วันที่ 23 เม.ย.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสืบเนื่องได้รับแจ้งว่ามีเจ้าอาวาสสำนักสงฆ์ภูหินกองได้เสียชีวิตโดยได้ใช้เครื่องกิโยตินตัดคอตนเองจนเสียชีวิต คือพระธรรมกร หรือนายธรรมกร วังปรีชาอายุ 68 ปี อยู่ที่ 250 หมู่ 13 ตำบลหนองบัว อำเภอเมือง จังหวัดหนองบัวลำภู และตรงจุดที่ฆ่าตัวตายมีรูปปั้นคล้ายๆกับพระอินทร์ไม่มีศรีษะ และมือทั้งสองได้ถือศรีษะคล้ายกับโดนตัดไว้ในมือทั้งสองข้าง และต่อมาทางคณะกรรมการของจังหวัดที่ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู แต่งตั้งที่ประชุมมีมติให้ทุบรูปปั้นคนคอขาด และให้นำไปทิ้งนอกสำนักสงฆ์
ทางด้าน พ.ต.ท.เจษฎา ศรีกวนชา รอง ผกก.สืบสวน สภ.เมืองหนองบัวลำภู ได้เปิดเผยว่าทางสำนวนในคดีคืบหน้าไปเยอะมาก แบ่งกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนออกเป็น 3 ชุด ออกหาข่าวทางลับ โดยมีการเรียกลูกศิษย์ที่อยู่ในภาพถ่าย ในวันก่อนเกิดเหตุ และหลังเกิดเหตุมาให้ปากคำกว่า 10 ปากแล้ว โดยจะได้รวบรวมหลักฐานเสนอต่อผู้บังคับบัญชาให้พิจารณาต่อไป
และในวันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญตัวนายจันทร์ทยากร พรหมสิทธิ์ อายุ 64 ปี ผู้ขับรถยนต์ขนไม้และเหล็กเครื่องกิโยตินนำไปเก็บไว้ที่พักสงฆ์วัดป่าถ้ำเพียอินทร์ บ้านทับกุง หมู่ที่ 3 ต.ทับกุง อ.หนองแสง จ.อุดรธานี พบชิ้นส่วนไม้และเหล็กที่ประกอบเครื่องกิโยติน เก็บอยู่ในโรงไม้ มีเหล็กกล่องขนาดด้านข้างกว้าง 2 นิ้ว ด้านบนกว้าง 4 นิ้ว ยาว 6 เมตร จำนวน 4 ท่อน และไม้ท่อนแปรรูปด้านข้างกว้าง 1.5 นิ้ว ด้านบนกว้าง 3 นิ้ว (ไม้หน้าสาม)ความยาว 3 เมตร 40 ท่อน และไม้ท่อนแปรรูปด้านข้างกว้าง 1.5นิ้ว ด้านบนกว้าง 3 นิ้ว ( ไม้หน้าสาม) ยาว 1 เมตร 40 ท่อน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามไปยึดของกลางทั้งหมดมาเก็บรักษาไว้ที่ สภ.เมืองหนองบัวลำภู
ซึ่งนายจันทร์ทยากร พรหมสิทธิ์ ได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า ตนเองเป็นผู้ที่ขับรถขนเครื่องกิโยตินจริง โดยในวันที่ 29 มี.ค.2564 พระธรรมกร ได้พูดคุยกับตนว่าหลังจากเสร็จพิธีให้มาขนไม้และเหล็ก กลับไปไว้ที่สำนักสงฆ์ให้นำไปสร้างกุฎิ หรือทำประโยชน์ โดยตนเองได้เดินทางมาที่สำนักสงฆ์ภูหินกอง ในวันที่ 15 เม.ย.2564 เวลาประมาณ 07.00 น.พอมาถึงก็มีลูกศิษย์ของพระธรรมกร ประมาณ 15 คนได้มาช่วยขนของทั้งหมดขึ้นรถ และเห็นโลงที่ใส่ร่างของพระธรรมกรตั้งอยู่ด้านบนของฐานหลังรูปปั้น และมาทราบข่าวว่าท่านละสังขารแบบนี้ก็รู้สึกตกใจ โดยในวันนี้ได้เดินทางมาให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ สภ.เมืองหนองบัวลำภู ข่าวคืบหน้าผู้สื่อข่าวจะรายงานให้ทราบต่อไป
และในวันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญตัวนายจันทร์ทยากร พรหมสิทธิ์ อายุ 64 ปี ผู้ขับรถยนต์ขนไม้และเหล็กเครื่องกิโยตินนำไปเก็บไว้ที่พักสงฆ์วัดป่าถ้ำเพียอินทร์ บ้านทับกุง หมู่ที่ 3 ต.ทับกุง อ.หนองแสง จ.อุดรธานี พบชิ้นส่วนไม้และเหล็กที่ประกอบเครื่องกิโยติน เก็บอยู่ในโรงไม้ มีเหล็กกล่องขนาดด้านข้างกว้าง 2 นิ้ว ด้านบนกว้าง 4 นิ้ว ยาว 6 เมตร จำนวน 4 ท่อน และไม้ท่อนแปรรูปด้านข้างกว้าง 1.5 นิ้ว ด้านบนกว้าง 3 นิ้ว (ไม้หน้าสาม)ความยาว 3 เมตร 40 ท่อน และไม้ท่อนแปรรูปด้านข้างกว้าง 1.5นิ้ว ด้านบนกว้าง 3 นิ้ว ( ไม้หน้าสาม) ยาว 1 เมตร 40 ท่อน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามไปยึดของกลางทั้งหมดมาเก็บรักษาไว้ที่ สภ.เมืองหนองบัวลำภู
ซึ่งนายจันทร์ทยากร พรหมสิทธิ์ ได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า ตนเองเป็นผู้ที่ขับรถขนเครื่องกิโยตินจริง โดยในวันที่ 29 มี.ค.2564 พระธรรมกร ได้พูดคุยกับตนว่าหลังจากเสร็จพิธีให้มาขนไม้และเหล็ก กลับไปไว้ที่สำนักสงฆ์ให้นำไปสร้างกุฎิ หรือทำประโยชน์ โดยตนเองได้เดินทางมาที่สำนักสงฆ์ภูหินกอง ในวันที่ 15 เม.ย.2564 เวลาประมาณ 07.00 น.พอมาถึงก็มีลูกศิษย์ของพระธรรมกร ประมาณ 15 คนได้มาช่วยขนของทั้งหมดขึ้นรถ และเห็นโลงที่ใส่ร่างของพระธรรมกรตั้งอยู่ด้านบนของฐานหลังรูปปั้น และมาทราบข่าวว่าท่านละสังขารแบบนี้ก็รู้สึกตกใจ โดยในวันนี้ได้เดินทางมาให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ สภ.เมืองหนองบัวลำภู ข่าวคืบหน้าผู้สื่อข่าวจะรายงานให้ทราบต่อไป