ดนตรี / รุ่งฟ้า ลิ้มหัสนัยกุล
ตอนที่ ทินา เทอร์เนอร์ กลับมาประสบความสำเร็จอีกครั้งเมื่อปี 1984 กับอัลบั้ม Private Dancer ตอนนั้น เธออายุ 44 ปีแล้ว เป็นการ “เกิดใหม่” ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ดนตรี เพราะนอกจากเพลง “What’s Love Got to Do With It” จะติดอันดับ 1 บนตารางอันดับเพลง บิลบอร์ด (เพลงแรกและเพลงเดียวของเธอ) มันยังขายได้มากกว่าล้านแผ่นทั่วโลก และทำให้เธอคว้ารางวัล แกรมมี่ ไปถึง 3 สาขา Record of the Year, Song of the Year และ Best Female Pop Vocal Performance
หลังจากนั้น โลกได้เห็นและสัมผัส “พลัง” อันล้นเหลือของผู้หญิงผิวดำจากชุมชนเล็กๆชื่อ นัทบุช ในรัฐเทนเนสซี ที่ที่หากย้อนไปกว่าค่อนทศวรรษที่ผ่านมา หลายคนคงพิศวงสงสัยว่าเด็กหญิงเก็บฝ้ายตัวเล็กๆคนนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากไหนกัน ถึงกลายมาเป็นซูเปอร์สตาร์ได้ แล้วยังทรงอิทธิพล-เป็นแบบอย่างให้ผู้หญิงจำนวนมากในการลุกขึ้นมายืนด้วยตัวเองด้วยความภาคภูมิ และเป็นแรงบันดาลใจให้ศิลปินหญิงรุ่นหลังหลายต่อหลายคน
แอนนา เม บุลล็อค คือชื่อสกุลจริง เกิดในครอบครัวแตกแยก แม่ของเธอหนีไปตั้งแต่เธอยังเด็ก “ฉันคิดว่าแม่เตรียมตัวไว้ตั้งแต่ตั้งท้องฉันแล้วล่ะ” ทินา เขียนไว้ในหนังสืออัตชีวประวัติ I, Tina พ่อแต่งงานใหม่แล้วย้ายครอบครัวไปอยู่ที่ดีทรอยต์ ส่วนเธอกับพี่สาวอีกสองคนถูกส่งไปอยู่กับยายที่เมืองบราวน์สวิลล์, เทนเนสซี่ เริ่มต้นอาชีพตั้งแต่วัยรุ่นด้วยการร้องเพลงในไนต์คลับในเซนต์หลุยส์และอีสต์ เซนต์หลุยส์ เธอได้พบกับ ไอค์ เทอร์เนอร์ และวง คิงส์ ออฟ ริธึ่ม เป็นครั้งแรกที่คลับ แมนฮัตตัน ในอีสต์ เซนต์หลุยส์ เธอขอเขาร้องเพลงแต่เขาไม่สนใจจนกระทั่งวันหนึ่ง ระหว่างพัก มือกลองของวงส่งไมค์ให้ เธอร้องเพลง “You Know I Love You” ของ บี.บี.คิง ตอนนั้นเองที่ ไอค์ ให้ความสนใจ แล้วเธอก็ร้องเพลงในช่วงที่เหลือของคืนนั้น
จาก แอนนา เม บุลล็อค กลายมาเป็น ลิทเทิ่ล แอนน์ นักร้องหญิงประจำวง มี “Box Top” เป็นเพลงแรกที่บันทึกเสียงคู่กับ ไอค์ และ คาร์ลสัน โอลิเวอร์ แต่เพลงที่เธอบันทึกเสียงเดี่ยวเพลงแรกคือ “A Fool in Love” ที่ตอนแรก ไอค์ ตั้งใจเขียนให้นักร้องอีกคนโดยมีเธอร้องประสาน แต่จากเสียงร้องในเดโมตอนแรก ความแข็งแรงโดดเด่นในน้ำเสียงถูกใจผู้บริหารค่ายเพลงอาร์แอนด์บีอย่าง ซู เรคคอร์ดส์ ทำให้เธอมีเพลงแรกของตัวเอง พร้อมชื่อสกุลใหม่ที่ ไอค์ ตั้งให้ว่า ทินา เทอร์เนอร์
“A Fool in Love” ติดอันดับ 2 ในชาร์ทอาร์แอนด์บีและอันดับ 27 ใน บิลบอร์ด ไอค์ ต่อยอดความสำเร็จด้วยการทำวงใหม่ชื่อ ไอค์ แอนด์ ทินา เทอร์เนอร์ รีวิว มีเพลงฮิทต่อเนื่องทั้งเพลงตัวเองและคัฟเวอร์ โดยเฉพาะ “Proud Mary” ของ ซี.ซี.อาร์. ที่กลายเป็นเพลงประจำตัว ทินา มาจนปัจจุบัน
ความสัมพันธ์ของ ไอค์ กับ ทินา เป็นมากกว่าเพื่อนร่วมงาน ทั้งคู่แต่งงานกันในปี 1963 มีลูกชายด้วยกัน 1 คน (ทินา มีลูกชาย 1 คนกับ เรย์มอนด์ ฮิลล์ มือแซ็กซ์วง คิงส์ ออฟ ริธึ่มที่ย้ายกลับบ้านก่อนลูกเกิด) ชีวิตคู่ของเธอล้มเหลว ไอค์ ทำร้ายร่างกายเธอบ่อยครั้งจนเธอทนไม่ไหว เคยกินยานอนหลับเกินขนาดจนเกือบตายเมื่อปี 1968 หลังการทะเลาะเบาะแว้งหนักหน่วงในปี 1976 ทินา หนีออกมา โดยที่ทั้งเนื้อทั้งตัวเหลือเงินเพียง 36 เซ็นต์ กับเครดิตเติมน้ำมันเท่านั้นเอง
ทินา หย่าขาดจาก ไอค์ อีกสองปีต่อมา ทิ้งความขื่นขมไว้ข้างหลัง แล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่ในฐานะศิลปินเดี่ยว มี Rough กับ Love Explosion ออกมา 2 ชุดแต่ไม่ประสบความสำเร็จ จนกระทั่งปี 1984 ทินา กลับมาอย่างยิ่งใหญ่ในฐานะ “ราชินีร็อค แอนด์ โรลล์” เป็นนักร้องผู้หญิงผิวดำคนแรกที่ได้ขึ้นปกนิตยสาร โรลลิ่ง สโตน ได้แสดงในภาพยนตร์หลายเรื่อง แล้วยังมีภาพยนตร์ว่าด้วยชีวิตของเธอชื่อ What’s Love Got to Do With It (1993) นำแสดงโดย แอนเจลา บาสเส็ทท์ เธอมีสตูดิโออัลบั้มออกตามมาอีกห้าชุดด้วยกัน (หนึ่งในนั้นเป็นซาวนด์แทร็ก) แม้จะไม่ประสบผลสำเร็จเช่นเดียวกับ Private Dancer แต่เธอทำเงินกับการทัวร์ได้เป็นกอบเป็นกำทดแทน
ทินา เทอร์เนอร์ ออกทัวร์ต่อเนื่องจนถึงปี 2009 มี Tina: The 50th Anniversary Tour เป็นทัวร์สุดท้าย หลังจากนั้น เธอใช้ชีวิตสงบสุขกับ เอ็ดวิน บ๊าค สามีที่แต่งงานกันในปี 2017 ที่บ้านพักในเมืองซูริก สวิตเซอร์แลนด์ ในวัย 81 ถึงจะไม่ได้ร้องเพลงเป็นจริงเป็นจังอย่างแต่ก่อน ทว่าเธอก็ยังมีงานเล็กๆ น้อยๆออกมาให้แฟนเพลงคลายคิดถึง ไม่ว่าจะเป็นหนังสือ การร้องเพลงศาสนา (เธอนับถือพุทธ) และมีการนำชีวิตเธอไปทำเป็นละครเพลง ล่าสุดกับ Tina สารคดีที่เปิดเปลือยชีวิตของเธออย่างละเอียด
ท่ามกลางความขึ้น-ลงของชีวิต ทินา เทอร์เนอร์ ไม่เคยท้อแท้สิ้นหวัง เธอแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งที่มีผ่านออกมาในผลงานเพลงและการแสดงสดที่สุดแสนจะตื่นตาตื่นใจ
“ฉันเป็นเด็กผู้หญิงจากทุ่งฝ้ายที่ดึงตัวเองออกมาจากความพินาศย่อยยับและความผิดพลาดมากมายได้สำเร็จ” เธอให้คำจำกัดความตัวเองไว้เช่นนั้น