วันที่ 27 เม.ย.64 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด ขอรายงานสถานการณ์โรคโควิด-19 ของจังหวัดร้อยเอ็ดรายใหม่ของการระบาดระลอกเมษายน 2564 พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น จำนวน 8 ราย ยอดสะสม 129 ราย ดังนี้ อำเภออาจสามารถ 5 ราย ผู้ติดเชื้อยืนยันสะสมรายที่ 122 (รายที่ 1 ของวันนี้เพศชาย อายุ 69 ปี ประวัติสัมผัสผู้ติดเชื้อยืนยัน จากกรุงเทพฯ ผู้ติดเชื้อยืนยันสะสมรายที่ 123 (รายที่ 2 ของวันนี้เพศหญิง อายุ 55 ปี ประวัติสัมผัสผู้ติดเชื้อยืนยัน จากกรุงเทพฯ ผู้ติดเชื้อยืนยันสะสมรายที่ 124 (รายที่ 3 ของวันนี้เพศหญิง อายุ 12 ปี ประวัติสัมผัสผู้ติดเชื้อยืนยันรายที่ 67 และ 101ของร้อยเอ็ด ผู้ติดเชื้อยืนยันสะสมรายที่ 125 (รายที่ 4 ของวันนี้เพศหญิง อายุ 54 ปี ประวัติสัมผัสผู้เดินทางจากจังหวัดสมุทรปราการ ผู้ติดเชื้อยืนยันสะสมรายที่ 126 (รายที่ 5 ของวันนี้)เพศหญิง อายุ 52 ปี ประวัติสัมผัสผู้ติดเชื้อยืนยันรายที่ 114 ของร้อยเอ็ด อำเภอเมืองร้อยเอ็ด 3 ราย ผู้ติดเชื้อยืนยันสะสมรายที่ 127 (ร้ายที่ 6 ของวันนี้เพศหญิง อายุ 41 ปี ประวัติสัมผัสผู้ติดเชื้อยืนยัน จากจังหวัดปทุมธานี ผู้ติดเชื้อยืนยันสะสมรายที่ 128 (รายที่ 7 ของวันนี้เพศหญิง อายุ 18 ปี ประวัติสัมผัสผู้ติดเชื้อยืนยัน จากจังหวัดปทุมธานี ผู้ติดเชื้อยืนยันสะสมรายที่ 129 (รายที่ 8 ของวันนี้)เพศหญิง อายุ 24 ปี ประวัติสัมผัสผู้ติดเชื้อยืนยัน จากกรุงเทพฯ ทีมปฏิบัติการสอบสวนโรค (CDCU) กำลังดำเนินการสอบสวนโรคและค้นหาผู้สัมผัสเสี่ยงสูงเข้ารับการตรวจหาเชื้อฯ และให้แยกกักตนเอง เป็นระยะเวลา 14 วัน ส่วนรายละเอียดประวัติเสี่ยงของผู้ติดเชื้อทั้ง 8 รายจะแจ้งใน Time Line ให้ทราบต่อไป ขณะนี้ มีการเกิดระบาดของโรคโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด กระจายอยู่ในหลายอำเภอ ปัจจัยเสี่ยงสำคัญพบว่า ส่วนใหญ่มาจากการติดเชื้อกับคนในครอบครัวเดียวกันและในกลุ่มเพื่อน ญาติพี่น้อง สูงถึงร้อยละ 29.29 ซึ่งส่วนใหญ่เป็น ผู้เดินทางกลับมาจากพื้นที่เสี่ยงสูง แล้วมาแพร่เชื้อให้คนในครอบครัว จากการไม่สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า การรับประทานอาหารร่วมกัน การจัดงานเลี้ยงสังสรรค์ การตั้งวงดื่มสุรา ตลอดจนการร่วมกิจกรรมในห้องที่อากาศไม่ถ่ายเท จังหวัดร้อยเอ็ด จึงขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนทุกท่าน พร้อมใจกันปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคโควิด-19อย่างเคร่งครัด เพื่อลดการสัมผัสเชื้อฯ ดังนี้ 1. สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า 100% เมื่อออกนอกบ้าน และเวลาพูดคุยกับผู้อื่นทั้งในบ้านและนอกบ้าน 2. อยู่บ้าน หลีกเลี่ยงการเดินทางโดยไม่จำเป็น 3. งดกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อสูง เช่น การจัดงานเลี้ยงสังสรรค์ทั้งในบ้านและนอกบ้าน 4. งดการตั้งวงดื่มสุราในทุกสถานที่ 5. หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารร่วมกัน ขอให้แยกสำรับอาหาร แยกอุปกรณ์ แบ่งเป็นชุดอาหารเฉพาะบุคคลและ แยกกันรับประทานอาหาร