พรรคกล้าได้เปิดคลับ “Idea I do” ในคลับเฮาส์ เพื่อระดมสมอง แก้ปัญหาให้กับประเทศชาติ ประเดิมกับหัวข้อแรก “เล่าเคสหาเตียงให้ผู้ป่วยโควิด" มีผู้สนใจเข้าร่วมแชร์ประสบการณ์ในแง่มุมต่าง ๆ กว่าพันคน นำโดย นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า พร้อมด้วยคนดังจากหลายวงการ อาทิ นายสาธิต ปิตุเดชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข,นาย ธีมะ กาญจนไพริน พิธีกรข่าวชื่อดัง, นายชีวานนท์ พรรัตน์ธนิกกุล นายกสมาคมสหพันธ์คนพิการไทย, แพทย์จากโรงพยาบาลรัฐและเอกชน, ศ.พญ.ศิราภรณ์ สวัสดิวร จากโรงพยาบาลเด็ก รวมทั้งผู้กล้า ว่าที่ผู้สมัครสส.จากหลายจังหวัดจากพรรคกล้า และจิตอาสาอีกมากมาย โดยผู้กล้า และจิตอาสา ได้แชร์ประสบการณ์จากการประสานงานช่วยเหลือผู้ป่วยว่า อาการที่จะได้รับการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนคือ ผู้สูงอายุ กลุ่มคนที่มีโรคประจำตัว กลุ่มที่บุคลากรทางการแพทย์ กังวลคือ ผู้ป่วยเบาหวาน ความดัน หัวใจ และโรคระบบทางเดินหายใจ กลุ่มพวกนี้ ไม่ค่อยแสดงอาการ แต่ถ้าแสดงอาการจะวิกฤต การให้การช่วยเหลือจะใช้ขั้นตอนมากขึ้น หรือหากเป็นหนุ่มสาว มีอาการท้องร่วงถ่ายท้องถี่มาก ถ้าเคสเหล่านี้มา ต้องรีบให้บริการเป็นลำดับแรก ในบางกรณี ติดกันทั้งครอบครัว ตั้งแต่คุณยายอายุ 87 ปี จนถึงหลานตัวเล็ก ๆ เพราะเป็นห้องแถวแคบ ๆ และที่น่าเห็นใจคือ ผู้ติดเชื้อในบางรายไม่สามารถเข้าถึงโซเชียลเพื่อขอความช่วยเหลือผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้เลย อีกรายอีกเคสเป็นเด็กไปเที่ยวติดมา 5 คน คนอื่น 4 คนได้เตียงหมดแล้ว แต่ตัวเองยังไม่ได้และพยายามประสานงานทุกทาง มีคนติดต่อโทร.กลับมา 120 สาย แต่ส่วนใหญ่จะถามอาการ และบอกจะช่วยเหลือแต่ทั่งหมดก็เงียบหายไป กระทั่งจิตอาสาพรรคกล้าได้เข้าช่วยเหลือจนได้เตียงเป็นที่เรียบร้อย ในบางรายก็จองผ่านทางไลน์ @sabaideebot ในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์จะโกลาหลมาก ด้านนายกรณ์ จาติกวณิช กล่าวว่า เราได้เตรียมผู้กล้าไว้ทั่วประเทศ เพื่อเป็นจิตอาสาช่วยเหลือผู้เดือดร้อนที่อยู่ต่างจังหวัดให้ได้รับการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน และอาจต้องมีการวางระบบเรื่องน้ำดื่ม อาหารสำหรับผู้สูงอายุ สิ่งที่น่ากังวลถ้าต้องอยู่กับสถานการณ์นี้ไปอีกนาน และยอดยังคงวันละสองพันราย เตียงที่จะรองรับผู้ป่วยก็จะวิกฤตขึ้นเรื่อย ๆ และสิ่งที่อดเป็นห่วงไม่ได้คือ ช่วงนี้ประชาชนเดือดร้อนมาก จากสภาวะเศรษฐกิจโดยภาพรวม คนอาจจะยอมติดเชื้อ เพื่อให้ได้เงินประกัน ตามที่ได้มีการโฆษณาจากบริษัทประกันว่า “เจอ จ่าย จบ” นอกจากนี้ยังขอเรียกร้องไปยัง โรงพยาบาลเอกชน ต้องไปทบทวนบทบาทของตัวเองว่าได้ช่วยเหลือประชาชนบ้างหรือยัง การที่บอกว่าโรงพยาบาลเต็มนั้น เต็มแบบไหน แล้วน้ำยาหมดนั้น หมดจริง หรือไม่ ทำไมบางคนตรวจได้และบางคนไม่ได้ตรวจ พอสอบถามไปก็บอกว่า ตรวจให้เนื่องจากเป็นลูกค้าเก่า เวลานี้ในภาคส่วนของราชการก็ปรับปรุงระบบขึ้นเรื่อย ๆ เอกชนก็ต้องปรับตัว เพื่อให้ประชาชนผ่านวิกฤตนี้ไปได้ แม้จะดูเหมือนว่าจะไม่เร็วก็ตาม ขณะที่ จั๊ด ธีมะ ผู้สื่อข่าวชื่อดัง ร่วมแสดงความเห็นว่า ในช่วงสถานการณ์วิกฤต แม้ประชาชนจะกลัวโควิด 19 แต่อาจจะไม่กลัวเท่าประสิทธิภาพการสื่อสารของรัฐบาลที่ดีพอ ทำให้เขาขาดความเชื่อมั่นและหมดหวัง เช่นเดียวกับนางสาว วิพัตรา โตเต็มโชคชัยการ นักวิชาการด้านนโยบายทางสังคม ที่บอกว่าได้ทำงานด้านสุขภาพจิตก็มีความกังวลว่า ทุกวันนี้คนเครียด วิตก ซึมเศร้ามากขึ้น และเป็นในหลาย ๆ ครอบครัว ที่อาจนำไปสู่การฆ่าตัวตาย เนื่องจากไร้ที่พึ่งและทางออกในการแก้ไขปัญหา เนื่องจากวิกฤตครั้งนี้หนักกว่า “ต้มยำกุ้ง” จึงอยากให้ทุกคนช่วยกันที่จะส่งต่อพลังของคนไทย ส่วนนายชีวานนท์ นายกสมาคมสหพันธ์คนพิการไทย บอกว่า สิ่งที่หลายคนอาจจะยังมองข้ามคือ ถ้าคนพิการติดจะปฏิบัติอย่างไร รัฐได้มีการเตรียมความพร้อมสำหรับคนกลุ่มนี้หรือไม่ เพราะคนพิการจะต้องมีเตียงเฉพาะ และการดูแลที่แตกต่างไปจากคนปกติ ตอนนี้มีติดไม่กี่รายยังพอรับได้ และหากเกิดวิกฤตจะทำอย่างไร ดังนั้นจึงอยากให้สอบถามไปทาง สายด่วนคนพิการ 1479 อาจจะช่วยอธิบายถึงความต้องการได้ ด้านนายกรณ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า คลับ Idea I Do ทางคลับเฮาส์ จะเป็นช่องทางหนึ่งของพรรคกล้าในการระดมสมองอย่างสร้างสรรค์ร่วมกับประชาชน ผู้เชี่ยวชาญ และผู้มีความสนใจในประเทศต่างๆ โดยพรรคกล้า จะใช้ช่องทางนี้ในการเชือมโยงกับประชาชนอย่างเป็นระบบ ระหว่างการทำงานของผู้กล้าในพรรคกับประชาชนต่อไป