จากสถาการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด19 ในประเทศไทย ที่ยังคงลุกลามอย่างต่อเนื่อง โดยมีรายงานสถานการณ์ล่าสุดในวันนี้(28เม.ย.) พบว่า มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2013 ราย ทำให้หลายจังหวัดออกมาตรการคุมเข้ม รวมถึงมาตรการให้ประชาชนที่ออกจากบ้านต้องใส่หน้ากากอนามัย หากฝ่าฝืนมีความผิดตามแต่ละจังหวัดจะกำหนดปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาทตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น ล่าสุดนางสาวรสนา โตสิตระกูล อดีตสมาชิกวุฒิสภากทม. นักรณรงค์ด้านสุขภาพและสิทธิผู้บริโภค โพสต์ข้อความในเพจเฟซบุ๊ก ระบุว่า..บังคับกฎหมายสองมาตรฐาน!ปรับแต่ชาวบ้านไม่สวมหน้ากาก แต่ไม่ลงโทษโรงพยาบาล กทม.ที่ไล่ผู้ป่วยกลับบ้านแพร่เชื้อต่อดิฉันได้รับการติดต่อจากคนใกล้ชิดผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิด อาศัยอยู่ย่านบางบอน มีอาการแน่นหน้าอก จึงไปตรวจเชื้อที่ร.พ แห่งหนึ่งย่านบางแคเมื่อวานนี้ วันนี้ผลตรวจออกมาว่าติดโควิด แต่ร.พ บอกไม่มีเตียงให้กลับบ้าน ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นจริงก็เป็นการปฏิบัติไม่ถูกต้อง เพราะเมื่อโรงพยาบาลใดตรวจพบเชื้อโควิดในผู้ป่วยรายใด หากอ้างว่าไม่มีเตียงรักษา (แต่คิดเงินค่าตรวจเชื้อ)ก็ควรจะต้องรีบแจ้งจนท.แพทย์-สาธารณสุขภาครัฐในกทม.เพื่อรับตัวผู้ป่วยติดเชื้อโควิดเพื่อรักษาตัวในโรงพยาบาลสนาม ในกรณีที่ยังมีอาการไม่รุนแรงหรือหากโรคพัฒนารุนแรงขึ้นก็จะได้รับการอภิบาลรักษาชีวิตไว้ได้ทันท่วงที ผู้ป่วยรายนี้อายุ24ปี มีน้ำหนักตัวมาก และขณะนี้มีอาการแน่นหน้าอก ควรได้รับการดูแลในรพ.หรือรพ.สนามโดยเร่งด่วน เพื่อรักษาชีวิตผู้ป่วยและเพื่อความปลอดภัยของสมาชิกครอบครัวของคนไข้ซึ่งมีอยู่ 4 คน รวมทั้งต้องเร่งรัดสอบสวนไทม์ไลน์ของผู้ป่วยว่าเดินทางไปที่ใดโดยเร็ว เชื้อโควิดระลอก3 เป็นเชื้อที่แพร่ระบาดเร็วและมีอัตราผู้เสียชีวิตสูง จึงต้องมีการบริหารจัดการดูแลผู้ป่วยอย่างรวดเร็วและต้องมีมาตรการลงโทษตามกฎหมายให้เด็ดขาดหาก ร.พ.ใดที่ตรวจพบผู้ป่วยติดเชื้อแล้วไม่ดูแลรักษาหรือไม่ประสานส่งต่อผู้ป่วยไปรักษาในที่ที่รัฐจัดให้ตามกฎหมาย ผู้ว่าฯ กทม.ควรประสานร.พ ในกทม.ทุกแห่งทั้งภาครัฐ และเอกชนในการประสานส่งต่อผู้ป่วย ต้องไม่ปล่อยให้ผู้ป่วยที่ติดเชื้อกลับบ้าน ซึ่งจะแพร่เชื้อให้สมาชิกในบ้าน และชุมชน จนแพร่เชื้อในวงกว้าง ยากแก่การควบคุม ผู้ว่ากทม.ต้องประกาศบทลงโทษร.พ.ที่ปล่อยผู้ป่วยติดเชื้อกลับบ้าน โดยไม่รายงานประสานส่งต่อผู้ป่วยไปยังหน่วยงานของกทม.ที่มีหน้าที่ และสมควรถูกปรับให้หนักว่าประชาชนที่ไม่สวมแมสก์ออกนอกบ้าน เพราะคือการปล่อยให้มีการแพร่โดยตั้งใจ และขาดความรับผิดชอบใช่หรือไม่ ขนาดนายกรัฐมนตรีไม่ใส่แมสก์ในที่ประชุมยังถูกปรับถึง 6พันบาท ถ้าไม่ใช่ดราม่าเพื่อเบี่ยงเบนประเด็นว่าแม้แต่นายกฯก็ถูกปรับได้ จะได้จับปรับประชาชนได้เต็มที่ ใช่หรือไม่ อย่าให้ถูกวิจารณ์ว่าดีแต่จับปรับประชาชนคนเล็กคนน้อยที่ไม่ใส่แมสก์ เพื่อโยนความผิดการแพร่ระบาดของเชื้อโควิดให้คนเล็กคนน้อย แต่กับพวกไฮโซเสเพล คนมีอำนาจสามารถเปิดสถานบันเทิงเป็นที่แพร่เชื้อโควิดระลอก3 ทั้งที่ไม่มีใบอนุญาตได้โดยไม่ต้องรับผิดชอบ หรือหน่วยงานรัฐที่ไม่สามารถจัดสถานที่รองรับผู้ติดเชื้อเพื่อหยุดยั้งการแพร่ระบาด ทั้งที่ใช้อำนาจรวมศูนย์ทุกอย่าง ต้องแสดงความรับผิดชอบอะไรบ้าง นอกจากกวดจับปรับผู้ร้ายไม่ใส่แมสก์??!! รสนา โตสิตระกูล 27 เมษายน 2564