เมื่อเวลา11.00 น.วันที่ 23 เม.ย.ที่กองร้อย ตชด.244 บึงกาฬ อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ พล.ต.บุญสิน พาดกลาง ผู้บัญชาการกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี พล.ต.ต.ยงเกียรติ มนปราณีต รอง ผบช.ตชด.พล.ต.ต.สมศักดิ์ คงไพบูลย์ ผบก.ภ.จว.บึงกาฬ นายภิญโญ โฆสิต ผอ.ปปส.ภ4.นายวราดิศร อ่อนนุช ปลัดจังหวัดบึงกาฬ ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมนายสุดเขต มูลสุข อายุ 41 ปี บ้านเลขที่ 185 หมู่ที่ 6 ต.บ้านเดื่อ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย พร้อมของกลางยาบ้าประมาณ 334,000 เม็ด และรถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า สีเทา ทะเบียน ฒย 719 กรุงเทพมหานคร.1 คันหลังมารับของกลางดังกล่าวบริเวณข้างกอไผ่ ท้ายสวนยางพาราใกล้กับ ริมแม่น้ำขง บ้านเวินโดน ต.ปากคาด อ.ปากคาด จ.บึงกาฬ เวลาไล่เลี่ยกันเจ้าหน้าที่พบยาบ้าอีกกว่า 1,780,000 เม็ด ไอซ์น้ำหนักประมาณ 58 กิโลกรัม และวัตถุลักษณะเป็นเกร็ดขาวใสคล้ายไอซ์ ห่อสีเขียวเขียนด้วยภาษาไทยว่า “ชาเขียวหอมพิเศษ”จำนวน 203 ห่อ วัตถุลักษณะเป็นเกร็ดขาวใสคล้ายไอซ์ ห่อสีทองจำนวน 286 ห่อ และข้าวสารบรรจุในห่อสีเขียว ระบุเป็นชาเขียวหอมพิเศษ จำนวน 76 ห่อ รวมมูลค่าของกลางทั้งหมดกว่า 250 ล้านบาท ทั้งนี้สืบเนื่องจาก ปปส.ภาค 4 ทราบว่ากลุ่มผู้ค้ายาเสพติดจาก สปป.ลาว มีความเคลื่อนไหวจะนำยาเสพติดล็อตใหญ่มาส่งให้กลุ่มผู้ค้ายาเสพติดชาวไทย บริเวณริมแม่น้ำโขง บ้านเวินโดน ต.ปากคาด อ.ปากคาดจำนวนมาก ดังนั้น พ.ต.อ.เพิ่มศักดิ์ ตาตะนันทน์ ผกก.ตชด.24 จึงได้สั่งการให้ พ.ต.ท.พลสันติ์ คมขาว ผบ.ร้อย ตชด.244 ร.ต.อ.สมพงษ์ พบวันดี รอง ผบ.ตชด.244 สนธิกำลังกับ พ.ต.อ.สุกฤษณ์ ข้อร่วมคิดผกก.สืบสวน ภ.จว.บึงกาฬ พ.ต.อ.ดาบทอง อุภัยพรม ผกก.สภ.ปากคาด พ.ต.อ.เอกนรินทร์ สุวรรณทา ผกก.ตม.บึงกาฬ พ.อ.มงคล หอทอง ผบ.บก.ควบคุมที่ 2 (ร.13) น.อ.ราฆพ เทวะประทีป ผบ.นรข.เขตหนองคาย พ.ต.ท.ปิยะณัฐ ปะโสทะกัง สว.ตร.น้ำบึงกาฬ และฝ่ายปกครองนำกำลังวางแผนดักซุ่มเพื่อจับกุมกลุ่มขบวนการส่งยานรกทันที กระทั่งเวลาประมาณ 02.00 น.ขณะที่ จนท.ตชด.244 ทหารพราน ร้อย 2106 ตำรวจชุดสืบสวน ตำรวจน้ำและนรข.รัตนวาปีซุ่มอยู่พบเรือติดเรื่องยนต์วิ่งข้ามมาจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน จากนั้นมีกลุ่มชายฉกรรจ์แบกกระสอบขึ้นมากองไว้ริมฝั่งน้ำโขง จากนั้นมีรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า สีเทา ทะเบียน ฒย 719 กรุงเทพมหานคร วิ่งเข้ามาจอด กลุ่มชายฉกรรจ์จึงได้แบกกระสอบเข้าไปไว้ในรถและวางไว้บริเวณข้างกอไผ่แล้วรีบวิ่งลงไปริมตลิ่งและขับเรือออกไปยังฝั่ง สปป.ลาว จากนั้นชายคนขับเข้าไปจัดของเช้าที่ในรถพร้อมกับแบกกระสอบสวนที่เหลือขึ้นรถเอง จนท.จึงแสดงตัวเข้าจับกุมทราบชื่อนายสุดเขต หรือเอ็ม มูลสุข อายุ 41 ปี บ้านเลขที่ 185 หมู่ที่ 6 ต.บ้านเดื่อ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย ตรวจสอบภายในรถยนต์ พบยาบ้าจำนวนมาก บรรจุภายในกระสอบสีน้ำเงินจำนวน 2 ใบ วางอยู่บริเวณเบาะโดยสารด้านหน้าข้างซ้าย หลังจากนั้นไม่นาน จนท.ได้ยินเสียงเครื่องยนต์เรือดังมาจากฝั่ง สปป.ลาว เข้ามาจอดห่างเพียง 200 เมตร จึงซุ่มเงียบได้ยินเสียงคล้ายการวางวัตถุที่มีน้ำหนักมากลงบนพื้นหลายครั้ง จากนั้นได้ยินเสียงเครื่องยนต์เรือดังกลับไปทางฝั่ง สปป.ลาว จึงนำกลังเข้าไปตรวจสอบ พบว่าภายในเป็นยาเสพติด(ยาบ้า) และยาเสพติด(ไอซ์) จำนวนมาก บรรจุภายในกระสอบสีขาวห่อหุ้มด้วยถุงพลาสติกสีดำ จำนวน 23 กระสอบ จึงร่วมกันตรวจยึดและนำของกลางทั้งหมดมายัง ร้อย ตชด.244 เพื่อตรวจสอบโดยละเอียด ผลการตรวจสอบเป็นยาเสพติด(ยาบ้า) ประมาณ 1,780,000 เม็ด ไอซ์ จำนวน 58 ห่อ น้ำหนักประมาณ 58 กิโลกรัม วัตถุลักษณะเป็นเกร็ดขาวใสคล้ายไอซ์(ห่อสีเขียว) จำนวน 203 ห่อ วัตถุลักษณะเป็นเกร็ดขาวใสคล้ายยาไอซ์(ห่อสีทอง)จำนวน 286 ห่อ และข้าวสารบรรจุในห่อสีเขียว(ระบุเป็นชาเขียวหอมพิเศษ)จำนวน 76 ห่อ จึงร่วมกันตรวจยึด พล.ต.บุญสิน พาดกลาง ผบ.กกล.สุรศักดิ์มนตรี กล่าวว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การว่าเป็นนักกีฬาเปตองมือดีระดับจังหวัดหนองคาย เดินสายคว้าถ้วยและเงินรางวัลมามากมาย ก่อนถูกจับกำลังจะไปเล่นเปตองแต่น้องชาว สปป.ลาว ติดต่อมาให้มารับยาเสพติดไปส่งให้นักค้ายาเสพติดพื้นที่ อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย ต่ออีกทอดหนึ่งหลังถูกจับกุมได้ปล่อยโฮออกมาตลอดเวลา อ้างว่าตัวเองถูกหลอกให้มาถูกจับในครั้งนี้ ส่วนของกลางที่ยึดได้ที่มีลักษณะเป็นเกร็ดขาวใสคล้ายไอซ์ ปะปนมากับเศษโพมและเมล็ดข้าวสาร พิสูจน์หลักฐานไม่สามารถตรวจสอบได้ ต้องส่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบอีกครั้งว่าเป็นไอซ์จริงหรือไม่ หากไม่ใช่คงเป็นการโกงกันเองของกลุ่มผู้ค้ายาที่นำเกร็ดขาวใสคล้ายไอซ์ปะปนเข้ามาในกระสอบยาไอซ์ให้ดูเหมือนว่าเป็นไอซ์ทั้งหมด ส่วนยาบ้าล็อตนี้มีทั้ง แบบ Y1(เม็ดหนาสีแดง) และสิงโตเหยียบโลกโลโก้สีแดงและสีน้ำเงิน(เม็ดเล็กบางสีส้ม)ซึ่งส่วนมากจะพบในเขตชายแดนภาคเหนือเท่านั้น สำหรับของกลางล็อตนี้มีมูลค่ากว่า 250 ล้านบาท ด้าน พล.ต.ต.ยงเกียรติ มนปราณีต รอง ผู้บัญชาการ.ตชด.กล่าวว่า ช่วงโควิดระบาด ตชด.ได้รับมอบหมายให้เข้มงวดตรวจตราการลักลอบหลบหนีเข้าเมืองรวมทั้งปราบปรามป้องกันยาเสพติดตามแนวชายแดน ส่วนนโยบายท่าน พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.ได้เน้นการให้ไล่จับกุมรายย่อยรายละ 100-200 เม็ดเพื่อขยายผลจับกุมรายใหญ่ เป้าหมายปลายทางคือเพื่อยึดทรัพย์ ซึ่งจะไม่เน้นจับรายใหญ่โดยตรง ที่ผ่านมาเมื่อ 2 วันก่อนก็ได้ผลดีอย่างมาก หลังจากจับรายละ 100 เม็ดได้ ขยายผลจับกุมราย 2-3-4 ได้ยาบ้ากว่า 4 ล้านเม็ดและยึดทรัพย์ได้จำนวนมาก.