นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ธนาคารได้เร่งดำเนินการช่วยเหลือลูกค้าของธนาคารที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ผ่านมาตรการพักชำระเงินต้น มาตรการลดอัตราดอกเบี้ยและพักชำระเงินต้น รวมแล้วกว่า 5 แสนบัญชี มีทั้งการพักเงินต้น จ่ายดอกเบี้ยอย่างเดียว,การลดอัตราดอกเบี้ยให้อัตโนมัติและพักเงินต้น โดยในส่วนนี้มีลูกค้าเข้าร่วมมาตรการค่อนข้างเยอะ ซึ่งมาตรการที่ดำเนินการเพื่อเป็นการประคับประคองสถานะของลูกหนี้ ไม่ให้กลายเป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ซึ่งจะทำให้เสียเครดิตจนไม่สามารถกู้เงินได้ในอนาคต
โดยธนาคารมีการประเมินว่า จากผลกระทบของการระบาดของโควิด-19 จะมีลูกค้าของธนาคารที่มีปัญหา ประมาณ 7-8 แสนราย โดยระหว่างนี้ก็มีลูกค้าทยอยเข้ามาแสดงความจำนงเข้าร่วมมาตรการช่วยเหลือของธนาคารอย่างต่อเนื่อง ส่วนการระบาดของโควิด-19 ในรอบเม.ย.64 ธนาคารยังไม่สามารถประเมินได้ชัดเจนว่าจะมีลูกค้าได้รับผลกระทบหนักแค่ไหนและจำนวน เท่าไหร่จากเป้าหมายเดิม แต่หากมีลูกค้าที่ได้รับผลกระทบมากขึ้นก็พร้อมพิจารณาขยายเวลามาตรการช่วยเหลือออกไปได้ตามความเหมาะสม
“ผลกระทบจากการระบาดในระลอกเดือนเม.ย.64 ยังไม่ออก จะเริ่มเห็นสัญญาณว่าลูกค้าได้รับผลกระทบน่าจะช่วงสิ้นเดือนเม.ย.ถึงสิ้นเดือนพ.ค.64 ช่วงนั้นน่าจะเห็นชัดเจนแบบเต็มๆว่า ทิศทางจะเป็นอย่างไร ดังนั้น ตอนนี้จึงยังประเมินไว้เท่าเดิมก่อนว่าลูกค้าจะเข้ามาตรการช่วยเหลือที่ราว 8 แสนราย แต่ถ้าท้ายที่สุดมีจำนวนเพิ่มขึ้นก็พร้อมจะพิจารณาขยายเวลามาตรการช่วยเหลือออกไป แต่ตอนนี้ลูกค้าที่มีปัญหาก็ยังสามารถเข้ามาตรการได้ เพราะมาตรการยาวถึงสิ้นเดือนมิ.ย.64”
สำหรับลูกหนี้ของธนาคารส่วนใหญ่ เป็นลูกหนี้ในกลุ่มเปราะบาง ซึ่งตั้งแต่การระบาดของโควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมา ธนาคารได้มีการติดตามอย่างใกล้ชิด หากลูกหนี้มีปัญหาก็เร่งดำเนินการช่วยเหลือทันทีเพื่อป้องกันไม่ให้ลูกหนี้กลายเป็นหนี้เสียในอนาคต