“บิ๊กตู่” เมินเสียง “ปชป.” โวยตีท้ายครัวพื้นที่ภาคใต้ ลั่นไม่เปลี่ยนคำสั่งแบ่งงานโซนพื้นที่ บอกไม่ใช่เวลาการเมือง ลั่นไม่สนคะแนนเสียง ด้าน “ทำเนียบฯ” ยกระดับมาตรการโควิด-19 ห้าม “สื่อ-ช่างภาพ” เข้าตั้งแต่ 28 เม.ย.-9 พ.ค.นี้
ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 27 เม.ย.64 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ถึงการทำความเข้าใจกับทางพรรคประชาธิปัตย์กรณีที่ไม่พอใจคำสั่งนายกฯที่ 85/2557 เรื่องการมอบหมายให้รัฐมนตรีรับผิดชอบ แนวคิดการขับเคลื่อนไทยในระดับพื้นที่จังหวัดที่ถูกมองว่า ยกพื้นที่ภาคใต้ให้กับพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ว่า ยืนยันว่าจนถึงวันนี้ ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงคำสั่งใดๆ ทั้งสิ้น ยังคงเป็นคำสั่งเดิม ทั้งนี้ตนได้ให้แนวทางไปว่าให้ลองดูว่าจะทำอย่างไรให้ทุกคนสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลในพื้นที่ต่างๆ ซึ่งตนได้ให้แนวคิดไปแล้ว
“วันนี้ยังไม่ได้ตกลงอะไร เพราะฉะนั้นอย่าเพิ่งไปให้เป็นข่าวจนเสียหาย วันนี้ไม่ใช่เวลาการเมือง เป็นเวลาของการทำงาน แล้วก็ไม่ได้มุ่งหมายว่าจะให้พรรคใครได้ประโยชน์ ทุกพรรคที่อยู่ร่วมกับผม พรรคร่วมก็อยู่กับผมๆ ก็รับผิดชอบให้ท่านอยู่แล้ว ทำให้มันถูกต้อง ผมก็ยินดี แม้กระทั่งในบางพื้นที่ที่เป็นของส.ส.ฝ่ายค้าน ผมก็ดูแลในทุกจังหวัด”
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า เพราะฉะนั้นการทำงานวันนี้มีการสั่งการจากครม.ลงไป เป็นโครงการที่เป็นนโยบายเกี่ยวกับเรื่องของโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ในทุกกรณีลงไป การจัดทำแผนงานโครงการและการอนุมัติงบประมาณ ซึ่งเป็นการทำงานของรัฐบาล อีกส่วนหนึ่งคือผู้ว่าราชการจังหวัดจะเป็นผู้พิจารณาแผนงานโครงการต่างๆในพื้นที่
“ดังนั้นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงใดก็ตามที่แต่งตั้งไปดูแลพื้นที่จังหวัดก็ให้ไปติดตามแผนการโครงการที่อนุมัติไปแล้วว่า ดำเนินการดีหรือไม่ดี ได้ผลหรือไม่ได้ผล แต่ถ้าหากว่ายังเห็นว่ามีอะไรขาดเหลือต่างๆ รัฐมนตรีก็นำมาเสนอในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี และเข้ามาถึงผมให้นำเข้าที่ประชุม ครม. เพื่อจัดสรรโครงการลงไปใหม่เพิ่มเติม เราทำงานแบบนี้ไม่ใช่ต่างคนต่างไปรุมผู้ว่าราชการจังหวัด และจากการสอบถามก็ไม่เคยมีเหตุการณ์เช่นนี้ แต่ก็มีหลายคนปล่อยข่าวออกมาแบบนี้ ขอให้ทุกคน ทุกกระทรวงเคลียร์ด้วยก็แล้วกัน ขอให้เข้าใจตรงกันว่ารัฐบาลจำเป็นต้องบริหารทั้งสองทาง และไม่ได้ปิดกั้นรัฐมนตรีคนใด ไม่ได้ทำตามคะแนนเสียงของการเมือง แต่เอาความเดือดร้อนของประชาชนเป็นหลักในทุกพื้นที่ และทุกคนก็คือ ครม. คือรัฐบาลด้วยกัน”
ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาล หลังจากที่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่มีความรุนแรงมากขึ้น และมีผู้เสียชีวิตสูงเพิ่มขึ้นรายวัน ซึ่งที่ทำเนียบรัฐบาลเองพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 แล้ว 3 ราย เมื่อวันที่ 26 เม.ย.
ล่าสุด ทำเนียบฯ ได้ยกระดับมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชน ช่างภาพ เข้ามาปฎิบัติหน้าที่ที่ทำเนียบฯ ตั้งแต่วันที่ 28 เม.ย.-9 พ.ค. เป็นเวลา 2 สัปดาห์ โดยจะเปิดให้เข้าปฎิบัติหน้าที่อีกครั้งในวันที่ 10 พ.ค. หลังจากประเมินสถานการณ์ของโรคแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ กองบัญชาการกองทัพบกก็มีคำสั่งงดให้สื่อมวลชนเข้าปฎิบัติหน้าที่ตั้งแต่ เมื่อวันที่ 26 เม.ย.แล้วเช่นกัน