วันที่ 2ุ6 เมษายน 2564 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยว และกีฬา กล่าวว่า ทางคณะทำงาน Hua Hin Recharge นำโดย นายกรด โรจนเสถียร กรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยและนายกสมาคมสปาไทย ได้เข้ามานำเสนอแผนการฟื้นฟูการท่องเที่ยว เปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในพื้นที่เทศบาลเมืองหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างภาครัฐ และเอกชนที่จะทำงานเพื่อฟื้นฟูการท่องเที่ยวไทยให้กลับมาในเร็ววัน สำหรับโครงการ Hua Hin Recharge เป็นความร่วมมือของภาครัฐ การท่องเที่ยว โรงพยาบาลสาธารณสุข ภาคเอกชนในธุรกิจท่องเที่ยวและการบริการ เช่น โรงแรม ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า ธุรกิจรถเช่า บริษัททัวร์ เป็นต้น ในพื้นที่หัวหิน เพื่อให้เกิดความร่วมมือในการบริหารจัดการการฉีดวัคซีนแก่ประชาชนในพื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพ ร่วมกันสร้างความเข้าใจและให้ความรู้ที่ถูกต้องแก่ประชาชนในพื้นที่ รวมไปถึงการขอความเห็นชอบจาก ศบค. ให้พื้นที่เทศบาลหัวหินเป็นพื้นที่ได้รับการพิจารณาการจัดสรรวัคซีนอย่างเร่งด่วน โดยสามารถฉีดวัคซีนได้งแต่วันที่ 1 มิถุนายนนี้ เป็นต้นไป และครบถ้วนตามเป้าหมาย 70% ของประชากรในพื้นที่ ภายในวันที่ 30 กันยายน เพื่อกำหนดพื้นที่หัวหินเป็นพื้นที่สามารถเปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศได้รับการฉีดวัคซีนครบถ้วน ให้เดินทาง มาพักในพื้นที่ได้โดยไม่ต้องกักตัว ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2564 เป็นต้นไป ในการนำไปสู่การฟื้นฟูเศรษฐกิจ และการจ้างงาน ทั้งในพื้นที่และภาพรวมของประเทศ ซึ่ง นายพิพัฒน์ กล่าวว่า ทางกระทรวงฯ เร่งหารือกับทางรัฐบาลเพื่อขอให้บุคลากรในภาคธุรกิจท่องเที่ยวและบริการได้รับวัคซีนเป็นกลุ่มแรกๆ โดยในเฟสแรกได้ดำเนินการขอวัคซีนให้บุคลากรในภาคธุรกิจท่องเที่ยวและบริการ 5 จังหวัด ได้แก่ ภูเก็ต กระบี่ พังงา เชียงใหม่ และชลบุรี เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนในเฟสที่ 2 กำลังเตรียมการเสนอขอวัคซีนให้จังหวัดแหล่งท่องเที่ยวสำคัญเพิ่มเติมอีกทั้งสิ้น 4 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และบุรีรัมย์ เพื่อรองรับการจัดการแข่งขันมอเตอร์ จีพีที่จะจัดขึ้นในเดือนมิถุนายน นี้ด้วย ในปัจจุบันทางรัฐบาลได้จัดหาวัคซีนเพิ่มเติมได้แล้วทั้งสิ้น 63 ล้านโดส และกำลังอยู่ระหว่างจัดหาวัคซีนให้ครบ 100 ล้านโดส ครอบคลุมประชากร 70% ของประเทศ ซึ่งคาดว่าเดือนพฤษภาคมนี้ประเทศไทยจะได้รับวัคซีนยี่ห้อ สปุตนิค วี (Sputnik V) และ ไฟเซอร์ (Pfizer) เพิ่มอีก 10 ล้านโดส