เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 30 เม.ย. 64 ศูนย์วิทยุ191 ภูธรจังหวัดอุดรธานี รับแจ้งเหตุงัดแงะตู้น้ำหยอดเหรียญ ภายในซอยจินตคาม 1 ต.หมากแข้ง อ.เมืองอุดรธานี จ.อุดรธานี จึงประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ 191 ออกไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 649/1 ซ.จินตคาม 1 ต.หมากแข้ง พบนายชนาธิป สำราญสุข อายุ 53 ปี ที่อยู่ 278/2 ม.7 ซ.ชุมชนดอนอุดม ต.หมากแข้ง อ.เมืองอุดรธานี จ.อุดรธานี ผู้ดูแลบ้าน ยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่
จากการตรวจสอบพบตู้น้ำหยอดเหรียญ ซึ่งตั้งอยู่หน้าบ้าน มีรอยถูกคนร้ายใช้ของแข็งงัดแงะแม่กุญแจที่ล็อคเอาไว้ทั้ง 3 จุดพังเสียหาย ส่วนกล่องใส่เหรียญภายในตู้คนร้ายได้ขโมยไป
จากการสอบสวนนายชนาธิป ให้การว่า บ้านหลังนี้และตู้น้ำหยอดเหรียญ เป็นของพี่สาว ซึ่งไปอยู่ต่างประเทศกับครอบครัว ส่วนตู้น้ำหยอดเหรียญพี่สาวมาตั้งไว้ นานหลายปีแล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้พี่สาวจะกลับมาบ้านปีละครั้งแล้วจะเป็นคนมาเปิดเพื่อนำเงินออก ซึ่งแต่ละครั้งจะได้เงินอยู่ประมาณ 7,000-9,000 บาท ซึ่งบางปีก็ได้ประมาณ 10,000 บาท แต่เนื่องจากมีเชื้อไวรัสโควิดระบาดจึงไม่ได้กับมาบ้าน 1 ปีกว่าแล้ว ส่วนตนจะไปพักอยู่ที่บ้านของตนซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบ้านพี่สาว โดยทุกวันตนจะมาดูแลความเรียบร้อย คอยเปิดปิดไฟที่บ้านของพี่สาวเท่านั้น ส่วนกุญแจเปิดกล่องเก็บเงินนั้นจะอยู่กับพี่สาว
ซึ่งเมื่อวานนี้ตู้น้ำก็ยังให้บริการตามปกติ แต่ช่วงค่ำมีฝนตกลงมาเวลาประมาณ 1 ทุ่ม ถึง 4 ทุ่มฝนก็หยุด แล้วช่วงดึกก็ตกลงมาอีก โดยตอนเช้าวันนี้ตนกับภรรยากลับจากไปทำธุระก็ได้แวะมาปิดไฟหน้าบ้านพี่สาว จึงพบว่าตู้น้ำหยอดเหรียญ ถูกคนร้ายงัดตัวล็อคกุญแจและเอากล่องใส่เงินไป ตนจึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ
ส่วนคนร้ายที่ก่อเหตุคาดว่าน่าจะเป็นพวกวัยรุ่นออกตระเวนหางัดแงะหาเงินไปใช้จ่ายหรือซื้อยาเสพติดมาเสพ โดยคาดว่าจะมาลงมือช่วงกลางดึกเนื่องจากเป็นช่วงเวลามีฝนตกลงมา และไม่มีใครผ่านไปมา จึงมาก่อเหตุ ส่วนเงินที่คนร้ายได้ไปประมาณ 8,000-9,000 บาท เพราะช่วงปีที่ผ่านมาจนถึงปีนี้พี่สาวไม่ได้กลับมาเปิดเอาเงินออกไป
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจะได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะใช้เป็นเส้นทางหลบหนี ติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป.
ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 649/1 ซ.จินตคาม 1 ต.หมากแข้ง พบนายชนาธิป สำราญสุข อายุ 53 ปี ที่อยู่ 278/2 ม.7 ซ.ชุมชนดอนอุดม ต.หมากแข้ง อ.เมืองอุดรธานี จ.อุดรธานี ผู้ดูแลบ้าน ยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่
จากการตรวจสอบพบตู้น้ำหยอดเหรียญ ซึ่งตั้งอยู่หน้าบ้าน มีรอยถูกคนร้ายใช้ของแข็งงัดแงะแม่กุญแจที่ล็อคเอาไว้ทั้ง 3 จุดพังเสียหาย ส่วนกล่องใส่เหรียญภายในตู้คนร้ายได้ขโมยไป
จากการสอบสวนนายชนาธิป ให้การว่า บ้านหลังนี้และตู้น้ำหยอดเหรียญ เป็นของพี่สาว ซึ่งไปอยู่ต่างประเทศกับครอบครัว ส่วนตู้น้ำหยอดเหรียญพี่สาวมาตั้งไว้ นานหลายปีแล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้พี่สาวจะกลับมาบ้านปีละครั้งแล้วจะเป็นคนมาเปิดเพื่อนำเงินออก ซึ่งแต่ละครั้งจะได้เงินอยู่ประมาณ 7,000-9,000 บาท ซึ่งบางปีก็ได้ประมาณ 10,000 บาท แต่เนื่องจากมีเชื้อไวรัสโควิดระบาดจึงไม่ได้กับมาบ้าน 1 ปีกว่าแล้ว ส่วนตนจะไปพักอยู่ที่บ้านของตนซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบ้านพี่สาว โดยทุกวันตนจะมาดูแลความเรียบร้อย คอยเปิดปิดไฟที่บ้านของพี่สาวเท่านั้น ส่วนกุญแจเปิดกล่องเก็บเงินนั้นจะอยู่กับพี่สาว
ซึ่งเมื่อวานนี้ตู้น้ำก็ยังให้บริการตามปกติ แต่ช่วงค่ำมีฝนตกลงมาเวลาประมาณ 1 ทุ่ม ถึง 4 ทุ่มฝนก็หยุด แล้วช่วงดึกก็ตกลงมาอีก โดยตอนเช้าวันนี้ตนกับภรรยากลับจากไปทำธุระก็ได้แวะมาปิดไฟหน้าบ้านพี่สาว จึงพบว่าตู้น้ำหยอดเหรียญ ถูกคนร้ายงัดตัวล็อคกุญแจและเอากล่องใส่เงินไป ตนจึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ
ส่วนคนร้ายที่ก่อเหตุคาดว่าน่าจะเป็นพวกวัยรุ่นออกตระเวนหางัดแงะหาเงินไปใช้จ่ายหรือซื้อยาเสพติดมาเสพ โดยคาดว่าจะมาลงมือช่วงกลางดึกเนื่องจากเป็นช่วงเวลามีฝนตกลงมา และไม่มีใครผ่านไปมา จึงมาก่อเหตุ ส่วนเงินที่คนร้ายได้ไปประมาณ 8,000-9,000 บาท เพราะช่วงปีที่ผ่านมาจนถึงปีนี้พี่สาวไม่ได้กลับมาเปิดเอาเงินออกไป
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจะได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะใช้เป็นเส้นทางหลบหนี ติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป.