พร้อมเผยแผนจัดหาวัคซีนอีก 37 ล้านโดส โดยรัฐซื้อ 30 ล้านโดส เอกชนอีก 7 ล้านโดส เพื่อกระจายฉีดแกประชาชน คาดเริ่มฉีดเข็มแรก ตุลาคมนี้ 28 เม.ย.2564 ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.ทวีทรัพย์ ศิรประภาศิริ นายแพทย์ผู้ทรงคุณวุฒิ กรมควบคุมโรค รายงานสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศไทยว่า ล่าสุดพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2,012 ราย โดยเป็นการติดเชื้อในประเทศ 2,001 ราย ทั้งหมด (แยกเป็นจากระบบเฝ้าระวังและบริการสุขภาพ 1,893 ราย จากการตรวจคัดกรองเชิงรุกในชุมชน 108 ราย) และเดินทางมาจากต่างประเทศอีก 11 ราย รวมยอดผู้ป่วยสะสม 61,699 ราย วันนี้มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 15 ราย ทำให้ยอดเสียชีวิตขยับไปที่ 178 ราย รักษาหายเพิ่มอีก 851 ราย รวมยอดรักษาหาย 34,402 ราย ยังอยู่ในโรงพยาบาล 25,767 ราย  อาการหนัก 563 ราย และต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ 150 ราย อย่างไรก็ตามการติดเชื้อในประเทศเริ่มมีการชะลอตัวลง แต่ยังวางใจไม่ได้ แต่พบการติดเชื้อภายในครอบครัวสูงขึ้นซึ่งอาจเกิดจากการปฏิบัติตัวระหว่างการกักตัว ประกอบกับยังพบปัจจัยเสี่ยงในการติดเชื้อในช่วงเดือนเมษายน มีผู้ติดเชื้อ 20,721 ราย แบ่งเป็น 9,177 ราย คิดเป็น 44.3% เป็นการติดเชื้อจากการสัมผัสผู้ป่วยยืนยันรายก่อนหน้า ซึ่งเป็นสมาชิกในครอบครัว ติดเชื้อจากสถานบันเทิง 5,226 ราย คิดเป็น 25.2% จากการค้นหาเชิงรุก 2,025 ราย คิดเป็น 9.8% ตลาดนัด/สถานที่ท่องเที่ยว 1,336 คิดเป็น 6.4% การสัมผัสใกล้ชิดในที่ทำงาน 703 ราย คิดเป็น 3.4% นอกจากนี้ยังมีปัจจัยเสี่ยงอื่นที่ทำให้เกิดความรุนแรงของโรค ทั้งโรคประจำตัวทำให้อัตราการเสียชีวิตในช่วงนี้มีเพิ่มขึ้น สำหรับความคืบหน้าการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ในประเทศไทย ขณะนี้มีจำนวนการฉีดวัคซีนสะสม รวม 1,279,713 โดส โดยเป็นผู้เข้ารับวัคซีนเข็มแรก 1,038,960 ราย เข็มที่สอง 240,753 ราย โดยเฉพาะวันที่ 27 เม.ย.ที่ผ่านมามีผู้เข้ารับวัคซีน รวม 52,681 โดส อย่างไรก็ตามแผนการฉีดวัคซีนให้ครบทุกกลุ่มเป้าหมายจำนวน 100 ล้านโดส หรือ 70%ของจำนวนประชากรภายในปี 2564 ตั้งแต่ช่วงเดือน พ.ค.-ธ.ค.64 ซึ่งขณะนี้ประเทศไทยมีการจัดหาวัคซีนได้แล้ว 63 ล้านโดส และจะจัดซื้อวัคซีนเพิ่มเติมอีก 37 ล้านโดส (ทั้งในภาครัฐ 30 ล้านโดส และ ภาคเอกชน 7 ล้านโดส) โดยในภาครัฐ จะจัดหาวัคซีน Pfizer Biontech  จำนวน 5-10 ล้านโดส , Sputnik V จำนวน 5-10 ล้านโดส, Johnson & Johnson จำนวน 5-10 ล้านโดส และ Sinovac  จำนวน 5-10 ล้านโดส สำหรับภาคเอกชนจะจัดซื้อวัคซีนอื่นๆ พี่ไม่ได้ให้บริการในภาครัฐได้แก่ วัคซีนจากบริษัท Moderna หรือ Sinopharm หรือวัคซีนอื่นที่จะมีการขึ้นทะเบียนในอนาคต โดยคาดว่าจะสามารถเริ่มฉีดวัคซีนได้ในช่วงเดือนตุลาคม 2564 เป็นเข็มแรกแก่ประชาชนทั่วไป