วันที่ 25 เม.ย.64 นายพิสุทธิ์ เบี้ยวโกฎิ อายุ 32 ปี ชาวบ้าน หมู่ 4 บ้านท่าวังหิน ต.เขาข้าว อ.ปราณบุรี จ.ประจวบฯ เปิดเผยว่า หลังว่างเว้นจากอาชีพการเกษตร ได้พาครอบครัวออกไปหาจับตัวอ่อนจั๊กจั่นเพื่อนำไปประกอบอาหารเป็นเมนูเด็ด และส่งขายสร้างรายได้ ขณะนี้มีรายได้เสริมวันละ 500 บาท แก้ปัญหาขาดรายได้ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 สำหรับจั๊กจั่น มีให้จับครั้งเดียวช่วงระยะเวลา 3 เดือน โดยมีตัวอ่อนจักจั่นออกจากพื้นดินมาลอกคราบติดปีกบนต้นไม้และยอดหญ้าสูง 30-50 เซนติเมตร (ซม.)เพื่อรอเวลาเป็นตัวแก่ก่อนจะบินไปหาคู่ผสมพันธุ์ตามธรรมชาติ
“ ช่วงเวลาที่ตัวอ่อนของจั๊กจั่นจะขึ้นจากดินมาลอกคราบ เป็นช่วงเย็นพลบค่ำ ตั้งแต่เวลา 18.00-22.00 น. จากนั้นปีกก็จะแข็งแล้วบินได้ ทำให้จับยากขึ้น แต่ละคืนจะจับได้มากกว่า 3 กิโลกรัม บางส่วนจะนำไปทอดโรยเกลือ ผัดเผ็ด หรือคั่ว ส่วนหนึ่งจะแบ่งไปส่งขายให้กับแม่ค้าที่รับซื้อในตลาดปราณบุรี กิโลกรัมละ 250 บาท พ่อค้ารับซื้อไม่อั้น ทำให้ช่วยบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายในครอบครัว เป็นรายได้เสริมหลังเลิกจากงานในไร่เพื่อให้อยู่รอดผ่านพ้นไปได้ แต่ละปีจะจับตัวอ่อนจั๊กจั่นได้ช่วงเดือนเมษายนถึงเดือนมิถุนายน ช่วงนี้จะเป็นช่วงที่ตัวอ่อนขึ้นจากดินมาลอกคราบบนต้นไม้มากที่สุด และช่วงหลังฝนตกเนื่องจากหน้าดินนิ่มทำให้ตัวอ่อนสามารถมุดขึ้นจากดินมาลอกคราบบนต้นไม้ได้ง่าย “นายพิสุทธิ์ กล่าว
“ ช่วงเวลาที่ตัวอ่อนของจั๊กจั่นจะขึ้นจากดินมาลอกคราบ เป็นช่วงเย็นพลบค่ำ ตั้งแต่เวลา 18.00-22.00 น. จากนั้นปีกก็จะแข็งแล้วบินได้ ทำให้จับยากขึ้น แต่ละคืนจะจับได้มากกว่า 3 กิโลกรัม บางส่วนจะนำไปทอดโรยเกลือ ผัดเผ็ด หรือคั่ว ส่วนหนึ่งจะแบ่งไปส่งขายให้กับแม่ค้าที่รับซื้อในตลาดปราณบุรี กิโลกรัมละ 250 บาท พ่อค้ารับซื้อไม่อั้น ทำให้ช่วยบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายในครอบครัว เป็นรายได้เสริมหลังเลิกจากงานในไร่เพื่อให้อยู่รอดผ่านพ้นไปได้ แต่ละปีจะจับตัวอ่อนจั๊กจั่นได้ช่วงเดือนเมษายนถึงเดือนมิถุนายน ช่วงนี้จะเป็นช่วงที่ตัวอ่อนขึ้นจากดินมาลอกคราบบนต้นไม้มากที่สุด และช่วงหลังฝนตกเนื่องจากหน้าดินนิ่มทำให้ตัวอ่อนสามารถมุดขึ้นจากดินมาลอกคราบบนต้นไม้ได้ง่าย “นายพิสุทธิ์ กล่าว