เชียงใหม่–ราชบุรี เผยความสำเร็จ โครงการนำลูกหลานเกษตรกรกลับบ้านฯ ทำตลาดออนไลน์ สร้างเครือข่าย ต่อยอดเกษตรในชุมชนครบวงจร
หลังจากที่โครงการนำลูกหลานเกษตรกรกลับบ้าน สานต่ออาชีพการเกษตร ของกรมส่งเสริมสหกรณ์ ได้เปิดตัวและดำเนินการไปเมื่อต้นปีที่แล้ว กลายเป็นกระแสให้ลูกหลานเกษตรกรจำนวนมากกลับไปทำการเกษตรที่บ้าน สานต่ออาชีพของครอบครัว หลายจังหวัดมีผลการดำเนินงานประสบความสำเร็จ เกษตรกรหลายคนสามารถเป็นต้นแบบ และมีรายได้มั่นคง
นายสุริยะ คำปวง สหกรณ์จังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า เกษตรกรที่ตัดสินใจเข้าร่วมโครงการฯ ในจังหวัดเชียงใหม่ ส่วนใหญ่ต้องการองค์ความรู้การทำเกษตร สร้างเครือข่าย และการทำตลาด ซึ่งทางสำนักงานสหกรณ์จังหวัดเชียงใหม่ได้จัดกิจกรรมสร้างเครือข่ายระหว่างผู้เข้าร่วมโครงการและสถาบันเกษตรกร กิจกรรมสร้างเสริมองค์ความรู้การทำเกษตร การทำบรรจุภัณฑ์ การขนส่ง การทำตลาด และการศึกษาดูงาน
“สำหรับเป้าหมายการดำเนินงานในปีนี้ จะดำเนินการจัดเวทีให้เกษตรกรในโครงการฯ มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน รวมถึงเชื่อมโยงเครือข่ายการตลาด โดยเชิญสหกรณ์ ชุมนุมสหกรณ์ และร้านซูเปอร์มาร์เก็ตสหกรณ์ เข้าร่วมกิจกรรม เพื่อสนับสนุนต่อยอดโครงการฯ ให้มีช่องทางจำหน่ายสินค้าเพิ่มขึ้น”นายสุริยะ กล่าว
ด้านนายวรชัย ทองคำฟู เกษตรกรต้นแบบของโครงการนำลูกหลานเกษตรกรกลับบ้านฯ ที่ประสบความสำเร็จของจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า เดิมทำงานที่ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ภายหลังได้ลาออกมาช่วยกิจการแปรรูปของครอบครัว พร้อมกับทำการเกษตรในรูปแบบวนเกษตรบนพื้นที่ 23 ไร่ควบคู่กัน โดยใช้หลักการปลูกป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง มาพลิกฟื้นผืนดินของตนเอง กระทั่งเมื่อปีที่ผ่านมา กรมส่งเสริมสหกรณ์ ได้เปิดรับสมัครโครงการนำลูกหลานเกษตรกรกลับบ้านฯ จึงสมัครเข้าร่วม ทำให้ได้รับองค์ความรู้ใหม่ๆ ที่กรมฯ สนับสนุน เช่น การพัฒนาสินค้า การยกระดับมาตรฐานการผลิต การกระจายสินค้า และการใช้หลักการตลาดนำการผลิต ปัจจุบัน วรชัยเป็นต้นแบบให้กับเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการรายอื่นๆ ได้เข้ามาศึกษาเรียนรู้ และสร้างเครือข่ายในการทำตลาด โดยเฉพาะการขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์บนแฟลตฟอร์มต่างๆ
“โครงการนำลูกหลานเกษตรกรกลับบ้าน สานต่ออาชีพการเกษตร เป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกร ให้เป็นเกษตรกรสมัยใหม่ที่มีองค์ความรู้ทั้งในด้านการผลิต การพัฒนาสินค้าและการตลาด สามารถสร้างรายได้ที่เพียงพอ มั่นคง อยู่กับครอบครัวอย่างอบอุ่น”นายวรชัย กล่าว
อีกหนึ่งผลสำเร็จในโครงการ คือ สหกรณ์การเกษตรผู้ปลูกกาแฟและผลไม้ ยางหัก จำกัด อ.ปากท่อ จังหวัดราชบุรี โดยนายขจรศักดิ์ มุกสิกชาติ ประธานสหกรณ์ฯ เปิดเผยว่า สมาชิกของสหกรณ์ที่สมัครเข้ามาในโครงการฯ นั้น ประกอบการเกษตรแบบผสมผสาน ซึ่งมีทั้งผู้ที่เลี้ยงปลาดุก เลี้ยงโคแม่พันธุ์ ปลูกหญ้าเนเปียร์ กาแฟ ปลูกปาล์มน้ำมัน ปลูกมะกรูดตัดใบ และผลไม้อีกหลายชนิด
“โครงการนำลูกหลานเกษตรกรกลับบ้านฯ เป็นโครงการที่ช่วยให้เกษตรกรพัฒนาตัวเองจากสิ่งที่ทำอยู่ โดยมีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เข้ามาเป็นพี่เลี้ยงให้คำแนะนำและเป็นผู้เชื่อมโยงเครือข่ายกับหน่วยงานอื่นๆ ช่วยเข้ามาต่อยอดและเติมเต็มให้เกษตรกร จากผลสำเร็จของเกษตรกรในโครงการ ส่งผลให้มีสมาชิกและลูกหลานสมาชิกรายอื่นๆ สนใจเข้าร่วมโครงการมากขึ้น ซึ่งสหกรณ์ฯ จะร่วมกับกรมส่งเสริมสหกรณ์ คัดเลือกผู้ที่จะมาเข้าร่วมโครงการฯ ต่อไป เพื่อให้คนรุ่นใหม่เหล่านี้ เข้ามาพัฒนาต่อยอดภาคการเกษตรของชุมชนให้ครบวงจร และช่วยพัฒนาสหกรณ์ให้มีความเข้มแข็ง”นายขจรศักดิ์ กล่าว
ด้านนางสุนันทา เมฆหมอก สมาชิกสหกรณ์การเกษตรผู้ปลูกกาแฟและผลไม้ ยางหัก จำกัด หนึ่งในเกษตรกรโครงการนำลูกหลานเกษตรกรกลับบ้านฯ เปิดเผยว่า ปัจจุบันทำงานเป็นฝ่ายบัญชีของบริษัทเอกชน ควบคู่ไปกับการทำเกษตรผสมผสานบนพื้นที่ 5 ไร่ ปลูกปาล์มน้ำมัน แซมด้วยกาแฟ โกโก้ มะกรูดตัดใบ และผลไม้ ซึ่งเดิมจะนำผลผลิตไปจำหน่ายให้กับเพื่อนๆ ที่ทำงานและตลาดในชุมชน
กระทั่งเมื่อปีที่ผ่านมา กรมส่งเสริมสหกรณ์ ได้ดำเนินโครงการนำลูกหลานเกษตรกรกลับบ้านฯ จึงสมัครเข้าร่วม ทำให้ได้รับองค์ความรู้ด้านการทำเกษตร การแปรรูปที่ได้มาตรฐาน รวมถึงการสร้างเครือข่าย และวิธีการเพิ่มช่องทางการตลาดผ่านระบบออนไลน์ ทำให้ปัจจุบัน หันมาเน้นจำหน่ายผลผลิตผ่านระบบออนไลน์ โดยกรมส่งเสริมสหกรณ์จะเข้ามาแนะนำเทคนิค เคล็ดลับการใช้ภาพประกอบและการใช้ข้อความที่ดึงดูดความสนใจ ส่งผลให้สินค้าขายดีมากจนต้องสั่งจองล่วงหน้า อีกทั้งยังพาไปศึกษาดูงาน เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ แล้วนำแนวทางที่เหมาะสมมาประยุกต์ใช้
“ได้ประโยชน์มากจากการเข้าร่วมโครงการฯ โดยเฉพาะองค์ความรู้และแนวคิดในการพัฒนาต่อยอดงานเกษตรที่ทำอยู่ให้เป็นระบบ มีการบริหารจัดการที่เหมาะสม และที่สำคัญคือการสร้างตลาดใหม่ๆ จึงอยากขอบคุณกรมส่งเสริมสหกรณ์ที่จัดโครงการนี้ขึ้นมา ซึ่งช่วยยกระดับพัฒนาเกษตรกร ด้วยองค์ความรู้ นวัตกรรม และการเชื่อมโยงเครือข่าย เป็นการกระตุ้นให้รู้สึกอยากทำ อยากขาย และสนุกกับงานเกษตรที่ทำ”นางสุนันทา กล่าว


