"มนัญญา" เอาจริง ยกเลิกสหกรณ์ออมทรัพย์การค้าธุรกิจฯ หลังอ้างระบบสหกรณ์ว่อนเว็บไซต์ของบริษัทท่องเที่ยวแห่งหนึ่ง ทำธุรกรรมแชร์ลูกโซ่ ผิดกฎหมายชัด ระงับความเสียหาย เบื้องต้นพบ 2 ปี เสียหายกว่า 400 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 27 เม.ย. น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 22 เม.ย.64 กรมส่งเสริมสหกรณ์ (กสส.) ได้มีคำสั่งนายทะเบียนสหกรณ์ ที่ (สสพ.2)17/2564 เรื่องสั่งเลิกสหกรณ์ออมทรัพย์การค้าธุรกิจ บริการและผลิตภัณฑ์ผสมผสาน จำกัด มีผลให้สหกรณ์ดังกล่าวต้องหยุดการแอบอ้างชื่อสหกรณ์ไปทำธุรกรรมทันที ซึ่งการยกเลิกสหกรณ์ดังกล่าวเป็นผลมาจาก เมื่อวันที่ 26 มี.ค.64 ได้นำเจ้าหน้าที่กรมส่งเสริมสหกรณ์ และกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ เข้าตรวจสอบสหกรณ์ออมทรัพย์การค้าธุรกิจฯ ซึ่งพบข้อเท็จจริงว่ามีพฤติกรรมการกระทำธุรกิจของสหกรณ์ไม่เป็นไปตามบทบัญญัติสหกรณ์ แต่กลับมีพฤติกรรมนำระบบสหกรณ์ ล่อลวงให้ประชาชนเข้าใจผิดและฝากเงินจำนวนมาก ซึ่งก่อนหน้าได้มีการร้องเรียนเข้ามาที่ห้องรมช.เกษตรฯ เป็นกลุ่มที่มีความเสียหายประมาณ40-60 ล้านบาท จึงให้กรมส่งเสริมสหกรณ์และกรมตรวจบัญชีฯตรวจสอบตามกฎหมายมาก่อนหน้า จนที่สุดทางสหกรณ์ไม่สามารถที่จะแก้ไขตามที่กรมได้ให้คำแนะนำได้จึงเป็นเหตุที่ออกคำสั่งดังกล่าว
“ดิฉันลงพื้นที่ไปตรวจพร้อมกับเจ้าหน้าที่ทั้งสองกรม ซึ่งทางผู้แทนสหกรณ์ออมทรัพย์ฯก็ยอมรับว่าได้มีการกระทำผิดกฎหมายและระเบียบของกรมจริง ทั้งการรับฝากเงินบุคคลที่ไม่ได้เป็นสมาชิกสหกรณ์ และบัญชีที่รับฝากเงินไม่ได้เป็นบัญชีที่จดแจ้งกับ กสส. นอกจากนั้นยังพบว่ามีพฤติการณ์คล้ายแชร์ลูกโซ่ที่ใช้อัตราดอกเบี้ยและผลตอบแทนที่จูงใจมากกว่าที่กฎหมายกำหนดทำให้มีประชาชนสำคัญผิดและเข้าฝากเงินทั้งๆ ที่ไม่ได้เป็นสมาชิกสหกรณ์ เท่าที่ตรวจได้เบื้องต้นน่าจะมากกว่า 300-400 ล้านบาท ไม่นับที่ร้องมายังดิฉันเหตุจากผู้ฝากเงินไม่สามารถถอนเงินได้ จึงได้สอบสวนมาก่อนหน้าแล้ว การสั่งเลิกสหกรณ์ออมทรัพย์การค้าธุรกิจฯแห่งนี้ จึงเป็นการระงับความเสียหายที่จะมีต่อประชาชนที่จะหลงเชื่อมากไปอีกหากไม่ระงับเหตุ และจากนี้ให้เป็นนโยบายของกสส.ด้วยว่าหากสหกรณ์ใดไม่สามารถปิดบัญชีรายปีทุกปีได้ ต้องตรวจสอบเชิงลึกทันที”น.ส.มนัญญา กล่าว
ด้านนายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวว่า เหตุของการเลิกเนื่องจากสหกรณ์ออมทรัพย์การค้าธุรกิจ บริการและผลิตภัณฑ์ผสมผสาน จำกัด ไม่อาจดำเนินกิจการให้เป็นผลดีหรือดำเนินธุรกิจก่อให้เกิดความเสียหายต่อประโยชน์ของส่วนรวม จึงได้มีคำสั่งนายทะเบียนให้เลิกสหกรณ์ ซึ่งเป็นการอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 71(3) แห่งพระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ.2542 ประกอบคำสั่งนายทะเบียนสหกรณ์ ที่ 1/2562 สั่ง ณ วันที่ 27 พ.ค.62 และคำสั่งนายทะเบียนสหกรณ์ที่ 2/2562 สั่ง ณ วันที่ 27 พ.ค. 62
ทั้งนี้ คำสั่งนายทะเบียนสหกรณ์ สั่งยกเลิกสหกรณ์ออมทรัพย์การค้าธุรกิจ บริการและผลิตภัณฑ์ผสมผสาน จำกัด ระบุเหตุของการยกเลิก ประกอบด้วย 1.ที่ตั้งสำนักงานที่มีการจดแจ้งตามข้อบังคับกับสถานที่ทำธุรกรรมไม่ตรงกัน ขณะที่ไปมีป้ายชื่อสหกรณ์ฯไปติดที่บริษัท เวบสวัสดี จำกัด(มหาชน) ทำให้ประชาชนสำคัญผิดคิดว่าเป็นสำนักงานสหกรณ์จึงมีการหลงเชื่อสมัครเป็นสมาชิกและฝากเงิน 2.กรรมการสหกรณ์ ไม่มีการจัดประชุมเพื่อพิจารณาบริหารงานให้เป็นไปตามข้อบังคับ ตั้งแต่จดทะเบียนสหกรณ์ 3.การบันทึกบัญชีไม่เป็นปัจจุบัน เจ้าหน้าที่กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ได้ตรวจสอบและแนะนำให้ปรับปรุงบัญชีทั้งค่าตอบแทนเจ้าหน้าที่ จำนวนดอกเบี้ยค้างจ่าย ไม่สามารถแสดงสมุดบัญชีให้ตรวจสอบได้ โดยเจ้าหน้าที่ของสหกรณ์ฯแจ้งว่าไม่ทราบสมุดอยู่ที่ไหน ไม่ทราบกรรมการผู้ใดเก็บรักษา และรายงานความเคลื่อนไหวทางการเงินมีเพียง 2 บัญชี แต่จากการตรวจสอบพบว่ามี 6 บัญชีแต่ไม่ได้แจ้งต่อ กสส. 4.การดำเนินธุรกิจสหกรณ์ พบว่ามีการโฆษณาชวนเชื่อทางสื่อออนไลน์แก่บุคคลทั่วไปให้สมัครสมาชิก พร้อมจูงใจให้ฝากเงินด้วยผลตอบแทนที่เกินกฎหมายกำหนดไว้ที่จะไม่เกินร้อยละ 4 ต่อปี สหกรณ์มีการดำเนินธุรกิจรับฝากเงินจากสมาชิกและบุคคลที่ไม่มีคุณสมบัติตามกฎหมาย แต่ไม่ปรากฏว่ามีการนำเงินไปทำธุรกิจที่ก่อให้เกิดรายได้ที่จะนำมีผลตอบแทนมาให้ผู้ฝากเงินจึงไม่สอดคล้องกับข้อเท็จจริงในการดำเนินธุรกิจ 5.มีการใช้ชื่อสหกรณ์รับฝากเงินจากบุคคลในชื่อสหกรณ์ จำนวน 6 บัญชี แต่พบเพียง 2 บัญชีที่มีการเคลื่อนไหวทางการเงิน แต่อีก 4 บัญชีไม่มีสมุดบัญชีและเอกสารให้ตรวจสอบและไม่มีการบันทึกรายการบัญชีของสหกรณ์ จากเอกสารของผู้ร้องเรียนที่ฝากเงินแต่ไม่สามารถถอนได้จาก 4 บัญชีนี้จำนวน 41 ราย วงเงิน 214 ล้านบาท ซึ่งอาจมีรายอื่นที่ยังไม่สามารถตรวจสอบได้ ทั้งนี้ มีผู้ร้องบางรายได้แจ้งความดำเนินคดีแล้ว จากพฤติกรรมดังกล่าวของสหกรณ์ฯทำให้มีผู้ได้รับความเสียหายจำนวนมาก และมีความเสียหายมูลค่าสูง มีเจตนาหลอกลวงประชาชน เป็นการกระทำที่เข้าลักษณะฉ้อโกงประชาชนและมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 343 อาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของสมาชิกและประชาชนทั่วไป หากปล่อยให้สหกรณ์มีสถานะดำรงอยู่และมีการดำเนินการลักษณะนี้ต่อไปจะก่อความเสียหายต่อประชาชนในวงกว้างและอาจทำให้ขบวนการสหกรณ์ได้รับความเสียหายหรือเสื่อมเสียชื่อเสียง
นอกจากนี้ สหกรณ์มีสมาชิก ณ 30 มิ.ย.63 จำนวน 319 ราย และพบว่ามีการรับสมาชิกสมทบที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายและไม่มีการจัดทำทะเบียนสมาชิกสมทบจึงไม่สามารถตรวจสอบรายชื่อได้ นอกจากนั้นยังไม่เคยมีการประชุมคณะกรรมการสหกรณ์จึงไม่ปรากฏว่ามีผู้ใดทำหน้าที่ผู้จัดการสหกรณ์ และสหกรณ์ได้มีการออกระเบียบว่าด้วยการรับเงินฝากออมทรัพย์และการฝากประจำ พบว่ามีบัญชีออมทรัพย์ 271 บัญชี มีเงินคงเหลือรวม 3 แสนบาทและบัญชีฝากประจำ 16 บัญชี มีเงินคงเหลือ 3 ล้านบาท กรณีผู้ร้องเรียนไม่มีรายชื่อปรากฏในบัญชีสหกรณ์ ประกอบกับสหกรณ์ไม่มีการจัดทำทะเบียนคุมสมุดบัญชีเงินฝากที่ออกให้กับสมาชิกจึงไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าได้ออกสมุดบัญชีรับฝากไปแล้วเท่าไหร่ แต่จากการตรวจเอกสารผู้ร้องที่ไม่สามารถขอถอนเงินได้กลับพบว่า มีการโอนเข้าบัญชีสหกรณ์ที่ไปเปิดกับธนาคารอื่น ๆ ที่ไม่ได้แจ้งต่อกรมส่งเสริมสหกรณ์อีกจำนวน 3 บัญชีและพบว่าบันทึกช่วยจำในเอกสารการโอนแต่ละฉบับระบุผลตอบแทนเช่น เงินฝากสหกรณ์ 39 วัน ได้ดอกเบี้ยร้อยละ 10 ฝากสหกรณ์ 35,000 บาท รับทอง 6,000 บาท เป็นต้น ซึ่งผลตอบแทนดังกล่าวเกินกว่าอัตราที่ระเบียบฯของสหกรณ์กำหนด ประกอบกับไม่เป็นไปตามประกาศของนายทะเบียนสหกรณ์ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนที่หลงเชื่อและฝากเงินกับกลุ่มบุคคลที่อ้างตนเป็นคณะกรรมการสหกรณ์แห่งนี้ และไม่สามารถถอนเงินได้ ไปแจ้งความดำเนินคดีต่อผู้ที่กระทำผิดด้วย