล่าวว่า สำหรับ สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ของจังหวัดยะลา การตรวจโควิด-19 (แบบ Swab หรือ PCR)ไม่จำกัดเฉพาะคนที่มาจากข้างนอกหรือต่างจังหวัด มันเกิดจากคนที่ใกล้ชิดเราเอง เพราะว่าเชื้อตัวนี้เผยแพร่ได้เร็ว จากการสอบสวนโรคและเข้าไปทำเชิงรุก ที่เจอรายใหม่ๆที่ไม่ใช่เชิงรุกยังไม่มากประมาณแค่ 1 - 2 ราย ซึ่งกำลังสอบสวนโรคอยู่ เพื่อจะวางแผนในการควบคุม และวันนี้ก็ได้ไปจัดการ เพราะว่ารายใหม่จะเกิดที่ อ.รามัน อ.เมืองยะลา ซึ่งหลังจากนี้ 2 - 3 วัน มันก็จะเกิดจากการที่ความคลีนซิ่งไฟน์ดิงส์ มันจะมีบางส่วนอย่างของ อ.เมืองยะลา ก็ยังอยู่ในส่วนของกลุ่มวงที่1- 2 รามันก็ยังเป็นวงที่ 1 มีการเอาเข้ามามีการขยันลึกและเริ่มสงสัยในกลุ่มที่ 2 แล้ว ซึ่งเป็นแหล่งที่มาว่าต้องทำวันนี้เพื่อจะดูว่าอยู่กลุ่มที่ 2 หรือไม่ ส่วนของกรงปีนังจะอยู่เข้าในส่วนของกลุ่มที่ 3 เพราะมีการสัมผัสในครอบครัวและเริ่มขยายออกไปในส่วนการทำงานที่อื่น อย่างเช่นมาทำงานที่อำเภอเมือง ส่วนของ อ.กรงปีนัง ก็เป็นในส่วนกลุ่มที่ 3 แล้ว สำหรับ อ.เบตง ไม่ได้เจอเคสใหม่มา 2 - 3 วันแล้ว ซึ่งจะค่อยๆเริ่มดีขึ้น ส่วนที่เหลือก็ต้องเฝ้าระวังไม่ให้ไปยังอำเภออื่นอีก