“จุรินทร์” ไม่สน“ธรรมนัส”แจมช่วยกันแก้ปัญหาราคาพริก ดักคออย่าปั่นเป็นเรื่องการเมือง พร้อมสั่งพณ.เร่งเดินหน้า เผยผวจ.สงขลาประชุมทีมพณ.พรุ่งนี้เช้าลุยก่อนเปิดรับซื้อตอนบ่าย จ่อเร่งแก้ปัญหาฟักทองด้วย
เมื่อวันที่ 2 พ.ค. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่กระทรวงพาณิชย์กำลังดำเนินการแก้ปัญหาพริกพันธุ์ดวงมณีหรือพริกเขียวในภาคใต้ราคาตก ขณะเดียวกัน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ นำคณะลงพื้นที่ไปพบเกษตรกรผู้ปลูกพริกด้วย ซึ่งถูกมองว่าอาจจะทำงานซ้ำซ้อนกัน ว่า กระทรวงใดหรือหน่วยงานใดที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องโดยตรงในเรื่องนี้ควรไปช่วยกันแก้ปัญหา สำหรับกระทรวงพาณิชย์ ตนได้สั่งการให้พาณิชย์จังหวัดลงพื้นที่แล้วประสานงานกับเกษตรกรผู้ปลูกพริกและส.ส.ในพื้นที่ทันทีแล้วตั้งแต่เมื่อวันที่30 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งจากการลงพื้นที่ดังกล่าว ทำให้พบว่าราคาพริกเขียวตกลงเหลือกิโลกรัม (กก.) ละ 8 บาท เนื่องจากพริกดังกล่าวมีตลาดหลักคือตลาดมาเลเซียที่นำเข้าไปพริกจากไทยเพื่อทำซอสพริก แต่ขณะนี้ความต้องการบริโภคซอสพริกในมาเลเซียลดลง จึงส่งผลต่อการนำเข้าพริกจากไทยลดลง
นายจุรินทร์ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ได้ดำเนินการมาตรการหลายอย่าง ทั้งการหาผู้ซื้อที่ประกอบด้วยห้างโมเดิร์นเทรดต่างๆ ตลาดขนาดใหญ่ ห้องเย็น และผู้ส่งออก ให้ไปรับซื้อพริกจากเกษตรกรโดยตรง ในราคากก.ละไม่ต่ำกว่า 10 บาท โดยมีพาณิชย์จังหวัดเป็นผู้ประสานงานให้ซึ่งได้ประสานงานเสร็จแล้วไปเมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมา อีกทั้งกระทรวงพาณิชย์จะจัดสรรเงินจากกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรของคณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร (คชก.) ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ดูแลอยู่ ลงไปช่วยสนับสนุนเกษตรผู้ปลูกพริกด้วย กก.ละ 5 บาท ดังนั้นรวมแล้วจะช่วยให้เกษตรมีรายได้จากขายพริกในช่วงนี้กก.ละ 15 บาท โดยเราตั้งเป้าการเข้าไปช่วยเหลือครั้งนี้ ประมาณ 3,000 ตัน
นายจุรินทร์ กล่าวว่า ในเช้าวันที่ 3 พ.ค.นี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พาณิชย์จังหวัดสงขลา จะประชุมร่วมกับนายอาวุธ วงศ์สวัสดิ์ รองอธิบดีกรมการค้าภายใน และนายวิชัย โภชนกิจ ที่ปรึกษารมว.พาณิชย์ ที่ศาลากลางจังหวัดสงขลา เพื่อดำเนินการตามรายละเอียดดังกล่าวทั้งหมด จากนั้นในช่วงบ่ายของวันเดียวกัน คาดว่าจะเปิดจุดรับซื้อพริกเขียวนี้ได้ อาทิ ในพื้นที่อ.ระโนด จ.สงขลา และพื้นที่อื่นๆที่เหมาะสม นอกจากนี้ยังมีปัญหาฟักทองด้วยเริ่มเกิดขึ้นในจ.สงขลา เนื่องจากขณะนี้เป็นช่วงที่ฟักทองกำลังออกผล แต่ได้เกิดพายุพัดถล่ม ส่งผลให้ฟักทองเน่าเสียจำนวนมาก โดยในเบื้องต้น ตนได้สั่งการให้พาณิชย์จังหวัดสงขลาลงพื้นที่แล้ว ซึ่งเขาได้ลงพื้นที่แล้วเมื่อวันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมา และประสานงานหาผู้ประกอบการและผู้ส่งออกให้ช่วยมารับซื้อฟักทอง พร้อมกับให้เชื่อมโยงกับตลาดใหญ่ในพื้นที่ต่างๆ เพื่อระบายผลผลิตฟักทอง ดังนั้น การประชุมที่สงขลาในเช้าวันพรุ่งนี้ (3 พ.ค.) นอกจากจะหารือถึงการแก้ปัญหาพริกแล้ว ก็จะมีการออกมาตรการแก้ปัญหาฟักทองด้วย
เมื่อถามว่าการที่แต่ละกระทรวงที่อยู่ในความดูแลของแต่ละพรรคต่างลงไปแก้ปัญหาเดียวกัน ถูกมองว่าอาจมีนัยยะทางการเมืองว่าเป็นการเจาะยางกัน หรือแย่งชิงผลงานกันเอง นายจุรินทร์ กล่าวว่า ตนไม่อยากให้ทุกเรื่องกลายเป็นเรื่องของการเมือง มิฉะนั้นจะทำให้รัฐบาลทำงานลำบาก จึงขอให้เป็นเรื่องการทำหน้าที่ของแต่ละหน่วยงานผู้รับผิดชอบ แบบนั้นจะดีที่สุด สำหรับกระทรวงพาณิชย์เป็นเรื่องการไปทำหน้าที่ที่อยู่ในความรับผิดชอบของตัวเอง และที่จริง ตลอดเวลาที่ผ่านมาไม่ได้มีปัญหาแค่พริก แต่ยังมีปัญหาราคาพืชผลการเกษตรชนิดอื่นๆ อาทิ ลำไย กระเทียม ซึ่งเราเข้าไปดำเนินการแก้ไขมาตลอด
เมื่อถามว่ากระทรวงพาณิชย์จะต้องประสานงานกับองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) กระทรวงเกษตรฯ ในการแก้ปัญหาพริกเขียวด้วยหรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์ทำงานร่วมกับกระทรวงเกษตรฯมาตลอดอยู่แล้ว ซึ่งเห็นได้จากวิสัยทัศน์ที่ว่า “เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด” และยุทธศาสตร์ตลาดนำการผลิต โดยกระทรวงเกษตรฯมีหน้าที่ดูแลเรื่องการผลิตให้พืชผลการเกษตรมีคุณภาพและเป็นไปตามความต้องการ ส่วนกระทรวงพาณิชย์ช่วยหาตลาดให้
เมื่อถามว่าส.ส.พรรคพลังประชารัฐในภาคใต้ต้องการให้ร.อ.ธรรมนัสเข้ามาแก้ปัญหานี้เป็นหลัก นายจุรินทร์ กล่าวว่า ไม่เป็นไร ช่วยกันหลายๆมือ ช่วยกันหลายๆทาง แต่อย่าทำให้ทุกอย่างเป็นเรื่องของการเมือง เพราะมันไม่คุ้ม มิฉะนั้นจะทำให้รัฐบาลมีความลำบากโดยไม่จำเป็น ตนขอพูดในฐานะรัฐบาลว่ากระทรวงไหนมีหน้าที่อะไร ก็ทำหน้าที่ของตัวเองให้สมบูรณ์ กระทรวงพาณิชย์พยายามทำหน้าที่ตัวเองมาโดยลำดับ