ผู้ถือหุ้น บมจ.ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ (LEO) อนุมัติทุกวาระ จ่ายปันผลเป็นเงินสดให้กับผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 0.07 บาท รวมเป็นมูลค่า 22.4 ล้านบาท กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิวันที่ 11 พ.ค.64 จ่ายเป็นเงินสดวันที่ 27 พ.ค.นี้ พร้อมไฟเขียวให้เช่าที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง และลงทุนในโครงการ Leo Self Storage แห่งใหม่ มูลค่าไม่เกิน 147.22 ล้านบาท ทำให้มีพื้นที่ใช้สอยเพิ่มอีก 2,193 ตารางเมตร ด้าน"เกตติวิทย์ สิทธิสุนทรวงศ์" บิ๊กบอส ระบุเดินหน้ารุกขยายธุรกิจโลจิสติกส์ครบวงจร ส่งซิกผลงานไตรมาส 1/64 โตทะลัก รับอานิสงส์ค่าระวางเรือพุ่ง หนุนปีนี้โตทะลุ 25% ทุบสถิตินิวไฮต่อเนื่อง นายเกตติวิทย์ สิทธิสุนทรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LEO เปิดเผยว่าที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2564 มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลเป็นเงินสดอัตราหุ้นละ 0.07 บาท ของจำนวนหุ้น 320,000,000 หุ้นคิดเป็นเงินปันผลจ่ายทั้งสิ้น 22.4 ล้านบาท โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผลในวันที่ 11 พฤษภาคม 2564 และกำหนดจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในวันที่ 27 พฤษภาคม 2564 รวมทั้งได้อนุมัติให้เช่าที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างบนถนนเจริญกรุง บริเวณตลาดน้อย เนื้อที่รวม 1-1-30 ไร่ หรือ 530 ตารางวา ระยะเวลา 25 ปี เพื่อพัฒนาโครงการให้เช่าห้องเก็บของส่วนบุคคล(Leo Self Storage) แห่งใหม่ มูลค่าเงินลงทุนรวมไม่เกิน 147.22 ล้านบาท ซึ่งจะมีพื้นที่ใช้สอยประมาณ 2,193 ตารางเมตร "LEO ได้เดินหน้าขยายพื้นที่ในการจัดเก็บสินค้า (Self Storage) เพิ่มอีก 2-3 พันตารางเมตร โดยจะตั้งอยู่ในบริเวณใกล้ย่านเยาวราช หรือ China Town ของกรุงเทพ ซึ่งเป็นพื้นที่เศรษฐกิจที่สำคัญของกรุงเทพฯ โดยใช้ชื่อว่า LEO Self Storage China Town และบริษัทมีความตั้งใจที่จะพัฒนาโครงการนี้ให้เป็น Flagship site ของบริษัท โดยมีการออกแบบและตกแต่งในรูปแบบร่วมสมัยผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมไทย-จีน เพื่อสะท้อนถึงบรรยากาศและวิถีชีวิตของชุมชนชาวจีนของประเทศไทย ขณะเดียวกันเร่งดำเนินการก่อสร้างลานเก็บตู้คอนเทนเนอร์ แห่งที่ 2 บริเวณถนนบางนา - ตราด เพื่อรองรับความต้องการใช้บริการ โดยปัจจุบันเกิดสภาวการณ์ขาดแคลนพื้นที่ในการพักตู้สินค้า คาดว่าสามารถเริ่มดำเนินการได้อย่างช้าไม่เกินไตรมาส 4 ปี 2564" ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกล่าวต่อว่า ภาพรวมการดำเนินธุรกิจในช่วงไตรมาส 1/2564 มีสถานการณ์ดีขึ้นต่อเนื่อง เมื่อเปรียบเทียบจากงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากปริมาณความต้องการขนส่งสินค้าทั่วโลกสูงขึ้น โดยเป็นผลมาจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจหลังจากการที่มีการฉีดวัคซีนในหลายๆ ประเทศทั่วโลก ส่งผลให้ธุรกิจโลจิสติกส์การขนส่งสินค้าระหว่างประเทศเติบโตมากขึ้น และคาดว่าจะมีแนวโน้มดีต่อเนื่องไปจนถึงครึ่งแรกของปีนี้ แม้ว่าสถานการณ์ในประเทศจะเกิดสถานการณ์โควิด-19 ระลอกใหม่ แต่ก็เชื่อว่าจะสามารถผ่านไปได้ด้วยดี สำหรับปีนี้บริษัทตั้งเป้าหมายเติบโตอยู่ที่ 25%โดยมาจากการดำเนินธุรกิจปกติยังไม่นับรวมในส่วนที่รับรู้จากการร่วมทุนกับพันธมิตรรายใหม่ ซึ่งจะช่วยสนับสนุนให้บริษัทมีรายได้เติบโตทุบสถิติสูงสุดได้ต่อเนื่อง บริษัทจะมีการร่วมทุนกับ Cardinal UK จัดตั้งบริษัท คาร์ดินัล มาริไทม์ (ประเทศไทย) เพื่อให้บริการโลจิสติกส์ และการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ รุกตลาดในประเทศอังกฤษและยุโรปเหนือ โดยบริษัทฯ ถือหุ้นสัดส่วน 51% ที่เหลือ 49% เป็นของ Cardinal UK ถือหุ้น โดยผลประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับเป็นการต่อยอดขยายธุรกิจในตลาดอังกฤษ และยุโรปเหนือ เพราะ Cardinal มีฐานลูกค้าที่มีการนำเข้าสินค้าจากไทยจำนวนมาก และยังมีความเชี่ยวชาญและเครือข่ายที่กว้างขวางทั่วโลก ซึ่งจะเพิ่มปริมาณธุรกิจและลูกค้าในกลุ่มประเทศยุโรปให้กับบริษัทมากกว่า 1 เท่าตัว นอกจากนี้ ในปีนี้บริษัทวางงบลงทุนไว้ราว 200 ล้านบาท เพื่อใช้สำหรับการเข้าซื้อกิจการ (M&A) และขยายธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการโลจิสติกส์ โดย เร็วๆ นี้คาดว่าจะมีการเจรจาร่วมทุนกับพันธมิตรรายใหม่เพิ่มเติมอีก ดังนั้นน่าจะสนับสนุนการเติบโตในระยะยาวได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้บริษัทฯได้ตั้งเป้าหมายของยอดขายในปี 2566 จะมีการเติบโตเป็น 2 เท่าจากปี 2564 คือที่ระดับ 2,000 ล้านบาทต่อปี