เมื่อพายุโควิดระลอก 3 ซัดใส่รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แต่ลูกเห็บกลับไปตกใส่ “หมอหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเข้าเต็มเปา จนเกิดแคมเปญล่าชื่อเรียกร้องให้ลาออกจากตำแหน่งจาก กลุ่ม หมอไม่ทน ทางเว็บไซต์ change.org ประสานเสียงกับพรรคฝ่ายค้านที่เร่งเครื่องแซะให้พ้นเก้าอี้ โดยเฉพาะก่อนหน้านี้ ที่ พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะผู้อำนวยการ ศบค.ได้แต่งตั้งคณะทำงานพิจารณาจัดหาวัคซีนป้องกันโควิด-19 เพิ่มเติมร่วมกับโรงพยาบาลเอกชน รวมถึงการบริหารการฉีดวัคซีนให้ได้อีก 10 ล้านโดส เพื่อครอบคลุมประชากรให้ถึง 40 ล้านคน ซึ่งมีชื่อของ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร ที่ปรึกษาศูนย์ศบค. เป็นประธานร่วมกับข้าราชการในกระทรวงสาธารณสุข ไร้ชื่อของ “อนุทิน” ผู้เป็นเจ้ากระทรวงร่วมเป็นกรรมการ ซึ่งทำให้มีการเพ่งเล็งถึงสัญญาณที่ไม่ปกติ แม้ พล.อ.ประยุทธ์จะไม่มีปฏิกริยาใดๆที่ชัดเจนในเรื่องนี้ แต่จากสองเหตุการณ์นี้ ก็ขับเน้นให้ชื่อของ “นพ.ปิยะสกล” ขึ้นแท่นเป็นแคนดิเดตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กระนั้น “หมอหนู” จะไม่มีท่าทีถอดใจ โดยได้เปิดใจผ่านเพจเฟซบุ๊กว่า ยืนยันว่าที่ผ่านมา “บางท่านทั้งให้กำลังใจ และห่วงใยว่ามีการยึดอำนาจ แย่งอำนาจของกระทรวงสาธารณสุข ผมได้แต่ตอบไปว่า รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นผู้บริหารสูงสุด และ เป็นผู้รับผิดชอบ อยู่แล้ว ผมมีหน้าที่ปฏิบัติตามนโยบาย และคำสั่งท่านนายกรัฐมนตรี มาโดยตลอด หลายครั้งที่กระทรวงสาธารณสุข เสนอมาตรการควบคุมโรค หากศบค. ไม่เห็นด้วย ก็ต้องกลับมาปรับมาตรการ ทั้งการตรวจ การป้องกัน การรักษา การจัดหายา เวชภัณฑ์ และ การฉีดวัคซีน ที่ผ่านมา ศบค. เป็นผู้บริหารแบบ Single command มาตั้งแต่ต้น เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2563 กระทรวงสาธารณสุข ปฏิบัติตามนโยบายศบค. ด้วยดีมาตลอด ” อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ครั้งแรกที่ชื่อของ “นพ.ปิยะสกล” ถูกมองว่าจะเข้ามากุมบังเหียนกระทรวงสาธารณสุข เพราะชื่อของนพ.ปิยะสกลถูกกล่าวถึงมาตั้งแต่การระบาดในระลอกแรกแล้ว เนื่องจากดีกรีแพทย์อาวุโส และเคยเป็นอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขคู่บุญพล.อ.ประยุทธ์ในยุครัฐบาลคสช.มาแล้ว สำหรับ นพ.ปิยะสกล หรือ ศาสตราจารย์คลินิกเกียรติคุณ ปัจจุบันอายุ 73 ปี สำเร็จการศึกษาแพทยศาสตรบัณฑิต จากคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล เมื่อปี พ.ศ. 2514 ได้รับวุฒิบัตรผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยศาสตร์ จากแพทยสภา เมื่อปี พ.ศ. 2518 ผ่านการอบรม Fellowship Training สาขา Critical Care Medicine จากมหาวิทยาลัยจอห์นฮอปกินส์ เมื่อปี พ.ศ. 2528 และสาขา Injury Epidemiology เมื่อปี พ.ศ. 2531 จาก Centers for Disease Control, เมืองแอตแลนตา รัฐจอร์เจีย สหรัฐอเมริกา สำเร็จหลักสูตร วปอ. จากวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร เมื่อปี พ.ศ. 2538 เป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยศาสตร์และอุบัติเหตุ เคยดำรงตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล นอกจากนี้ นพ.ปิยะสกล ยังได้รับโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นกรรมการกฤษฎีกา ตั้งแต่ พ.ศ. 2552 จนถึง พ.ศ. 2555