เมื่อวันที่ 28 เม.ย.64 พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯกทม. เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในปัจจุบัน ส่งผลให้ปริมาณมูลฝอยติดเชื้อหรือขยะติดเชื้อโดยเฉพาะโควิด-19 รวมถึงขยะหน้ากากอนามัยที่เก็บขนและกำจัดจากสถานพยาบาลที่รักษาผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 โรงพยาบาลสนาม  Hospitelและสถานที่สำหรับผู้กักตัว เช่น บ้านพักอาศัย สถานที่กักตัวของรัฐและโรงแรมทางเลือกสำหรับผู้กักตัว เพิ่มมากขึ้นเกือบ 20 ตัน/วัน เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่กระจายของโรค กทม.จึงมอบหมายให้สำนักงานเขตทั้ง 50 เขต ไปรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนให้ความสำคัญในการเก็บและทิ้งหน้ากากอนามัยใช้แล้วอย่างถูกวิธี พร้อมทั้งอำนวยความสะดวกให้ประชาชนในการทิ้งขยะหน้ากากอนามัย ด้วยการตั้งวางถังรองรับหน้ากากอนามัยเป็นการเฉพาะ (สีส้ม) พร้อมถุงขยะสีแดงสำหรับใส่หน้ากากอนามัยในพื้นที่สาธารณะประมาณ 1,000 จุด ประกอบด้วย สำนักงานเขต ศูนย์บริการสาธารณสุข กทม. โรงพยาบาลสังกัด กทม. ศาลาว่าการกทม. (เสาชิงช้า และดินแดง) โรงเรียนสังกัด กทม. ศูนย์กีฬา กทม. ศูนย์เยาวชน กทม. สถานีดับเพลิง สวนสาธารณะ รวมถึงสถานที่สาธารณะที่เหมาะสม เช่น ตลาด วัด ชุมชน บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้า อาคารสำนักงาน และเคหะชุมชนต่างๆ ผู้ว่าฯกล่าวว่า การแยกทิ้งหน้ากากอนามัยที่ใช้แล้วให้ถูกที่ถูกวิธี เป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ได้ กทม.จึงขอความร่วมมือประชาชน ทิ้งหน้ากากอนามัยที่ใช้แล้วอย่างถูกวิธี และไม่ทิ้งปะปนกับมูลฝอยทั่วไปในครัวเรือน โดยใส่ถุงที่ปิดสนิท มัดปากถุงให้แน่น เขียนหรือติดหน้าถุงว่า “หน้ากากอนามัย” แยกทิ้งให้กับรถเก็บขนมูลฝอยของสำนักงานเขต หรือทิ้งในถังรองรับหน้ากากอนามัยเฉพาะ (สีส้ม) ในจุดที่กำหนด เพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพอนามัยของผู้ปฏิบัติงานเก็บขนมูลฝอย รวมถึงเพื่อความสะดวกต่อการเก็บรวบรวมนำไปกำจัดอย่างถูกหลักสุขาภิบาลด้วย