เรียกว่าเป็นดราม่าเดือดในโลกออนไลน์ หลังจากตลกดังอย่าง “น้าค่อม” ติดโควิด-19 จึงต้องเข้าพักรักษาตัวในโรงพยาบาล จากนั้นอาการของน้าค่อมก็ทรุดหนักลง เพราะมีอาการไตวายและเชื้อลงปอด จึงต้องย้ายเข้าไปในห้องไอซียู เพื่อให้ออกซิเจนและฟอกไต
จากนั้นลูกสาวน้าค่อมได้อัพเดตอาการของพ่อให้แฟนคลับทุกคนได้ทราบ ก่อนร้องไห้และฝากไปถึงทีมแพทย์ที่เคยรักษาผู้ป่วยที่มีลักษณะคล้ายกัน ให้ติดต่อเข้ามาและช่วยเหลือพ่อของตนด้วย รวมถึงพี่น้องในวงการที่ออกมาให้กำลังใจ
งานนี้ชาวเน็ตได้วิพากษ์วิจารณ์ โดยมองว่าแพทย์พยาบาลช่วยทุกคนอยู่แล้ว พร้อมมองไม่อยากให้ใช้สิทธิพิเศษ จากการเป็นคนดังของน้าค่อม นอกจากนี้ยังกลายเป็นประเด็นมากขึ้นไปอีก หลังจากมีดีเจคนดังโพสต์อินสตาแกรมส่วนตัวชี้แจงว่า น้าค่อมได้ย้ายไปรักษาที่โรงพยาบาลรามาธิบดีแล้ว ด้วยความช่วยเหลือจากนายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข พร้อมกับลงรูปนายสาธิต เพื่อกล่าวขอบคุณ
ทำให้เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักถึงความเอกสิทธิ์ชนที่ใช้เส้นสายและหน้าที่การงาน เพื่อให้เข้าถึงการรับบริการทางการแพทย์ที่ดีกว่า ขณะที่ประชาชนทั่วไปไม่สามารถเข้าถึงบริการในแบบเดียวกันได้ ซึ่งสะท้อนถึงความเหลื่อมล้ำ
ต่อมาชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นและตั้งคำถามถึงนายสาธิต ปิตุเตชะ ในเพจ หมอตี้ สาธิต ปิตุเตชะ โดยระบุว่าต้องช่วยกันทุกคนสิ และขอให้แปะเบอร์มือถือไว้เลย ค่าความเป็นมนุษย์ ความเป็นประชาชนคนไทยเราเท่ากันไหม
อย่างไรก็ตามหมอตี้ สาธิต ปิตุเตชะ ได้มาตอบว่า โทร.มาเสียเวลาครับ อินบล็อกมาในเพจเลย พร้อมขอข้อมูลส่วนตัว พร้อมยืนยันตนและทีมงานยินดีช่วยผู้ป่วยทุกคนให้ได้รับการรักษาอย่างเท่าเทียมกัน และได้ช่วยไปหลายร้อยรายแล้วก่อนหน้านี้ เพียงแต่ไม่เป็นข่าว
จากนั้นมีชาวเน็ตมาถามอีกว่า สร้างความเหลื่อมล้ำในสังคมได้ชัดเจนเลยในการช่วยเหลือ ก่อนหมอตี้ สาธิต ปิตุเตชะ จะมาตอบว่า ใช่ครับ เหลื่อมล้ำมากในการออกสื่อ ผมและทีมงานช่วยหาเตียงให้ผู้ป่วยหลายร้อยรายแล้วก่อนน้าค่อม แต่ไม่เป็นข่าว ยืนยันช่วยเหลือทุกคนอย่างเท่าเทียมกันต่อไป ถ้ารู้จักหรือพบเห็นผู้ป่วยไม่ได้รับการรักษา ไม่มีเตียง ติดต่อเข้ามาได้ ยินดีช่วยทุกราย
จากนั้นชาวเน็ตรายเดิมได้มาตอบว่า น้าค่อมมีเตียงอยู่แล้วไม่ใช่เหรอครับ และรพ.แรกก็มีศักยภาพเพียงพอทุกอย่าง หรือผมเข้าใจผิด