วันที่ 25 เม.ย.64 พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ โฆษกกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เปิดเผยถึงกรณีการแชร์ข่าวปลอมบนสื่อสังคมออนไลน์ในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ว่า เนื่องด้วยสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ประกอบกับนโยบายของรัฐบาลที่ส่งเสริมการ Work From Home ทำให้พี่น้องประชาชนต้องอยู่บ้านกันมากขึ้นเพื่อป้องกันและลดอัตราเสี่ยงการติดเชื้อ จากการแพร่ระบาดดังกล่าว ส่งผลให้วิถีชีวิตของพี่น้องประชาชนเปลี่ยนไป และมีการทำกิจกรรมต่างๆ บนสื่อสังคมออนไลน์มากยิ่งขึ้น แต่ก็ยังมีการแชร์ข้อมูลข่าวสารซึ่งไม่เป็นความจริงหรือข่าวปลอมกันเป็นจำนวนมากบนสื่อสังคมออนไลน์ อย่างกรณีมีการแชร์ข่าวสารว่าในพื้นที่เยาวราชนั้นมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 เป็นจำนวนมาก ขอให้งดการเดินทางไปพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งภายหลังศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย ได้ออกมาชี้แจงกรณีดังกล่าวไม่เป็นความจริง หรือกรณีการแชร์ข่าวสารว่า ในพื้นที่มี่ทำการไปรษณีย์ สาขาเพชรบุรีซอย 19 มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 10 กว่าราย ซึ่งภายหลังการตรวจสอบก็พบว่าไม่เป็นความจริงเช่นกัน ซึ่งผลการการแชร์ข้อมูลดังกล่าว ทำให้ประชาชนได้เกิดความตื่นตระหนกจนไม่กล้าเดินทางไปพื้นที่ดังกล่าว ทำให้ผู้ประกอบกิจการในพื้นที่ได้รับผลกระทบ และในช่วงการระบาดของเชื้อโควิด-19 ที่การใช้ชีวิตเป็นไปอย่างลำบากและเศรษฐกิจย่ำแย่อยู่แล้วยังเป็นการซ้ำเติมจิตใจของพี่น้องประชาชนอีกด้วย "การกระทำลักษณะดังกล่าว อาจจะเข้าข่ายความผิดฐาน นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 มาตรา 14(2) จำคุกไม่เกิน 5 ปีหรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง ที่ผ่านมา พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. มีนโยบายให้ทุกหน่วยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รวมถึงกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ให้เร่งสร้างการรับรู้ให้กับพี่น้องประชาชน ให้ทราบถึงพิษภัยในรูปแบบต่างๆ นอกจากนี้ยังได้เร่งสั่งการให้ พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผบช.สอท. ได้ขับเคลื่อน โดยการเร่งทำการสืบสวนปราบปราม จับกุมผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดี เพื่อเป็นการจำกัดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น และตัดโอกาสในการกระทำความผิดต่อไป"