เมื่อวันที่ 30 เม.ย.นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ชกล่าวถึงกรณีที่มีการชุมนุมที่ศาลอาญาเมิ่อวันที่ 29 เม.ย.ของผู้ชุมนุมแนวร่วมกลุ่มราษฎร เพื่อยื่นเรียกร้องศาลให้ประกันตัวแกนนำและแนวร่วมกลุ่มราษฎรว่า
การกระทำดังกล่าวของผู้ชุมนุม ไม่ถือว่าเป็นการเรียกร้องที่ชอบกฎหมาย แกนนำและผู้ชุมนุมทราบกระบวนการต่างๆของศาลดี ว่าศาลต้องทำหน้าที่ตามกฎหมาย อยู่บนพื้นฐานของข้อเท็จจริง เพื่อนำมาชั่งน้ำหนักออกมาเป็นดุลพินิจที่จะอนุญาตหรือไม่อนุญาตให้ประกันตัวหรือไม่ หากจำเลยหรือผู้ต้องหาที่จะขอประกันตัวได้ประกันตัวมาแล้วหลายต่อหลายครั้งแต่กลับไม่ใช้โอกาสในการใช้ชีวิตในสังคม กลับเดินหน้าทำผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า การอนุญาตให้ประกันตัวศาลก็ย่อมนำข้อเท็จจริงต่างๆเหล่านี้ประกอบการตัดสินใจด้วย การที่ผู้ชุมนุมได้เปิดปราศรัยที่หน้าบันไดศาล มีถ้อยคำมุ่งหมายโจมตี ศาลอย่างชัดเจน
ที่น่าสลดใจคือมี ส.ส.อยู่ในบริเวณใกล้ๆนั้นด้วย ควรห้ามปราม และไม่ควรสร้างพฤติกรรมที่บุกไปประชิดถึงบริเวณหน้าบันใดอาคารที่ทำการศาล ซึ่งถือว่าอยู่ในบริเวณศาล การกล่าวปราศรัยด้วยถ้อยคำที่คุกคามศาล ผู้ชุมนุมต้องระวัง ควรให้อยู่ในกรอบของกฎหมายบ้านเมือง อย่าชุมนุมด้วยเจตนาทำลายความน่าเชื่อถือของสถาบันตุลาการ
ควรให้ทนายความเตรียมคดีต่อสู้คดี โดยยึดหลักที่กฎหมายกำหนด หากใช้กฎหมู่อยู่เหนือกฎหมาย บ้านเมืองก็วุ่นวายไม่จบสิ้น
"เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สำนักงานศาลยุติธรรมควรดำเนินการตามกฎหมายเพื่อไม่ให้เกิดตัวอย่างที่ไม่ดีในบ้านเมือง หากปล่อยให้ทำได้ ต่อไปใครไม่พอใจผลการพิจารณาของศาลก็ยกพวกมากดดัน ข่มขู่ คุกคาม ก็จะเกิดความวุ่นวายไม่จบสิ้น
การกระทำดังกล่าวเป็นการการกระทำความผิดฐานละเมิดศาลอย่างชัดเจน และเทียบเคียงได้ชัดว่าเป็นการกระทำที่ไม่ต่างจากกรณีที่กลุ่มคนเสื้อแดงร่วมวางพวงหรีดหน้าศาลแพ่งรัชดาฯ และชูป้ายข้อความ วิจารณ์การทำหน้าที่ของศาลแพ่ง แต่กรณีนี้ชัดเจนกว่ามาก"นายราเมศ กล่าว