นายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย อธิบดีกรมท่าอากาศยาน เปิดเผยว่า ตามที่ศูนย์ข้อมูลโควิดจังหวัดภูเก็ต ประกาศแจ้งผู้โดยสารภายหลังพบว่า มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 เป็นผู้โดยสารของสายการบิน 3 สายการบิน รวม 7 เที่ยวบิน ได้มีการเดินทางเข้าออกจังหวัดภูเก็ตตั้งแต่วันที่ 15 เม.ย.64 เป็นต้นมา ทำให้มีผู้ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงต้องตรวจหาเชื้อและกักตัวโดยเร็วนั้น นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ได้สั่งการให้หน่วยงานในสังกัดคมนาคมที่เกี่ยวข้อง กำหนดมาตรการในการเดินทาง และประชาสัมพันธ์ให้ผู้โดยสารทราบถึงแนวทางที่ชัดเจน เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ขึ้นอีก ซึ่งกรมท่าอากาศยาน ได้มีการดำเนินการตามนโยบายการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในระบบขนส่งสาธารณะของ รมว.คมนาคมมาอย่างต่อเนื่อง โดยจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กรมท่าอากาศยานได้กำชับท่าอากาศยานในสังกัดกรมท่าอากาศยานให้ยกระดับและเพิ่มความเข้มงวดในการดำเนินงาน เพื่อป้องกันเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น ซึ่งปัจจุบันกรมท่าอากาศยานมีมาตรการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของโควิด-19 ดังนี้ 1.ร่วมกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่ตรวจคัดกรอง เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานภายในท่าอากาศยาน ผู้ที่เข้ามาติดต่องาน และผู้โดยสาร ก่อนเข้าใช้บริการอาคารผู้โดยสาร โดยเครื่อง Handheld และเครื่องเทอร์โมสแกน โดยทุกคนต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดเวลาที่อยู่ในท่าอากาศยาน 2.จัดจุดลงทะเบียนเช็คอิน-เช็คเอาท์ "ไทยชนะ" ห้องผู้โดยสารขาเข้าและขาออก3.จัดจุดบริการเจลล้างมือสำหรับผู้โดยสารและผู้ใช้บริการ ไว้บริเวณจุดต่างๆ ภายในท่าอากาศยาน 4.ฉีดพ่นยากระเป๋าสัมภาระผู้โดยสารขาเข้า ก่อนลำเลียงสายพานแจกจ่ายให้ผู้โดยสารขาเข้า 5.กำหนดจุดการเว้นระยะห่าง (Social Distancing) ได้แก่ เคาน์เตอร์ขายตั๋วโดยสาร,เคาน์เตอร์เช็คอิน,เก้าอี้พักคอยในอาคารผู้โดยสาร,จุดตรวจตั๋วโดยสารก่อนเข้าห้องขาออก,จุดตรวจค้น,จุดตรวจบัตรโดยสารที่ประตู,จุดวัดอุณหภูมิคัดกรอง,จุดแสกน QR Code,บริเวณสายพานรับกระเป๋า รวมถึงกำชับให้ผู้ประกอบการภายในท่าอากาศยานปฏิบัติตามมาตรการ Social Distancing อย่างเคร่งครัด 6.เพิ่มความถี่ในการทำความสะอาดพื้นที่ภายในและอุปกรณ์ต่างๆ โดยใช้น้ำยาฆ่าเชื้อทำความสะอาด และฉีดยาพ่นภายในอาคาร หลังเที่ยวบินสุดท้ายทุกวัน 7.เผยแพร่สื่อประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโควิด-19 ให้ผู้โดยสารทราบ8.ปฏิบัติตามมาตรการของ ศบค. กระทรวงสาธารณสุข กรมควบคุมโรค และสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้กรมท่าอากาศยาน ขอแจ้งให้ผู้โดยสารที่จะเดินทางทราบว่า ผู้โดยสารทุกท่านจะต้องเข้ารับการตรวจคัดกรองตามขั้นตอนของท่าอากาศยาน ซึ่งเป็นไปตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ทั้งในส่วนของการสวมใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดเวลา และหากวัดอุณหภูมิผู้โดยสารได้สูงกว่า 37.3 องศาเซลเซียส หรือมีอาการทางระบบทางเดินหายใจ เช่น ไอ มีน้ำมูก หายใจเหนื่อยหอบ สายการบินและท่าอากาศยานจะดำเนินการแจ้งสาธารณสุขในพื้นที่ทันที สำหรับผู้ป่วยยืนยันหรือผู้สัมผัสเสี่ยงสูงต้องงดการเดินทาง หากฝ่าฝืนอาจได้รับโทษตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558