วันที่ 30 เมษายน 2564 - พุทธะอิสระ อดีตเจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย ในฐานะอดีตแกนนำกปปส. โพสต์ข้อความในเพจเฟซบุ๊ก หลวงปู่พุทธะอิสระ (Buddha Isara) โดยมีข้อความ ระบุ ว่า...ไม่แปลก และไม่สงสัย ต่อท่าทีของนักบวชอย่างมหาไพรวัลย์
มีผู้นำบทโพสต์ บทสัมภาษณ์ ของพระมหาไพรวัลย์ ในกรณีขนมพระเครื่องมาให้อ่าน พออ่านแล้วจับใจความได้ว่า มหาไพรวัลย์ เห็นด้วยกับการนำรูปสมมุติพระพุทธเจ้ามาทำเป็นขนม อ่านแล้วก็ไม่รู้สึกแปลกใจอะไร เพราะพฤติกรรม ส่อเจตนา
ที่ผ่านมาท่านมหานักวิจารณ์ นักคิด นักเขียน ยังเคยปรากฎตัวรับธงธรรมจักรรูปหัวแครอทมาแล้วเลย ขนาดธงธรรมจักรที่ชาวพุทธทั่วโลก เขาสมมุติให้เป็นตัวแทนของพระธรรม แกออกมารับรูปธงธรรมจักรที่พวกวิปริตแปลงเป็นหัวแครอท แกยังยิ้มหน้าบานเลย
ที่ยังขาดอยู่อย่างเดียวที่แกยังไม่ได้ทำก็คือ เข้าร่วมชุมนุมกับกลุ่มสามนิ้วและขึ้นเวทีเท่านั้น เพราะไอ้คนที่นำรูปธงธรรมจักรหัวแครอทไปมอบให้มหา มันก็ขึ้นเวทีโจมตีศาสนาว่าเป็นดังน้ำที่เชื่อมยึดโยงทุกสังคมให้เกาะกลุ่มรวมกัน มันจึงจะต้องทำลายเครื่องเชื่อม เครื่องยึดโยง ที่มีมาอย่างยาวนานนี้ออกไปให้ได้เสียก่อน
ไม่เช่นนั้นจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงประเทศนี้ได้เลย (อยากรู้รายละเอียดไปหาฟังคลิปเอาเอง)
วันนี้พอมีคนนำภาพสมมุติตัวแทนพระพุทธเจ้า มาทำเป็นขนม มหานักวิจารณ์คนนี้จึงออกมาแสดงความเห็นด้วย โดยไม่ได้สนความรู้สึกของคนส่วนใหญ่ของประเทศ ดูพฤติกรรมของมหาจะสอดคล้องกับกลุ่มลัทธิล้างผลาญรากเหง้าเผ่าไทยชนิดไม่น่าสงสัยหรือแปลกใจใดๆ เพราะเรื่องบังเอิญมันไม่มีในโลกอยู่แล้ว
นี่แหละจึงว่า การกระทำมันส่อเจตนา
ด้าน พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ ภิกษุชื่อดังจากวัดสร้อยทอง ก็ได้โพสตข้อความถึง พุทธะอิสระ อดีตเจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย บนเฟซบุ๊ก โดยมีข้อความ ว่า ...ไม่แปลก และไม่สงสัย ต่อท่าทีของนายสุวิทย์
เสียทีมาก ที่อาตมาเคยถือความถูกต้อง และกล่าวความสัตย์ต่อนักข่าวถึงกรณีของคุณเมื่อถูกจับขังคุกใหม่ๆ ว่า คุณยังมีคงมีความเป็นพระอยู่
คนแบบคุณ ซึ่งชอบพอในเดรัจฉานวิชา อุตริเอาเลือดตัวเองไปฉาบทาพระเครื่อง คนแบบคุณซึ่งอุตริปลุกเสกต์ของขลัง แถมยังบังอาจใช้พระปรมาภิไธยของพระพุทธเจ้าอยู่หัวพระองค์ก่อน กล้าดียังไง มาตั้งคำถามกับอาตมา ที่ตลอดเวลาในการครองสมณะเพศ ไม่เคยทำเรื่องอัปมงคลเช่นนั้น
ถูกแล้วนะ ที่คนกึ่งดิบกึ่งสุกแบบคุณไม่ควรต้องแปลกใจกับใคร เพราะคนแบบคุณควรเอาความแปลกใจนั้น ไปไว้ใช้กับพฤติกรรมของตัวเอง อาตมาถือหลักอยู่ข้างคนเล็กคนน้อย ที่ถูกรักแกจากรัฐ พูดอะไรโดยเห็นแก่สิทธิและเสรีภาพ อาตมาถือเทียนท่องบทมหากรุณาธิคุณ มันต่างมากกับแบบคุณที่ถือวอร์สั่งการม็อบ
คุณจะมีความเห็นในทางการเมืองยังไง สนับสนุนชื่นชมใคร อาตมาไม่เคยพาดพิงและมีปัญหากับความเห็นในทางการเมืองของคุณ แต่นิสัยแบบเด็กๆของคุณ คือไม่เพียงไม่เคารพความเห็นต่างในทางการเมืองของคนอื่น แต่ยังพยายามใส่ร้าย ป้ายสี และจับโยงอย่างไม่สนสี่สนแปดอะไรเลย
คนอย่างคุณที่ถามหาความดีความงามจากคนอื่น เคยส่องกระจกดูหน้าตัวเองหรือเปล่า ? ว่าพฤติกรรมต่างๆ ที่เคยก่อกรรมทำเวรไว้ บัดซบมากน้อยแค่ไหน
อาตมาเคยหลงคิดว่า คนแบบนายสุวิทย์ คงเห็นธรรมะบ้างแล้วไม่มากก็น้อย หลังจากต้องเข้าไปอยู่ในเรือนจำ เพราะเมื่อออกมาใหม่ๆ ก็สงบปากสงบคำ และหันไปทำสิ่งที่เป็นการปฎิบัติมากขึ้น แต่อาตมาเข้าใจผิด เรือนจำไม่ได้ช่วยให้ความกร่างและความหลงผิดของคนแบบนายสุวิทย์ลดน้อยลงไปเลย
ปล. ทุกวันนี้คุณเป็นอะไร เดี๋ยววันดีคืนดีก็ไปกราบฆราวาส เดี๋ยววันดีคืนดีก็ให้พระให้ฆราวาสมากราบตัวเอง