สถานการณ์โควิด19 ระลอก 3 เดือนเมษายน ที่เมืองชาละวันพบผู้ป่วยใหม่ 3 ราย ส่งผลยอดผู้ป่วยสะสมรวม 53 ราย รักษาหายแล้ว 5 ราย อีก 48 ราย กระจายนอนตามโรงพยาบาลต่างๆ ส่วนอีก 11 ราย นอนรอดูอาการอยู่ในโรงพยาบาลสนาม อุทยานบัว บึงสีไฟ ล่าสุดปกครอง-สสจ. สั่งลุยตรวจปิด 2 หมู่บ้าน ของตำบลหนองโสน อ.สามง่าม ใช้เวลา 2 วันตรวจแล้ว 511 คน รอลุ้นฟังผลสถิติ อ.สามง่าม ผู้ป่วย 24 ราย อ.บางมูลนาก ผู้ป่วย 8 ราย กลุ่มผู้สัมผัสผู้ป่วยเสี่ยงสูงอีกหลาย 10 คน คาดการณ์หลังจากนี้ส่อเค้าว่าคนพิจิตรอาจจะติดเชื้อกันเอง ผู้ว่าฯพิจิตร ประกาศกฎหมายบังคับใช้สวมหน้ากากอนามัยเป็นสิ่งบ่งชี้ว่าโควิดยังไม่หยุด วันที่ 29 เม.ย. 2564 นายรังสรรค์ ตันเจริญ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร , นายแพทย์กมล กัญญาประสิทธิ์ นายแพทย์ สสจ.พิจิตร มอบให้ นายแพทย์วิศิษฎ์ อภิสิทธิ์วิทยา รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพิจิตร เป็นผู้แถลงข่าวถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ในพื้นที่ 12 อำเภอของจังหวัดพิจิตร วันนี้ ว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายใหม่ 3 ราย ทำให้มียอดผู้ป่วยสะสม 53 ราย รักษาหายกลับบ้านได้แล้ว 5 ราย ที่เหลือ 48 ราย กระจายนอนรักษาตัวใน รพ.พิจตร – รพ.ยุพราชตะพานหิน –รพ.บางมูลนาก และที่อื่นๆ ส่วนผู้ป่วยระยะเริ่มต้นที่ไม่แสดงอาการจำนวน 11 ราย ( จากผู้ป่วย 48 ราย ) นอนพักรักษาตัวดูอาการอยู่ที่อุทยานบัวบึงสีไฟ ล่าสุดการปฏิบัติการเชิงรุกเพื่อค้นหาผู้ป่วยในเขตพื้นที่หมู่ 4 บ้านมาบกระเปา และ หมู่13 บ้านทรายคลอง ตำบลหนองโสน อ.สามง่าม ที่พบว่าเมื่อช่วงเทศกาลสงกรานต์มีลูกหลานกลับมาบ้านแล้วไม่รู้ตัวว่าติดเชื้อโดวิดจึงได้นำเชื้อมาพี่กระจายจนมีผู้ป่วยมากถึง 24 ราย และมีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงกันทั้ง 2 หมู่บ้าน ซึ่งในช่วงวันที่ 27-28 เม.ย. 64 สาธารณสุขอำเภอสามง่าม – รพ.สามง่าม – รพ.สต. ทุกแห่งของ อ.สามง่าม – ฝ่ายปกครอง ได้ระดมสรรพกำลังนำชาวบ้านผู้สัมผัสเสี่ยงสูง – เสี่ยงต่ำ จำนวน 511 คน มาทำการ Swab เพื่อค้นหาเชื้อโควิด 19 ซึ่งในวันพรุ่งนี้ ( 30 เม.ย. 64 ) คงจะได้รู้ผลว่ามีผลเป็นบวกหรือมีผลเป็นลบมากน้อยแค่ไหน เช่นเดียวกับที่ ต.หอไกร อ.บางมูลนาก ที่ขณะนี้พบว่ามีผู้ป่วยติดเชื้อโควิด 8 ราย มากเป็นอันดับ 2 ของ จ.พิจิตร บุคลากรทางการแพทย์ก็กำลังปฏิบัติการเชิงรุกเอาบุคคลผู้สัมผัสผู้ป่วยที่เป็นกลุ่มเสี่ยงสูงมาทำการ Swab เพื่อค้นหาเชื้อโควิด 19 ด้วยแล้วเช่นกัน ในส่วนของ นายรังสรรค์ ตันเจริญ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ขณะนี้ได้ออกประกาศถึงมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ว่า ชาวพิจิตรนับจากนี้ต้องสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งที่ออกจากเคหะสถาน หากฝ่าฝืนมีโทษปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท ซึ่งข้อสังเกตจากการประกาศบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดในครั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเป็นเครื่องบ่งชี้ว่าการแพร่ระบาดของโควิด 19 ยังไม่หยุดยั้งและต่อจากนี้จะเป็นการติดเชื้อของคนพิจิตรภายในจังหวัดพิจิตรติดเชื้อโควิดกันเอง