เมื่อวันที่ 23 เม.ย. 64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ออกประกาศชี้แจงว่า เมื่อวันที่ 22 เม.ย. 2564 ช่วงค่ำ ได้รับรายงานว่า พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต. ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยเป็นการพบจากการตรวจคัดกรองแบบสวอป (Swab) โดยขณะนี้ได้ประสานงานกับกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เพื่อส่งตัวเข้ารับการรักษาทันทีที่พบเหตุแล้ว
จากการตรวจสอบประวัติการเจ็บป่วยเบื้องต้นพบว่า เป็นผู้ป่วยเป็นคนไข้ในกลุ่มไม่แสดงอาการ และยังไม่ทราบสาเหตุการติดเชื้อดังกล่าว โดยตั้งแต่ช่วงเทศกาลสงกรานต์เป็นต้นมา ไม่ได้มีประวัติเดินทางไปสถานที่แห่งใด นอกจากบ้านพัก และสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ในการนี้สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งได้ร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อค้นหาบริเวณพื้นที่เสี่ยงเพื่อแจ้งให้ผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยรายนี้ ทั้งกลุ่มเสี่ยงสูงและกลุ่มเสี่ยงต่ำทราบเพื่อดำเนินการตรวจหาเชื้อเพิ่มเติม หรือกักตัวเองเป็นเวลา 14 วัน และตรวจดูอาการต่อไปแล้ว
ทั้งนี้ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ร่วมมือกับกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้วางมาตรการและดำเนินการปฏิบัติตามมาตรการในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพื่อควบคุมสถานการณ์ ดังนี้ 1. ทำการสอบสวนเบื้องต้นเพื่อค้นหาและคัดแยกผู้ที่มีความใกล้ชิดและอยู่ในข่ายมีความเสี่ยงที่อาจติดเชื้อ 2. ประสานกับกรมควบคุมโรคจัดชุดปฏิบัติการเข้ามาตรวจหาเชื้อผู้ที่อยู่ในข่ายมีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อในวันที่ 23 เม.ย. 2564 ณ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง หากพบว่าผู้ใดติดเชื้อจะให้เข้ารับการรักษาตามมาตรการที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด แต่หากยังไม่พบว่าติดเชื้อจะให้ผู้มีความเสี่ยงสูงได้กักตัวเพื่อรอดูอาการและให้ตรวจหาเชื้อซ้ำตามกำหนดเวลา
3. ให้ทุกส่วนงานได้ตรวจสอบพนักงานที่มีอาการป่วยหรือได้มีโอกาสใกล้ชิดผู้ที่มีความเสี่ยง หรือเข้าไปในสถานที่เสี่ยงได้ไปตรวจหาเชื้อเพื่อเป็นการป้องกัน 4. ดำเนินการพ่นยาฆ่าเชื้อบริเวณสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง อาคารรัฐประศาสนภักดี 5. ประสานกับกระทรวงสาธารณสุขเพื่อขอความอนุเคราะห์ในการจัดหาวัคซีนมาทำการฉีดให้กับผู้บริหารและพนักงานของสำนักงานฯ เป็นกรณีเร่งด่วน
สำนักงานกกต. ขอเรียนให้ทราบว่า คณะกรรมการการเลือกตั้งและสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งมีความห่วงใยต่อสุขภาพของประชาชนที่ต้องติดต่อราชการกับสำนักงาน รวมทั้งผู้บริหารและพนักงานของสำนักงานเป็นอย่างยิ่ง โดยจะดำเนินการตามมาตรการในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เพื่อเฝ้าระวัง ติตตามสถานการณ์และแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นจากการแพร่ระบาดของเชื้อโรคดังกล่าว ตามแนวทางมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) คณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ และคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด กำหนดโดยเคร่งครัดต่อไป