วันที่ 3 เมษายน 2564 ที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ นายวัฒนา พุฒิชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ได้เป็นประธานรับมอบห้องความดันบวก จำนวน 3 ห้อง จาก ผู้แทน SCG CPAC และ บริษัทคูย่งฮวด (1995 ) ร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ เพื่อนำไปมอบให้แก่โรงพยาบาล 3 แห่งในจังหวัดศรีสะเกษ ได้แก่ โรงพยาบาลห้วยทับทัน โรงพยาบาลกันทรลักษ์ และโรงพยาบาลศรีสะเกษ โดยมี นายวิชิต ไตรสรณกุล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ และนายอภิศักดิ์ แซ่จึง นายวิเชียร ถิรเลิศพาณิชย์ รองนายกอบจ. นายธนกฤช จิริวิภากร เลขานุการนายก อบจ.ศรีสะเกษ นพ.ชลวิทย์ หลาวทอง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศรีสะเกษ สมาชิก ส.อบจ.ศรีสะเกษ และข้าราชการองค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ ร่วมในพิธีส่งมอบห้องความดันอากาศบวก” (Positive Pressure SWAB Room) นายวัฒนา พุฒิชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า ตู้นี้เป็นตู้ความดันอากาศบวก ที่เป็นโครงการของ SCG CPAC มอบห้องความดันบวกให้แก่โรงพยาบาลต่างๆ ทั่วประเทศ #ช่วยกันแคร์ดูแลกัน #CareTogether สำหรับบุคลากรทางการแพทย์ในการเก็บตัวอย่างเชื้อไวรัสโคโรนา COVID -19 ซึ่งเครื่องดังกล่าวนี้มีประโยชน์กับบุคลากรทางการแพทย์อย่างมาก เพราะเป็นนวัตกรรมที่ได้มีการพัฒนาอุปกรณ์ เครื่องมือต่างๆ เพื่อสนับสนุนภารกิจทางการแพทย์ ทำให้เกิดเป็นนวัตกรรมห้องความดันบวก สามารถเคลื่อนย้ายได้สะดวกคล่องตัว ติดตั้งได้ทั้งภายในและภายนอกอาคาร เพื่อใช้ประโยชน์ในการตรวจคัดกรองคนไข้ หาเชื้อไวรัสโคโรนา COVID -19 ด้วยวิธีป้ายจมูกและลำคอ (nasopharyngeal swab and throat swab) ลดความเสี่ยงในการปฏิบัติงานจากการสัมผัสโดยตรงของบุคลากรทางการแพทย์และผู้มาติดต่อ และเพื่อให้ประชาชนชาวจังหวัดศรีสะเกษ ได้มีอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ทันสมัย ในการเข้ารับการรักษาได้อย่างรวดเร็วในการป้องกันและลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อ ของบุคลากรทางการแพทย์ เพราะขณะนี้จังหวัดศรีสะเกษมีผู้ติดเชื้อ 162 ราย จาก17 อำเภอ รักษาหายกลับบ้านแล้ว 22อำเภอ ยังรักษาต่ออยู่ 140 คน ผู้ติดเชื้อเหล่านี้ส่วนมากมาจากการติดเชื้อเป็นกลุ่ม จาก 4 อำเภอ คือ อำเภอเมือง อำเภอกันทรลักษ์ อำเภอ กันทรารมย์ อำเภอน้ำเกลี้ยง และยังมีล่าสุดที่อำเภอศิลาลาดก็ติดเชื้อมา 9คน ได้เข้าตรวจและรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลราษีไศล จึงเป็น การดีที่มี(Positive Pressure Room) เพื่อช่วยลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อโควิด19 และโรคติดเชื้อทางเดินหายใจให้กับบุคลากรทางการแพทย์ขณะปฏิบัติหน้าที่