ช็อก! โควิดไทยดับรายวัน15 ติดเชื้ออีก 2,012 เผยระยะติดเชื้อ-ตายเร็วขึ้น “ศบค.”ชี้ปัจจัยเสี่ยง “สัมผัสผู้ป่วย-สถานบันเทิง-ค้นหาเชิงรุก” ทำติดโควิดเดือนเม.ย.พุ่ง2 หมื่นกว่าคน “ขสมก.” แจ้งกระเป๋ารถเมล์สาย145 ติดโควิด19 พร้อมครอบครัวอีก 6 คน ส่วน “โควิดฯสายพันธุ์โรตี” แรงเกินต้านอาละวาดแล้ว 19 ประเทศ “ฮู” สุดกังวลวัคซีนเอาไม่อยู่!! เมื่อวันที่ 28เม.ย.64 พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโค โรนา 2019 (ศบค.) รายงานสถานการณ์ผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทยล่าสุด พบผู้ติดเชื้อรายใหม่อีก 2,012 ราย โดยเป็นการติดเชื้อในประเทศ 2,001 ราย ทั้งหมด (แยกเป็นจากระบบเฝ้าระวัง และบริ การสุขภาพ 1,893 ราย จากการตรวจคัดกรองเชิงรุกในชุมชน 108 ราย) และเดินทางมาจากต่างประเทศอีก 11 ราย รวมยอดผู้ป่วยสะสม 61,699 ราย มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 15 ราย เป็นชาย 11 ราย หญิง 4 ราย รวมยอดเสียชีวิต 178 ราย รักษาหายเพิ่ม 851 ราย รวมยอดรักษาหาย 34,402 ราย ยังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 27,119 ราย อาการหนัก 69 5 ราย และต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ 199 ราย โดยประเทศไทยอยู่ในลำดับที่ 104 ของโลก สำหรับผู้เสียชีวิต 15 ราย พบว่าอยู่ในพื้นที่ กทม.9 ราย เชียงใหม่ 2 ราย สมุทรปราการ 2 ราย ชลบุรี 1 ราย ระนอง 1 ราย โดยส่วนใหญ่ มีโรคประจำตัว ทั้งโรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน โรคหัวใจ ไขมันในเลือดสูง โรคปอดเรื้อรัง หอบหืด โรคไตเรื้อรัง ไทรอยด์เป็นพิษ ภาวะอ้วน สมองเสื่อม /อัลไซเมอร์ โดยในจำนวนนี้ มีผู้ที่สัมผัสกับผู้ป่วยยืนยันรายก่อนหน้า ซึ่งเป็นการติดเชื้อในครอบครัวถึง 10 ราย และพบว่าระยะเวลาพบเชื้อและเสียชีวิตเร็วขึ้นภายในวันเดียวกัน 2 ราย และเสียชีวิตก่อนทราบผลติดเชื้อ 2 ราย พ.ญ.อภิสมัย กล่าวว่า สำหรับรายงานผู้ติดเชื้อเดือนเม.ย.ถึงวันที่ 25 เม.ย. มีผู้เชื้อจำนวน 20,721 ราย โดยมีปัจจัยเสี่ยงเช่น 1.การสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยยืนยันรายก่อนหน้านี้จำนวน 9,177 ราย ซึ่งหมายความว่าผู้ป่วยไม่แยกกักได้อย่างเหมาะสมและทันท่วงที 2.สถานบันเทิง 5,226 ราย 3.การค้นหาผู้ป่วยเชิงรุกและค้นหาผู้ติดเชื้อในชุมชนจำนวน 2025 ราย 4.ตลาดนัด/สถานที่ท่องเที่ยวจำนวน 1336 ราย 5.การสัมผัสใกล้ชิด กับบุคคลในสถานที่ทำงาน 703 ราย 6.ร้านอาหาร 294 ราย7.ผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 176 ราย 8.การสัมผัสใกล้ชิดกับผู้เดินทางมาจากจัง หวัดที่มีการระบาดจำนวน 164 ราย9.งานประเพณีต่างๆ 155 ราย 10.งานแสดงสินค้าคอนเสิร์ต 148 ราย ขณะที่ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) แจ้งว่ามีพนักงาน ขสมก.ได้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มอีก 1 คน โดยเป็นพนักงานเก็บค่าโดยสารรถธรรมดา สาย 145 เพศหญิง อายุ 52 ปี โดยเจ้าหน้าที่จาก โรงพยาบาลสมุทรปรา การได้นำรถพยาบาลมารับพนักงานคนดังกล่าว พร้อมบุคคลในครอบครัว จำนวน 6 คน ไปกักตัวและพบว่า ทุกคนได้ติดเชื้อดังกล่าว วันเดียวกัน สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า องค์การอนามัยโลก หรือดับเบิลยูเอชโอ (ฮู) แสดงความวิตกกังวลต่อสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ที่กลายพันธุ์ในประเทศอินเดีย ชื่อ “บี.1.617” หรือที่เรียกว่า “สายพันธุ์เบงกอล” ภายหลังจากพบรหัสพันธุกรรมของเชื้อไวรัสโควิดฯ สายพันธุ์นี้จำนวนมากกว่า 1,200 ตัวอย่างจากระบบฐานข้อมูลแบบเปิดจีโนม (GISAID)ในพื้นที่ 19 ประเทศทั่วโลก นอกเหนือจากประเทศอินเดียและวิตกกังวลว่า ไวรัสสายพันธุ์ดังกล่าว มีศักยภาพในการต้านทานวัคซีนได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย สำหรับ ประเทศที่พบรหัสพันธุ์กรรมของเชื้อไวรัสโควิดฯ สายพันธุ์เบงกอลนี้ นอกจากอินเดียแล้ว ก็ยังพบในพื้นที่ 19 ประเทศ ได้แก่ อังกฤษ สหรัฐฯ สิงคโปร์ ออสเตรเลีย บาห์เรน นิวซีแลนด์ เยอรมนี อิสราเอล ไอร์แลนด์ เกาหลีใต้ โปรตุเกส เบลเยียม สวิตเซอร์แลนด์ กรีซ อิตาลี ซินต์มาร์เต็น (ประเทศในย่านทะเลแคริบเบียน) กัวเดอลุป (ประเทศในย่านทะเลแคริบเบียน) เนเธอร์แลนด์ และกัมพูชา ขณะที่ สถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิดฯทั่วโลก มีผู้ป่วยติดเชื้อจำนวนสะสมอยู่ที่ 149,349,138 ราย ส่วนผู้ป่วยที่เสียชีวิตมีจำนวน 3,148,934 รายและผู้ป่วยที่รักษาหายมีจำนวนสะสม 127,020,098 ราย โดยสหรัฐ อเมริกา มีผู้ป่วยติดเชื้อสะสมมากที่สุด จำนวน 32,927,091 ราย และมีผู้ป่วยที่เสียชีวิตมากที่สุดจำนวน 587,384 ราย ส่วนผู้ป่วยที่รักษามีจำนวนสะสม 25,521,913 ราย