องค์การเภสัชกรรม แจงปมแก้ไขวันหมดอายุวัคซีนซิโนแวค ชี้แต่ละประเทศกำหนดต่างกัน โดยจีนกำหนด 3 ปี แต่อย.ไทยพิจารณาเอกสาร ข้อมูลต่างๆ ให้ระบุอายุไว้ 6 เดือน โดยใช้สติ๊กเกอร์ของ องค์การเภสัชปิดทับทั้ง 4 ด้าน แต่สามารถสแกนคิวอาร์โค้ดตรวจสอบได้
วันที่ 23 เม.ย.64 ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม พร้อมด้วย ภญ.ศิริกุล เมธีวีรังสรรค์ รองผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม ร่วมแถลงกรณีมีการเผยแพร่ข้อมูลผ่านโซเชียลมีเดียระบุวัคซีนโควิดของซิโนแวค ที่นำเข้าจากประเทศจีน มีการแก้ไขวันหมดอายุ ในเรื่องนี้
นพ.วิฑูรย์ กล่าวว่า ไทยได้นำเข้าวัคซีนโควิดของซิโนแวค จำนวน 2 ล้านโดสแล้ว โดยล็อตแรก จำนวน 2 แสนโดส ล็อตที่สองจำนวน 8 แสนโดส และล็อตที่สามรับไปก่อนสงกรานต์จำนวน 1 ล้านโดส และพรุ่งนี้จะเป็นล็อตที่สี่ อีก 5 แสนโดส โดยบรรจุภัณฑ์ของจีน ทำการระบุอายุยาหลังจากวันผลิตไว้ 3 ปี เมื่อมาถึงสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) ของไทย ได้พิจารณาจากข้อมูลและเอกสารประกอบจึงให้กำหนดอายุวัคซีนอยู่ที่ 6 เดือน ทำให้ล็อตสองที่ส่งมาจากจีนจึงระบุอายุวัคซีนไว้ 6 เดือนตามที่เราแจ้งไป แต่เนื่องจากความต้องการจากตลาดโลกเยอะมาก แต่ละประเทศก็ไม่เหมือนกัน ซึ่งแต่ละปนะเทศได้กำหนดอายุของวัคซีนต่างกัน เช่น ฮ่องกงให้อายุ 1 ปี อินโดนีเซีย และไทยให้อายุ 6 เดือน ทำให้ทางผู้ผลิตไม่สามารถแก้ไขให้ไม่ไหว ให้แต่ละที่ดำเนินการแก้เอง ทำให้ล็อตสามที่ส่งมาทางผู้ผลิตได้ระบุอายุวัคซีนไว้ 3 ปี ตามเดิม ทำให้เราต้องแก้ไขด้วยการใช้สติ๊กเกอร์ของ องค์การเภสัชปิดทับทั้ง 4 ด้าน แต่สามารถสแกนคิวอาร์โค้ดได้ ทั้งนี้ การแก้ไขเปลี่ยนแปลงนั้นได้รับความเห็นชอบจาก อย.เป็นที่เรียบร้อย ทั้งนี้ จะมีหนังสือแจ้งเวียนไปยังโรงพยาบาลต่างๆเพื่อความเข้าใจที่ตรงกันต่อไป
ด้าน ภญ.ศิริกุล กล่าวว่า ขณะนี้การผลิตวัคซีนป้องกัน โควิด-19 อยู่ในภาวะเร่งด่วน ทุกประเทศมีความต้องการสูง แต่ในส่วนของการผลิตหากต้องเปลี่ยนฉลากวันหมดอายุไปตามความต้องการของแต่ละประเทศอาจทำให้ผลิตไม่ทันได้
กรณีมีการขีดฆ่าวันหมดอายุนั้น ไม่ได้มาจากต้นทางขององค์การฯ แต่อย่างใด อาจมีผู้หวังดีเข้าใจว่า อายุคลาดเคลื่อนจึงไปแก้ไข แต่ขอยืนยันว่า สติ๊กเกอร์ที่อภ.ติดทั้ง 4 ด้าน ส่วนด้านที่เป็นอายุยาจะแปะแค่คิวอาโคด้ เพราะแปะไม่ทัน เพราะเกรงว่า คนจะเข้าใจผิดที่องค์การเภสัชกรรมไปเปลี่ยนอายุยา อย่างไรก็ตามไม่มีผลกระทบต่อผลิตภัณฑ์ โดยก่อนการตัดสินใจทุกอย่างได้พิจารณาข้อมูลทุกด้านเพื่อความปลอดภัยของประชาชน ดังนั้น ขอให้ประชาชนมั่นใจและไม่ตระหนก และยืนยันว่าวัคซีนตัวนี้มีคุณภาพ ขอให้มั่นใจไม่มีการนำวัคซีนหมดอายุเข้ามาแน่นอน และความสับสนก็จะมีล็อต 8 แสนเท่านั้น จากนั้นจะเป็นคิวอาร์โค้ด ซึ่งจะไม่มีการขีดฆ่า หรืออะไรให้เข้าใจคลาดเคลื่อน
วันที่ 23 เม.ย.64 ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม พร้อมด้วย ภญ.ศิริกุล เมธีวีรังสรรค์ รองผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม ร่วมแถลงกรณีมีการเผยแพร่ข้อมูลผ่านโซเชียลมีเดียระบุวัคซีนโควิดของซิโนแวค ที่นำเข้าจากประเทศจีน มีการแก้ไขวันหมดอายุ ในเรื่องนี้
นพ.วิฑูรย์ กล่าวว่า ไทยได้นำเข้าวัคซีนโควิดของซิโนแวค จำนวน 2 ล้านโดสแล้ว โดยล็อตแรก จำนวน 2 แสนโดส ล็อตที่สองจำนวน 8 แสนโดส และล็อตที่สามรับไปก่อนสงกรานต์จำนวน 1 ล้านโดส และพรุ่งนี้จะเป็นล็อตที่สี่ อีก 5 แสนโดส โดยบรรจุภัณฑ์ของจีน ทำการระบุอายุยาหลังจากวันผลิตไว้ 3 ปี เมื่อมาถึงสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) ของไทย ได้พิจารณาจากข้อมูลและเอกสารประกอบจึงให้กำหนดอายุวัคซีนอยู่ที่ 6 เดือน ทำให้ล็อตสองที่ส่งมาจากจีนจึงระบุอายุวัคซีนไว้ 6 เดือนตามที่เราแจ้งไป แต่เนื่องจากความต้องการจากตลาดโลกเยอะมาก แต่ละประเทศก็ไม่เหมือนกัน ซึ่งแต่ละปนะเทศได้กำหนดอายุของวัคซีนต่างกัน เช่น ฮ่องกงให้อายุ 1 ปี อินโดนีเซีย และไทยให้อายุ 6 เดือน ทำให้ทางผู้ผลิตไม่สามารถแก้ไขให้ไม่ไหว ให้แต่ละที่ดำเนินการแก้เอง ทำให้ล็อตสามที่ส่งมาทางผู้ผลิตได้ระบุอายุวัคซีนไว้ 3 ปี ตามเดิม ทำให้เราต้องแก้ไขด้วยการใช้สติ๊กเกอร์ของ องค์การเภสัชปิดทับทั้ง 4 ด้าน แต่สามารถสแกนคิวอาร์โค้ดได้ ทั้งนี้ การแก้ไขเปลี่ยนแปลงนั้นได้รับความเห็นชอบจาก อย.เป็นที่เรียบร้อย ทั้งนี้ จะมีหนังสือแจ้งเวียนไปยังโรงพยาบาลต่างๆเพื่อความเข้าใจที่ตรงกันต่อไป
ด้าน ภญ.ศิริกุล กล่าวว่า ขณะนี้การผลิตวัคซีนป้องกัน โควิด-19 อยู่ในภาวะเร่งด่วน ทุกประเทศมีความต้องการสูง แต่ในส่วนของการผลิตหากต้องเปลี่ยนฉลากวันหมดอายุไปตามความต้องการของแต่ละประเทศอาจทำให้ผลิตไม่ทันได้
กรณีมีการขีดฆ่าวันหมดอายุนั้น ไม่ได้มาจากต้นทางขององค์การฯ แต่อย่างใด อาจมีผู้หวังดีเข้าใจว่า อายุคลาดเคลื่อนจึงไปแก้ไข แต่ขอยืนยันว่า สติ๊กเกอร์ที่อภ.ติดทั้ง 4 ด้าน ส่วนด้านที่เป็นอายุยาจะแปะแค่คิวอาโคด้ เพราะแปะไม่ทัน เพราะเกรงว่า คนจะเข้าใจผิดที่องค์การเภสัชกรรมไปเปลี่ยนอายุยา อย่างไรก็ตามไม่มีผลกระทบต่อผลิตภัณฑ์ โดยก่อนการตัดสินใจทุกอย่างได้พิจารณาข้อมูลทุกด้านเพื่อความปลอดภัยของประชาชน ดังนั้น ขอให้ประชาชนมั่นใจและไม่ตระหนก และยืนยันว่าวัคซีนตัวนี้มีคุณภาพ ขอให้มั่นใจไม่มีการนำวัคซีนหมดอายุเข้ามาแน่นอน และความสับสนก็จะมีล็อต 8 แสนเท่านั้น จากนั้นจะเป็นคิวอาร์โค้ด ซึ่งจะไม่มีการขีดฆ่า หรืออะไรให้เข้าใจคลาดเคลื่อน