กระทรวงเกษตรฯ ผนึกกระทรวงพาณิชย์ ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ตลาดนำการผลิต ตั้งอนุกรรมการและคณะทำงานจัดทำแผนขับเคลื่อนการพัฒนาคนและผลิตภัณฑ์ใน 4 กลุ่มสินค้าเกษตรให้ตรงกับความต้องการของตลาด และสร้างแพลตฟอร์มกลาง “เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด” เพิ่มความเชื่อมั่นด้านคุณภาพ มาตรฐานความปลอดภัยและการตรวจสอบย้อนกลับให้โดนใจผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ
เมื่อวันที่ 23 เม.ย. ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ ได้แต่งตั้งคณะกรรมการร่วมเพื่อขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ตลาดนำการผลิต รวมทั้งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการย่อย 4 คณะ ประกอบด้วย 1.คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการสร้างและใช้ข้อมูลจากฐานเดียวกัน (Single Big Data) เพื่อพัฒนาระบบฐานข้อมูลให้มีความเชื่อมโยงกันและสามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งาน เข้าถึงได้ง่าย สะดวก รวดเร็ว 2.คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการสร้างแพลตฟอร์มกลาง "เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด" โดยตั้งเป้าหมายหลักเพื่อให้เกิดการซื้อขายสินค้าเกษตรมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
3.คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการสร้างความเชื่อมั่นด้านคุณภาพ มาตรฐาน ความปลอดภัยและการตรวจสอบย้อนกลับ ตั้งเป้ายกระดับสินค้าเกษตรและอาหารไทยไปสู่ระดับมาตรฐานพื้นฐานตามที่ตลาดต้องการ และ 4.คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการพัฒนาคนและผลิตภัณฑ์ให้ตรงตามความต้องการของตลาด วางแนวทางพัฒนาคุณภาพสินค้าเกษตร รวมถึงพัฒนาหลักสูตรให้แก่บุคลากร ตอบโจทย์ให้ตรงตามความต้องการของตลาดต่อไป
ด้านนายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการพัฒนาคนและผลิตภัณฑ์ให้ตรงตามความต้องการของตลาด ได้มีมติแต่งตั้งคณะทำงานจัดทำแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนการพัฒนาคนและผลิตภัณฑ์ จำนวน 4 คณะ ใน 4 กลุ่มสินค้า
ประกอบด้วย 1.สินค้าข้าว พืชไร่และพืชสวน 2.สินค้าผลไม้ 3.สินค้าปศุสัตว์ และ 4.สินค้าประมง ซึ่งคณะทำงานจัดทำแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนการพัฒนาคนและผลิตภัณฑ์สินค้าข้าว พืชไร่ และพืชสวน เห็นชอบกำหนดกลุ่มสินค้าเป้าหมาย จำนวน 3 ชนิด ได้แก่ สินค้าข้าว มันสำปะหลัง และยางพารา โดยกำหนดสินค้าข้าว และมันสำปะหลังเป็นสินค้านำร่อง (Quick win) ในการจัดทำแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนดังกล่าว และจะส่งเสริม พัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการและผู้ส่งออกเพื่อรองรับการค้ายุคใหม่ สร้างความสามารถในการแข่งขันของสินค้าและผลิตภัณฑ์ให้ตรงตามความต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศ สนับสนุนให้มีการนำเทคโนโลยีมาใช้เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน สร้างแรงจูงใจให้คนรุ่นใหม่หันมาทำการเกษตรมากขึ้น รวมถึงส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากวัสดุเหลือใช้จากทางการเกษตรมาผลิตเป็นสินค้านวัตกรรมและพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอนในสถาบันการศึกษา เพื่อพัฒนาทักษะสร้างองค์ความรู้ด้านต่างๆ เช่น กลยุทธ์ด้านการตลาดทั้งออฟไลน์ ออนไลน์ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ การสร้างแบรนด์ เป็นต้น
ส่วนคณะทำงานจัดทำแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนการพัฒนาคนและผลิตภัณฑ์สินค้าผลไม้ เห็นชอบกำหนดกลุ่มสินค้าเป้าหมาย จำนวน 4 ชนิด คือ ทุเรียน มะม่วง มังคุด และลำไย โดยวางแนวทางการพัฒนาคนให้สามารถผลิตสินค้ามีคุณภาพได้มาตรฐาน มีระบบการจัดการหลังการเก็บเกี่ยวของทุเรียน มะม่วง มังคุด และลำไยที่เหมาะสม สร้างความเข้มแข็งให้กับเกษตรกรและองค์กรเกษตรกร พัฒนาเกษตรกรให้เป็นผู้ประกอบการด้านการเกษตร มีความรู้ในการสร้างมูลค่าเพิ่มและแปรรูปสินค้าเกษตร และเข้าถึงนวัตกรรมและเทคโนโลยีการเกษตรสมัยใหม่ ทั้งนี้ คณะทำงานฯ ได้กำหนดให้ทุเรียนเป็นสินค้านำร่อง (Quick win) ปี 2564-2565 ในการจัดทำแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนดังกล่าว มุ่งเน้นการป้องกันและแก้ไขปัญหาทุเรียนด้อยคุณภาพออกสู่ตลาด (ภาคตะวันออก) เริ่มตั้งแต่ช่วงก่อนฤดูผลไม้ออกจะต้องจัดฝึกอบรมพัฒนาเจ้าหน้าที่และเกษตรกรชาวสวนทุเรียนทุกระดับทั้งมือตัด มือคัด สถาบันเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน Smart Farmer,Young Smart Farmer,ผู้ประกอบการ (ล้ง) สมาพันธ์ทุเรียนฯ เป็นต้น
สำหรับคณะทำงานจัดทำแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนการพัฒนาคนและผลิตภัณฑ์สินค้าปศุสัตว์ เห็นชอบกำหนดกลุ่มสินค้าเป้าหมาย จำนวน 6 ชนิด คือ นมโค เนื้อโค เนื้อสุกร ไก่เนื้อ ไข่ไก่ และเนื้อแพะ โดยได้วางแนวทางการพัฒนาคนให้มีองค์ความรู้ เทคโนโลยี และนวัตกรรม ที่สามารถผลิตสินค้ามีคุณภาพ ได้มาตรฐาน พัฒนาผลิตภัณฑ์ปศุสัตว์ให้มีมูลค่าเพิ่มและตรงตามความต้องการของตลาด ส่วนคณะทำงานจัดทำแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนการพัฒนาคนและผลิตภัณฑ์สินค้าประมง เห็นชอบกำหนดกลุ่มสินค้าเป้าหมาย จำนวน 2 ชนิด คือ กุ้งขาว และกุ้งก้ามกราม โดยแนวทางการพัฒนาเริ่มจากต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ เพิ่มขีดความสามารถการผลิตของเกษตรกรให้เป็นไปตามมาตรฐานการผลิตที่ระเบียบและกฎหมายกำหนด พัฒนาสายพันธุ์ให้เป็นไปตามความต้องการของตลาด
ทั้งนี้ มติที่ประชุมยังได้มอบหมายให้คณะทำงานฯ ปรับปรุงแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนการพัฒนาคนและผลิตภัณฑ์ให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น โดยแบ่งกลุ่มคนภาคเกษตรในอนาคตของประเทศไทย ออกเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ 1.กลุ่มเศรษฐกิจพอเพียง/กลุ่มพื้นฐาน/กลุ่มอนุรักษ์ 2.กลุ่มคนที่ทำเกษตรแปรรูป 3.กลุ่มผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร/ผู้บริโภค และ 4.กลุ่มนักวิชาการ ภาคประชาสังคม (NGO) เพื่อจัดทำแผนพัฒนากำลังคนภาคเกษตรในอนาคตต่อไป